วัดชลอ

เรื่องเล่า กล่าวขวัญ ตำนาน วัดชลอ

เรื่องเล่า กล่าวขวัญ ตำนาน วัดชลอ

ชาวพุทธเชื่อกันว่าความฝันของคนเราเกิดจากสาเหตุ 4 ประการ คือ 1. กรรมนิมิต 2. จิตนิวรณ์ 3. เทพสังหรณ์ 4. ธาตุกำเริบ

1. กรรมนิมิต คือ กรรมที่เราทำทุกอย่างทั้งดีและชั่วซึ่งมารวมอยู่ที่จิตของเรา ดังนั้นในบางครั้งที่กรรมไม่ว่าดีหรือร้ายจะให้ผล จิตจะเตือนให้เรารับรู้ได้ด้วยตนเอง โดยการปรากฏให้เห็นทางความฝัน

2. จิตนิวรณ์ เกิดจากการที่จิตของเราพะวงหรือคำนึงถึงสิ่งใด หรือฝังใจกับสิ่งหนึ่งสิ่งใดมากเกินไป พอหลับจึงเกิดความฝันฟุ้งซ่าน

3. เทพสังหรณ์ เกิดจากการที่เทพเจ้า เทวาอารักษ์ทั้งที่เป็นมิตรและเป็นศัตรูกับเรามาดลจิตดลใจในขณะที่เราเคลิ้มๆ จะหลับ ซึ่งอาจเป็นความปรารถนาดีของเทวดาที่ตั้งใจมาบอกเหตุหรือให้คำตอบอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้

4. ธาตุกำเริบ เกิดจากการกินอาหารมากผิดปกติ ผิดความต้องการของร่างกาย ผิดกาล ผิดเวลา หรือรสจัด ร้อนจัด เย็นจัดมากไป ร่างกายจึงเกิดปฏิกิริยา พอหลับจึงฝันมากมาย ดังคำกล่าวที่ว่ากินมาก ถ่ายมาก นอนมาก และฝันมาก

จากบันทึกความเป็นมาของวัดชลอในเอกสารหลักฐานของกรมการศาสนาพบว่า วัดชลอสร้างเมื่อประมาณ พ.ศ. 2300 ในสมัยอยุธยาตอนปลาย พื้นที่ตั้งวัดเป็นที่ราบลุ่ม มีคลองบางกรวยและบางกอกน้อยผ่านทางทิศเหนือและทิศตะวันตก ภายในวัดมีอาคารเสนาสนะต่างๆมากมาย อาทิ พระอุโบสถ (หลังเก่า) ลักษณะเป็นทรงไทย รูปเรือสำเภาโบราณ ตัวพระอุโบสถตั้งอยู่ในเรือ หน้าบันปั้นเป็นรูปพระพุทธเจ้าและสาวก พระประธานในพระอุโบสถสร้างขึ้นสมัยตอนต้นกรุงศรีอยุธยา

นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปปางต่างๆ จำนวนหลายองค์อยู่ที่วิหาร พระอุโบสถเก่าหลังนี้ได้ขึ้นทะเบียนโบราณสถานเมื่อปี พ.ศ. 2513…และพระอุโบสถหลังเก่านี่เองที่เป็นต้นกำเนิดตำนานเก่าแก่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความฝันและการสร้างโบสถ์

หนังสือพิมพ์ฐานข่าว (ปีที่ 4 ฉบับที่ 4 วันที่ 1 - 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2540) ได้เล่าถึงประวัติของวัดชลอไว้ว่า วัดชลอสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ผู้มีความเลื่อมใสในพระบวรพุทธศาสนา ช่วงนั้นบ้านเมืองไม่มีการรบพุ่ง ชาวบ้านชาวเมืองต่างอยู่กันอย่างสงบสุขทุกคนจึงมีเวลาว่างในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาเป็นอันมาก

วันหนึ่งพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศได้เสด็จฯทางชลมารคมาตามลำน้ำเจ้าพระยา ผ่านจังหวัดนนทบุรี เรื่อยมาทางคลองลัด ซึ่งในปัจจุบันเรียกว่า “คลองบางกรวย” พระองค์ทอดพระเนตรสองฟากคลองแล้วทรงมีพระราชดำริว่า ที่ตรงนี้น่าจะสร้างวัดขึ้นมาสักวัดหนึ่งเพื่อให้ชาวบ้านได้มีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ

บรรดาเหล่าเสนาอำมาตย์เมื่อได้ฟัง ต่างพากันตกใจกลัวและกราบบังคมทูลว่า ที่ตรงนี้มีอาถรรพ์ ในอดีตเคยมีเรือสำเภาจากเมืองจีนแล่นมาแล้วโดนพายุพัดล่มลงตรงนี้ มีคนจมน้ำตายเป็นจำนวนมาก ทำให้ที่แถบนี้เกิดหายนะทำมาค้าขายไม่ขึ้น

