ยูจีน โอ’เคลลี

ยูจีน โอ’เคลลี ผู้บริหาร “ความตาย” ได้อย่างน่าชื่นชม

ยูจีน โอ’เคลลี ผู้บริหาร “ความตาย” ได้อย่างน่าชื่นชม

ชายวัย 52 ปีคนหนึ่งเป็นประธานและซีอีโอของบริษัทการบัญชีรายใหญ่ มีธุรกิจปลีกย่อยในเครือหลายบริษัท มีพนักงานในบริษัทหลายหมื่นคน

เขากำลังประสบความสำเร็จสูงสุดในหน้าที่การงาน เต็มเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์และพลังที่จะก้าวไปข้างหน้า ส่วนเรื่องครอบครัวเขาก็อยู่ในช่วงที่มีความสุขไม่แพ้กันทุกอย่างดูลงตัวไปหมด เว้นเสียก็แต่สุขภาพของตนเอง ใครจะรู้ครับว่าเขากำลังป่วยเป็นโรคมะเร็งในสมองขั้นสุดท้าย

 

 

เขามาโรงพยาบาลด้วยอาการตาพร่า มองเห็นไม่ชัดมาประมาณหนึ่งเดือน จากนั้นแขนขาที่เคยมีกำลังและทำงานได้ดีก็เริ่มอ่อนแรงลงเรื่อย ๆ หลังจากทราบว่าเขาป่วยเป็นโรคมะเร็งสมองชนิดรุนแรงระยะสุดท้าย แพทย์ได้แนะนำว่า

“คุณควรใช้เวลาที่เหลือประมาณ 3 เดือนเตรียมตัวจัดการกับเรื่องต่าง ๆ ในชีวิตให้ดี”

นั่นทำให้ชีวิตที่เหลือของเขาเปลี่ยนไป จากชายที่มีความมุ่งมั่นในชีวิตและเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังที่พร้อมจะแบ่งปันให้คนรอบตัว เขากลายเป็นคนซึมเศร้า เก็บตัว ไม่ยอมพบปะผู้คน รวมถึงคนในครอบครัว เบื่ออาหาร และใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนอนมองเพดานอยู่บนเตียง ธุรกิจการงานของบริษัทก็แทบจะหยุดชะงัก และเริ่มประสบปัญหาขาดทุนเพราะนอกจากเขาก็ไม่มีตัวแทนที่พร้อมพอจะตัดสินใจอะไรได้อีก

อาการของเขาทรุดลงเร็วกว่าที่แพทย์คาดการณ์ไว้ และสุดท้ายแล้วเขาก็จากไปในเวลาไม่ถึง 3 เดือน ในค่ำคืนที่มืดมิดที่สุดในชีวิต

แน่นอนครับ ใครเจอเหตุการณ์แบบเขาคงทำใจได้ยากมาก และอาจเลือกจบชีวิตลงแบบเขาเพื่อให้ความมืดอำพรางคราบน้ำตาเอาไว้ 3 เดือนที่เหลือคงไม่มีค่าอะไรมากไปกว่าการเฝ้ารอความตาย

 

 

แต่มีใครอีกคนเลือกทำสิ่งที่แตกต่างไป เขาพยายามต่อสู้กับความมืดมิดในจิตใจและไล่ล่าแสงตะวันอย่างสุดชีวิต…เขาคือยูจีน  โอ’เคลลี (Eugene O’Kelly) นักบัญชี นักธุรกิจ นักวางแผน เขาเป็นคนทำงานอย่างเป็นระบบระเบียบมาตลอด รวมถึงการเตรียมตัวตายด้วย  เขาบอกว่า

“ผมจัดการธุรกิจการงานของผมได้ดีเสมอมา ดังนั้นผมคิดว่าเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิต ผมก็ควรทำให้ได้ดีด้วย เพราะฉะนั้นผมจึงขอเป็นผู้บริหารและจัดการความตายของผมเอง”

เริ่มแรกเขาตั้งคำถามกับตัวเองสองข้อและพบคำตอบว่า หนึ่งวาระสุดท้ายของชีวิตไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องเลวร้ายเสมอไปและสอง เราสามารถจัดการให้ความตายเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่าและกลายเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตได้

