ไม่เป็นอะไรกับอะไร

“ไม่เป็นอะไรกับอะไร” เรื่องเล่าช่วงเวลาก่อน หลวงพ่อคำเขียน สุวัณโณ มรณภาพ

หลังจากอาพาธได้ 7 เดือน วาระสุดท้ายของท่านก็มาถึง อาการบวมของต่อมน้ำเหลืองได้ลุกลามขยายตัว ดันหลอดลมตอนล่างจนเกือบปิด ทำให้ท่านหายใจติดขัดลำบากมาก ไม่ว่าจะเยียวยาเพียงใดก้อนเนื้อก็ไม่ยุบ แต่ท่านยังคงไม่มีอาการทุกข์ร้อน มีช่วงหนึ่งทั้ง ๆ ที่อาการของท่านน่าวิตกมาก แต่ท่านกลับขอเข้าห้องน้ำเพื่อถ่ายอุจจาระ จากนั้นก็ล้างมือล้างหน้า แล้วกลับขึ้นมาบนเตียงด้วยตนเอง

ไม่นานหลังจากนั้น การหายใจของท่านก็ติดขัดมากขึ้น ลูกศิษย์พยายามแก้ไขสถานการณ์ แต่ไม่มีทีท่าว่าจะได้ผล ระหว่างนั้นหลวงพ่อซึ่งมีสติตลอดเวลาได้ขอกระดาษและดินสอเขียนข้อความว่า “พวกเรา ขอให้หลวงพ่อตาย” เมื่อยื่นแผ่นกระดาษให้เสร็จ ท่านก็ประนมมือไหว้เพื่อขอบคุณลูกศิษย์ที่ดูแลท่าน และเป็นการอำลาไปพร้อม ๆ กัน จากนั้นท่านก็นอนนิ่ง สักพักก็หลับตา ครู่ใหญ่ลมหายใจของหลวงพ่อก็ขาดหายไป แล้วสัญญาณชีพทั้งหมดของหลวงพ่อก็หมดสิ้นลง

ไม่เป็นอะไรกับอะไร

หลวงพ่อคำเขียนจากไปอย่างสงบ ไม่แสดงความทุกข์ใด ๆ ให้เห็นในวาระสุดท้ายของท่าน ทั้ง ๆ ที่กายนั้นถูกทุกขเวทนาบีบคั้นอย่างแรง ท่านทำเช่นนี้ได้ไม่ใช่เพราะท่านเพิ่งเตรียมตัวเตรียมใจ เมื่อรู้ว่าความตายจะมาถึง ที่จริงท่านไม่ได้เตรียมใจใด ๆ เลยก็ว่าได้ มีแต่เตรียมตัวด้วยการชำระกายให้สะอาดสำหรับวาระสุดท้ายเท่านั้น ทั้งนี้เพราะท่านได้ฝึกฝนบ่มเพาะจิตใจด้วยวิปัสสนากรรมฐานมานานแล้ว จนเห็นความจริงของรูปและนามหรือกายกับใจอย่างแจ่มแจ้งว่า ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และไม่ใช่ตน จึงรู้ว่าไม่มีอะไรที่ยึดติดถือมั่นได้เลย เมื่อมีอะไรเกิดขึ้นก็สักแต่ว่าเห็น สักแต่ว่ารู้เฉย ๆ ไม่สำคัญมั่นหมายในสิ่งนั้นว่าเป็น “ตัวกู ของกู” กล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือ ไม่ปรุงแต่ง “ตัวกู” ขึ้นมาเป็นนั่นเป็นนี่เมื่อมีอะไรมากระทบ

เมื่อมีความปวดเกิดขึ้น ท่านก็เพียงแค่เห็น แต่ไม่เข้าไปเป็นผู้ปวด จิตจึงเป็นปกติ อิสระ และสงบเย็น ด้วยเหตุนี้ตลอดเวลาที่ป่วย ท่านจึงเขียนเล่าอย่างมั่นใจว่า “เวลานี้อยู่กับความไม่เป็นอะไรกับอะไร”

ตายอย่างสงบนั้นเป็นไปได้ แต่ไม่ใช่เพราะโชค ความบังเอิญหรือเทคโนโลยี หากเกิดจากการฝึกฝนตน มิใช่ด้วยทานและศีลหรือการทำความดีเท่านั้น ที่สำคัญอันเป็นหลักประกันอย่างแท้จริงก็คือ การภาวนาหรืออบรมจิตจนเห็นความจริงของกายและใจอย่างแจ่มแจ้ง กระทั่งปล่อยวางทุกสิ่ง แม้กระทั่งความยึดถือในตัวตน ถึงตอนนั้นเมื่อความตายมาถึงก็ไม่มีผู้ตายอีกต่อไป มีแต่สังขารที่เสื่อมสลายและคืนสู่ธรรมชาติ

แม้จะยังไปไม่ถึงจุดหมายดังกล่าว เพียงแค่อยู่ระหว่างทาง การตายอย่างสงบก็ไม่เหลือวิสัย ขอเพียงแต่ลงมือปฏิบัติเสียแต่เดี๋ยวนี้ ไม่งอมืองอเท้า ชะล่าใจ หรือหวังไปตายเอาดาบหน้า 

 

ที่มา  นิตยสาร Secret

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.