บทความดี ๆ

” เป็นสุขเมื่อมองสิ่งที่มี ” บทความดี ๆ จาก พระไพศาล วิสาโล

คนอย่างหวาง เหม่ยเหลียน น่าจะเป็นคนอมทุกข์ เพราะสูญเสียสมรรถนะสำคัญหลายอย่างที่มนุษย์ปุถุชนพึงมี แต่เธอไม่มัวจมจ่อมเสียใจกับสิ่งที่ขาดไป หากหันมาชื่นชมใส่ใจกับสิ่งที่เธอมี พอเปลี่ยนมุมมองเช่นนี้ เธอก็มีความสุขได้ไม่ยาก ใช่แต่เท่านั้น เธอยังนำสิ่งที่มีอยู่นั้นมาใช้ประโยชน์ให้เต็มที่ จนประสบความสำเร็จอย่างที่คนธรรมดาจำนวนมากมิอาจทำได้

มุมมองของสาวไต้หวันผู้นี้ ไม่ต่างจากมุมมองของคนพิการหลายคนที่สามารถทำสิ่งที่ยากให้สำเร็จได้ สว่าง ทองดี นักปั่นจักรยานข้ามประเทศ เล่าว่า เขาประหลาดใจมากที่พบว่า มีคนแขนขาดหรือป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายหลายคนจากหลายชาติขี่จักรยานไปถึงเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากแม้กระทั่งสำหรับคนที่มีอวัยวะครบ 32 หลังจากสนทนากับคนเหล่านั้น เขาได้ข้อสรุปว่า

“ผมเรียนรู้จากคนเหล่านี้ว่า หากคิดจะก้าวไปข้างหน้าแล้ว จงอย่าคิดถึงสิ่งที่เราไม่มีหรือข้อด้อยของตัวเอง แต่ให้มองว่าเรามีสิ่งใดอยู่กับตัวบ้าง การจะทำฝันให้สำเร็จได้นั้นขึ้นอยู่กับว่า เราใช้สิ่งที่เรามีอยู่ได้แค่ไหนต่างหาก”

ผู้คนเป็นอันมากท้อแท้กับชีวิต ยอมแพ้ต่ออุปสรรค เพราะมองเห็นแต่สิ่งที่ตนเองไม่มี เช่น เงินทอง พรรคพวก เส้นสาย หรือสถานภาพ แต่กลับมองข้ามสิ่งที่ตนเองมีอยู่ หรือไม่รู้จักใช้สิ่งที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์เต็มที่ หลายคนมัวแต่ก่นด่าชะตากรรมว่าทำไมฉันถึงไม่มีเหมือนคนอื่นเขา คนเหล่านี้ไม่ต่างจากนักเล่นไพ่ที่เอาแต่บ่นว่าโชคไม่ดีที่จั่วได้ไพ่แต้มต่ำ ๆ แทนที่จะคิดว่า ฉันจะเล่นไพ่ในมือให้ดีที่สุดได้อย่างไร

แม้มีมากเพียงใด แต่ตราบใดที่มองเห็นแต่สิ่งที่ตนขาด ก็จะไม่มีวันพบความสุขเลย เด็กจำนวนไม่น้อยเป็นทุกข์ที่ไม่มีสมาร์ทโฟนใช้ทั้ง ๆ ที่มีอะไรต่ออะไรมากมายอยู่แล้ว ส่วนผู้ใหญ่ก็เป็นทุกข์ที่ไม่มีรถเบนซ์ขับหรือไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง ทั้ง ๆ ที่มีชีวิตสะดวกสบาย มีการงานที่มั่นคง มีครอบครัวที่อบอุ่น ยังไม่ต้องเอ่ยถึงหญิงสาวที่มีพร้อมทุกอย่าง แต่ก็ยังทุกข์เพราะไม่มีผิวสวยงามหรือทรวดทรงที่กระชับ

หากมองเห็นแต่สิ่งที่มี ไม่มองสิ่งที่ขาด นอกจากจะไม่ทุกข์เพราะยังไม่มีนั่นนี่แล้ว เมื่อถึงคราวที่ต้องสูญเสียบางสิ่งบางอย่างไปก็ไม่ทุกข์ง่าย ๆ เพราะดีใจที่ยังมีสิ่งต่าง ๆ อีกมากมาย หลายคนสูญเสียทรัพย์สมบัติมากมายจากอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปี 2554 แต่เมื่อสำรวจรอบตัวก็พบว่า ยังมีข้าวของมากมายที่หลงเหลืออยู่ ที่สำคัญก็คือ ลูกและคนรักยังอยู่กันพร้อมหน้า จึงคลายทุกข์ไม่จมอยู่กับความอาลัย พร้อมมองไปข้างหน้าและก้าวเดินต่อไป

โสภณ ฉิมจินดา เป็นคนมีน้ำใจชอบช่วยเหลือเด็กชนบทในถิ่นทุรกันดาร คราวหนึ่งชวนนักศึกษาไปช่วยกันบำเพ็ญประโยชน์ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในแม่ฮ่องสอน ขากลับรถพลัดตกจากเขา ชั่วขณะนั้นเขาภาวนาขอให้นักศึกษาทุกคนปลอดภัย ปรากฏว่าทุกคนไม่ได้รับอันตราย ยกเว้นเขาซึ่งหลังได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงจนพิการครึ่งตัว หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นมีหลายคนพูดกับเขาว่า “นี่ขนาดไปทำบุญยังเกิดอุบัติเหตุ” ราวกับจะตัดพ้อว่า ทำดีแล้วทำไมไม่ได้ดี แต่เขาเองกลับไม่รู้สึกเป็นทุกข์เลย เขามองว่า “เพราะเราไปทำบุญ เราถึงเหลือตั้งเท่านี้”

แทนที่จะเสียใจเพราะพิการไปครึ่งตัว เขากลับมองว่า ตนเองโชคดีที่ร่างกายครึ่งหนึ่งยังเป็นปกติ ไม่ว่าจะสูญเสียกี่มากน้อย ประสบการณ์ของบุคคลเหล่านี้ย้ำเตือนเราว่า “พึงมองสิ่งที่มี อย่ามองสิ่งที่ขาด” แล้วเราจะมีพลังในการดำเนินชีวิตอย่างผาสุก

 

ที่มา  นิตยสาร Secret

photo by pixabay

Secret Magazine (Thailand)

IG @Secretmagazine


บทความน่าสนใจ

ปู่เย็น ผู้เป็นต้นแบบของชีวิตพอเพียง

เราต้องเป็นเรา อย่าให้เรากลายเป็นของมัน – ธรรมะเพื่อการปล่อยวางจากพระไพศาล

ปัญหาธรรมประจำวันนี้: คำว่า บุญก็ไม่เอา บาปก็ไม่เอา หมายความว่าอะไร

เศรษฐีตระหนี่ ทำบุญแล้วเสียดายทรัพย์ โดย ส.เขมรังสี (หลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรํสี)

ตัวอย่างของ การทำทานด้วยเจตนาอันไม่บริสุทธิ์ – ข้อคิดดี ๆ ที่ชาวพุทธควรรู้

พบธรรมเมื่อครั้งหลงป่า ประสบการณ์ที่ช่วยให้มีสติพร้อมรับความตาย

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.