จากนั้นเขาก็เขียนรายการที่จำเป็นต้องทำทั้งหมดไว้ เช่น การจัดการเรื่องพินัยกรรมและการเงินให้เรียบร้อย  การฝึกฝนและหาคนที่เหมาะสมที่จะมารับหน้าที่บริหารบริษัทต่อจากเขา และใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันขณะ เขาวางแผนงานศพและบอกลาเพื่อนและญาติพี่น้อง

เขานั่งสมาธิทุกเช้าเพื่อให้ใจสงบ แล้ววันหนึ่งเขาก็เกิดความคิดอยากจะเขียนหนังสือเกี่ยวกับการจัดการความตายของเขา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์สำคัญครั้งนี้กับคนอื่น ๆ

หลังจากนั้นจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต เขาเริ่มเขียนหนังสือที่ตั้งใจถ่ายทอดประสบการณ์ในชีวิต และวิธีการรับมือกับความตาย

เขาเสียชีวิตในวันที่ 10 กันยายน พ.ศ.2548 ด้วยโรคมะเร็งสมอง แต่ทว่า 3 เดือนก่อนจากไปนั้นเขาได้จัดการชีวิตที่เหลืออยู่อย่างน่าชื่นชม

 

 

ยูจีน  โอ’เคลลี เขียนหนังสือชื่อ Chasing Daylight (ไล่ล่าแสงตะวัน) อันเป็นศัพท์เฉพาะที่นำมาจากการเล่นกอล์ฟซึ่งเป็นกีฬาที่เขาชื่นชอบ โดยหมายถึงการเล่นกอล์ฟช่วงเย็นในขณะที่ลำแสงกำลังจะหมด ผู้เล่นต้องพยายามเล่นต่อให้จบเกม เขาต้องการสื่อถึงชีวิตของมนุษย์เราว่าไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ควรพยายามสู้ต่อให้จบ เช่นเดียวกับที่เขาแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเขาสามารถบริหารความตายได้อย่างน่าชื่นชม โดยใช้ชีวิตจนจบอย่างมีคุณค่าต่อผู้อื่น

ยูจีน  โอ’เคลลี แสดงให้เราเห็นว่าแม้กระทั่งความตายก็ยังสามารถบริหารและจัดการให้ดีได้  การรับรู้เรื่องราวของเขาคงไม่ใช่เพื่อเก็บไว้ใช้ตอนเราใกล้จะตาย เพราะบางทีเราอาจไม่โชคดีรู้ระยะเวลาที่เหลืออยู่ในชีวิตเช่นเขาก็ได้ ดังนั้นเราควรใช้เรื่องราวของเขาเตือนใจให้ตระหนักถึงความสำคัญของปัจจุบันอันมีค่า และอยู่กับมันให้ดีที่สุด เพราะหากเรามีชีวิตอยู่เพียงในปัจจุบันขณะไม่ฟุ้งซ่านถึงเหตุการณ์ร้าย ๆ ในอดีตหรืออนาคต เราก็จะสามารถปล่อยวางความวิตกกังวลและความทุกข์ทั้งปวง แม้กระทั่งความตายลงได้

เราก็จะมีความสุขอยู่กับสิ่งที่กำลังทำอย่างที่มันควรจะเป็นครับ

 

ที่มา : นิตยสารซีเคร็ต

ผู้เขียน : นายแพทย์ชวโรจน์  เกียรติกำพล

ภาพ :  independent

www.amazon.com/Chasing-Daylight-Forthcoming-Death-Transformed


บทความน่าสนใจ

ภพภูมิหลังความตาย ที่สัตว์โลกทั้งหลายต้องเวียนว่ายตายเกิด

ความตายในทางพระพุทธศาสนา ที่แตกต่างจากคนทั่วไป

ช่อผกา วิริยานนท์ …ในวันที่ค้นพบสัจธรรมจากความตาย

True story : เมื่อ ความตาย อยู่ตรงหน้า

ความตาย น่ากลัว? บทความให้เตรียมใจ โดย แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต

 

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.