ยาระงับความโกรธ – นายแพทย์ชวโรจน์ เกียรติกำพล

ใช่ครับ เราหลบหลีกสิ่งกระทบเชิงลบเหล่านั้นไม่ได้แต่เราเลือกที่จะไม่โกรธและยังเรียนรู้จากมันได้อีกด้วย แล้วอะไรที่จะมาช่วยเราให้ทำเช่นนั้นได้ หรือว่าหมอผลิตยาระงับดีเอ็นเอแห่งความโกรธขึ้นมาได้สำเร็จ

ยานั้นคงไม่มีอยู่จริงหรอกครับ และผมคิดว่าคงผลิตไม่ได้ด้วยซ้ำไป เพราะอารมณ์ของคนเราซับซ้อนเกินกว่าจะสร้างยามาควบคุมอารมณ์นั้น ๆ โดยตรงได้ นี่ไม่นับรวมยานอนหลับ (หนีปัญหา) หรือยาคลายเครียด (ชั่วคราว)

แต่มียาอยู่ชนิดหนึ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบมาเป็นพันปี ๆ ยาดีมีประสิทธิภาพมาก ๆ ใช้แล้วไม่เคยดื้อยา ยิ่งใช้ยิ่งดีกับตัวเรา และใช้ได้ดีเสมอกับความโกรธ ยาระงับความโกรธที่ว่านี้ก็คือ “สติ”

สติ หมายถึง ความระลึกได้ก่อนจะทำ พูด หรือคิดคืออาการของจิตที่นึกขึ้นได้ว่าจะทำ จะพูดอย่างไรจึงจะถูกต้องมีหน้าที่กระตุ้นเตือนคนเราให้ทำ พูด หรือคิดในสิ่งที่ถูกต้องไม่หลงลืมตัว

การจะใช้ยารักษาโรคใดให้ได้ผลนั้น เราควรรู้สาเหตุของโรคเสียก่อน การระงับความโกรธก็เช่นกัน การที่เราโกรธมีสาเหตุเพียงอย่างเดียว นั่นคือ เพราะเราตั้งจิตหรือการรับรู้ไว้ผิดที่ คือเราตั้งจิตหลังถูกสิ่งกระทบนั้นไว้ในทางลบไม่ได้เกิดเพราะผู้อื่น ไม่ได้เกิดเพราะโชคชะตา หรือไม่ได้มีสิ่งอื่นใดดลบันดาล การรักษาโรคนี้ให้ได้ผลคือ การนำจิตมาตั้งไว้บนการรู้ตัว นั่นคือ สติ นั่นเอง เพียงเท่านี้ยาระงับความโกรธตัวนี้ก็จะออกฤทธิ์ได้ทันที ผมเตือนผู้ป่วยรายนี้ให้ลองใช้ยาระงับความโกรธขนานนี้ เพราะประเมินแล้วอาการโกรธตัวเองของเธอยังไม่ค่อยดีขึ้นนัก

ล่าสุดได้พบเธออีกครั้งที่ห้องตรวจ เห็นรอยยิ้มของเธอเป็นครั้งแรก ผมรับรู้ได้ว่ายาระงับความโกรธออกฤทธิ์ได้ดีและมีประสิทธิภาพแล้ว

ติดตามบทความเกี่ยวกับเรื่อง การระงับความโกรธ เพิ่มเติมได้ที่ http://www.goodlifeupdate.com/30341/healthy-mind/angry-2/

ที่มา : นิตยสารซีเคร็ต

เรื่อง : นายแพทย์ชวโรจน์ เกียรติกำพล

บทความน่าสนใจ

Dhamma Daily: พ่อแม่มีนิสัยยึดมั่นถือมั่น และโกรธง่ายทำอย่างไรดี

ทำไมปฏิบัติธรรมแล้วกลายเป็น คนโกรธง่าย เอาซะอย่างนั้น ?

7 วิธีวิจารณ์คนอย่างมีชั้นเชิง รับประกัน! ไม่โดนโกรธ

กุศโลบายวิธีกำจัดความโกรธ – บทความดีๆ จาก ท่าน ว. วชิรเมธี

เมื่อผมให้ความไม่โกรธ นั่นคือ “อภัยทาน”