ภัยพิบัติทางธรรมชาติ

Dhamma Daily : สาเหตุของ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ เกิดจากอะไร

Dhamma Daily : สาเหตุของ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ เกิดจากอะไร

ถาม : พระอาจารย์คะ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ส่วนใหญ่เกิดจากอะไรคะ ได้ยินมาว่าเกิดจากกรรมของคนบนโลกหรือคะพระอาจารย์

พระอาจารย์นวลจันทร์ กิตติปัญโญ ได้ตอบปัญหาเรื่อง “ภัยพิบัติทางธรรมชาติ” นี้ไว้ว่า

ตอบ : จริงๆ แล้วถึงไม่มีใครสร้างกรรม โลกก็เป็นอย่างนี้อยู่แล้วดวงดาวดวงหนึ่ง จักรวาลหนึ่งๆ สรรพสิ่งต่างๆ ถึงแม้ไม่มีใครทำอะไร ก็ต้องมีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเป็นธรรมดาอยู่แล้วขอยกเรื่องกรรมไว้ก่อนนะ พระพุทธเจ้าเคยเทศน์ว่าโลกก็มีอายุขัยของโลก เมื่อถึงวาระที่ต้องแตกดับ ก็ต้องแตกดับถึงแม้ไม่มีใครอยู่ในโลกใบนี้เลย ว่างจากมนุษย์ ว่างจากสิ่งมีชีวิตทั้งปวง โลกก็ยังคงจะวนเวียน มีภูเขาไฟระเบิด มีแผ่นดินไหวเคลื่อนตัวไปมาอย่างนี้ละ แม้แต่ดาวดวงอื่นๆ ก็เป็นเพียงแต่ว่าเมื่อมนุษย์ทำกรรมกับโลกกับธรรมชาติ เช่นตัดไม้ทำลายป่า สร้างมลภาวะ จากโลกที่อยู่อย่างปกติ ก็เริ่มจะมีสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นเยอะแยะร้อยแปดมาเพิ่มน้ำหนักของโลกที่ยิ่งหนักไปกว่านั้นคือ การส่งสสารออกไปจากโลก ดาวเทียมบ้างจรวดบ้าง ตามกฎการทดแทน เมื่อมีบางสิ่งบางอย่างออกไปจากโลกปุ๊บ โลกจะขยับปั๊บเพื่อรักษาสมดุล จึงเกิดแผ่นดินไหวลมปั่นป่วน สึนามิ เป็นเรื่องธรรมดาปกติสสารและพลังงานต้องอยู่ในโลกเพื่อรักษาและฟื้นฟูตัวเอง แต่พอมีอะไรออกไปจากโลกปุ๊บ ก็อาจจะมีบางสิ่งที่ไม่พึงประสงค์จากนอกจักรวาลเข้ามาสู่โลก พอสะสมไว้นานๆ เข้าก็จะทำให้เกิดสิ่งที่คล้ายๆ ระเบิดเวลา กอปรกับเมื่อมนุษย์ทำร้ายโลกมากๆ เมื่อถึงเวลา มันก็อาจจะประกอบกันกลายเป็นสสารบางชนิดที่มีพลังพิเศษและมีอานุภาพเกินขีดจำกัด อาจเป็นความร้อน แสง หรือรัศมีที่สามารถทำลายคลื่นโทรศัพท์ทั้งหมดหรือทำให้ไฟฟ้าทั้งหมดดับลง ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่หรือเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ขึ้นก็เป็นได้

ถาม : ที่พระอาจารย์พูดถึงคือกรณีของทางวิทยาศาสตร์ แล้วในทางพุทธศาสตร์ล่ะคะ

ตอบ : โลกเองก็เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งซึ่งแตกมาหลายใบแล้วดาวนพเคราะห์ดวงอื่นๆ ก็แตกมาหลายใบแล้วเช่นกัน ในพระไตรปิฎกมีการกล่าวถึงพระพรหม ซึ่งมีอายุยืนถึง 84,000มหากัปป์และอยู่ชั้นเนวสัญญา ซึ่งระหว่างที่ท่านเป็นพรหมนั้น โลกแตกไปแล้วถึง 84,000 ใบกว่าท่านจะได้กลับมาเกิดบนโลกมนุษย์ใหม่ ซึ่งนั่นหมายความว่า  จิตของเราต้องระหกระเหิน  เปลี่ยนสถานที่ ย้ายจากดาวดวงหนึ่งไปดาวอีกดวงหนึ่งไม่มีที่สิ้นสุด ตราบใดที่พลังงานยังไม่ดับ ก็จะยังมีแรงส่งเป็นเชื้อให้ไปจุติในภพใดภพหนึ่งต่อไปในสังสารวัฏ และเคลื่อนที่ต่อไปเรื่อยๆ ไม่จบไม่สิ้น แต่ถ้าจิตเข้าสู่นิพพานธาตุ ดับว่าง  สงบเย็นในชาติปัจจุบันด้วยการปฏิบัติตามคำสอนของสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่ละพระองค์เช่น การสร้างสติปัฏฐานเพื่อไม่ให้มีอะไรมาประกอบจิต จิตก็จะไม่มีแรงหมุน จึงว่าง สงบเย็น ดับเข้าสู่นิพพานธาตุ  เราทุกคนสามารถเข้าสู่นิพพานธาตุได้ อยู่ที่จะไปหรือไม่ไป อยู่ที่จะน้อมเดินตามไหม ตั้งใจจะเดินไหม

หากผู้อ่านมีปัญหาหนักใจ ต้องการคำแนะนำแฝงด้วยแนวคิดทางธรรม สามารถส่งคำถามมาได้ที่ Secret Magazine (Thailand)


บทความน่าสนใจ

ภัยอันน่ากลัวของการเวียนว่ายตายเกิด เรื่องเล่า การระลึกชาติ ของหลวงปู่ชอบ ฐานสโม

บทเรียนสำคัญจากวันน้ำท่วม – พระไพศาล วิสาโล

เอาชนะมารผจญ แบบ อาร์ม กรกันต์ นายศรมือระนาดเอกแห่งโหมโรง

มารดาของนายเรือผู้ปรารถนาพระโพธิญาณ อดีตพระชาติของ พระนางสิริมหามายา

สามน้องหมาแบกเป้ ช่วยฟื้นฟูป่าถูกไฟไหม้ในประเทศชิลี

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.