เมื่อพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศได้ฟัง ทรงมีรับสั่งว่า สร้างวัดเสียตรงนี้แหละดี เรื่องร้ายๆ จะได้ไม่เกิดขึ้นและชาวบ้านจะได้มีที่ทำกินเพิ่มขึ้น ทว่าการสร้างวัดในบริเวณดังกล่าวกลับเป็นไปด้วยความยากลำบาก มีอุปสรรคนานัปการ อาทิ ฝนตกหนักและฟ้าผ่าลงกลางโบสถ์ จนบรรดาทหารที่มาช่วยกันก่อสร้างวัดท้อถอยหมดกำลังใจ บางคนถึงกับหนีกลับกรุงศรีอยุธยาไปเลยก็มี

เมื่อเป็นเช่นนี้ พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศจึงทรงตั้งสัตยาธิษฐานกับเทพยดาฟ้าดินว่า มาตรแม้นพระองค์มีบุญญาภินิหารจริง ก็ขอให้บอกเหตุผลในการแก้เคล็ดด้วย และในคืนนั้นเอง พระองค์ได้ทรงพระสุบินว่ามีชายชราชาวจีนมากราบทูลขอให้พระองค์ทรงปลดปล่อยพวกตน ซึ่งเป็นผีตายโหงเพราะเรือล่มด้วยการสร้างวัดตรงนี้ แต่ต้องสร้างโบสถ์เป็นรูปเรือสำเภาแทน

เมื่อทรงตื่นจากบรรทม พระองค์ทรงเชื่อเป็นอย่างมากว่าความฝันนั้นเปรียบเสมือนลางบอกเหตุที่เทพยดาฟ้าดินมาบอกวิธีแก้เคล็ด จึงทรงมีพระบัญชาให้สร้างโบสถ์เป็นรูปเรือสำเภา และน่าแปลกตรงที่ระหว่างการก่อสร้างในครั้งนี้ไม่มีเหตุอาเพศใดๆ เกิดขึ้นเหมือนครั้งก่อน

ครั้นสร้างเสร็จก็พระราชทานนามวัดนี้ว่า “วัดชลอ” น่าเสียดายที่หลังจากสมัยนั้น วัดชลอก็ถูกปล่อยทิ้งให้รกร้างว่างเปล่าและผุพังไปตามกาลเวลา กว่าจะมีพระภิกษุมาจำพรรษาก็ล่วงเข้าในสมัยรัชกาลที่ 3 หรือรัชกาลที่ 4 และตลอดเวลาที่ผ่านมา วัดแห่งนี้ก็มีเจ้าอาวาสเพียงแค่ 11 รูปเท่านั้น…และเพื่อมิให้วัดทรุดโทรมมากไปกว่าเดิม จึงได้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์โบสถ์ของวัดชลอในเวลาต่อมา

ครั้งหนึ่งท่านพระครูนนทปัญญาวิมล ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าอาวาสของวัดชลอ เกิดนิมิตเห็นเรือหงส์ลอยมาอยู่หน้าโบสถ์หลังเก่าที่ท่านจำพรรษาอยู่ ท่านจึงคิดอยากจะสร้างเรือหงส์ไว้หน้าโบสถ์ แต่เมื่อนึกถึงประโยชน์ใช้สอยแล้ว ท่านเกรงว่าจะเสียเงินเปล่า จึงให้ลูกศิษย์ออกแบบก่อสร้าง โดยให้โบสถ์ตั้งอยู่ในเรือหงส์แทน เพราะคิดว่าจะได้ใช้ประโยชน์อีกนานัปการ จากนั้นเป็นต้นมา จึงได้มีการก่อสร้างโบสถ์หลังใหม่นี้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2526 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่แล้วเสร็จ

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตามที่ทำให้พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศทรงพระสุบินนิมิตแก้เคล็ด แต่ผลที่ตามมาก็คือ ทำให้ชาวไทยโดยเฉพาะชาวบ้านตำบลวัดชลอมีโอกาสได้กราบไหว้วัดที่มีโบสถ์ตั้งอยู่ในเรือหงส์ที่งดงามและยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกมาจนถึงทุกวันนี้

อยากแวะวัด เชิญทางนี้

วัดชลอ ตั้งอยู่ที่ ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ตำบลวัดชลอ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี …อย่าลืมไปแวะชมกันให้ได้นะคะ

 

ภาพ : สรยุทธ พุ่มภักดี

Secret Magazine (Thailand)


บทความน่าสนใจ

“ลืมตาเคลื่อนไหว ใจฮู้ซื่อ ๆ” ฝึก เจริญสติแบบเคลื่อนไหว ทีละขั้นตอน 

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.