เหตุการณ์รุนแรงที่โคราช

ถ้ารู้สึกหวาดกลัวอันเนื่องมาจากเหตุการณ์รุนแรงที่โคราช เราควรวางใจอย่างไร

ถ้ารู้สึกหวาดกลัวอันเนื่องมาจาก เหตุการณ์รุนแรงที่โคราช เราควรวางใจอย่างไร โดย พระวรท ธมฺมธโร

จากเหตุการณ์ดังกล่าวก็ถือว่าเป็นเหตุการณ์สะเทือนใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งอาจจะเกิดความรู้สึกหวาดกลัวต่อเหตุการณ์อยู่ แม้ว่าจะกลับมาอยู่ในที่ปลอดภัยแล้วก็ตาม แต่เหตุการณ์นั้นก็ยังหลอกหลอนอยู่ในจิตใจของเรา ทำให้ใจเราเกิดความกลัวขึ้น เช่นกลัวสถานที่เกิดเหตุ ทำให้ไม่กล้าที่จะไปสถานที่นั้น ๆ อีกพักใหญ่ หรือกลัวคนที่กระทำความผิดแบบนี้อีก

หากเรากลัวสถานที่นั้น ๆ ให้เราทำความเข้าใจว่า ความผิดหรือความชั่วร้ายที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้เกิดขึ้นที่สถานที่โดยตรง แต่เกิดขึ้นที่จิตใจคนต่างหาก ดังนั้นความชั่วร้ายไม่ได้เกิดขึ้นในสถานที่ สถานที่ก็อยู่ของมันอย่างนั้น ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วย ในเมื่อความชั่วร้ายเกิดขึ้นที่จิตใจและจิตใจที่มีสภาพอย่างนั้นก็อยู่ในตัวบุคคลที่ชื่อว่าคนร้าย

บัดนี้ คนที่ได้ชื่อว่าคนร้าย ก็ได้ตายจากโลกนี้ไปแล้ว เมื่อตัวบุคคลตายจากโลกนี้ไปแล้ว ความชั่วร้ายที่อยู่ในจิตใจคน ๆ นั้นก็สลายหายไปแล้วเช่นกัน และผู้ที่ได้รับวิบากกรรมจากเหตุการณ์นั้น คือผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตก็ได้รับไปหมดแล้ว  ไม่มีใครจะต้องได้รับวิบากจากความชั่วร้ายที่เกิดขึ้นในจิตใจของคนร้ายคนนั้นอีกต่อไป

จึงเท่ากับว่าความโกรธแค้น การทำร้าย การฆ่า ที่มาจากคน ๆ นั้นจึงจบสิ้นไปแล้ว ความตายหรือความเจ็บจากเหตุการณ์นั้นจึงจบแล้วเช่นกัน ความจริงในปัจจุบันขณะจึงกลับเข้าสู่สภาวะปกติทันที

เมื่อความจริงในปัจจุบันเป็นสภาพปกติแล้ว แต่ที่ยังไม่ปกติกลับกลายเป็นจิตใจของเราเองต่างหาก เมื่อเราไปคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งกลายเป็นอดีตไปแล้ว ใจเราก็เกิดความกลัว ผวา หลอกหลอน เพราะเราปรุงแต่งมันขึ้นมาเอง สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นที่ใจเรา ดังนั้นเราจึงต้องแก้​ที่ใจ

วิธีแก้คือเราต้องมีสติอยู่กับความเป็นจริงในปัจจุบัน ให้เห็นว่าเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นนั้น จบลงแล้วนะ แต่ที่ไม่จบมีแต่ความคิดเราเองต่างหาก เราจึงต้องมีสติรู้ทันความคิดของเราบ่อย ๆ แล้วใช้ปัญญาพิจารณาปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ เข้าใจโลกและชีวิตตามความเป็นจริง เพื่อที่เราจะได้ไม่ทุกข์ใจกับเรื่องนั้น ๆ อีกต่อไป

เมื่อใช้สติปัญญาเข้าไปมองด้วยความรู้ความเข้าใจ ปัญหาที่เกิดขึ้นก็จะกลายเป็นปัญญา เป็นประสบการณ์ให้เราได้เรียนรู้เพื่อที่จะได้หาทางป้องกัน แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วหรือปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที

สำหรับความหวาดกลัวที่เกิดขึ้นกับผู้ที่ติดตามข่าวสาร ซึ่งอยู่ห่างไกลออกมา อยู่วงนอก ไม่ได้มีประสบการณ์โดยตรงจากที่เกิดเหตุ

ก็ต้องใช้สติปัญญาเฉกเช่นเดียวกัน มองเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วยใจที่เป็นกลาง เรื่องราวดังกล่าวมิได้เกิดขึ้นกับตนเอง และอยู่ไกลจากเราอีกด้วย ยิ่งเป็นอย่างนี้ เรายิ่งไม่ควรทุกข์ใจกว่าผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยซ้ำ เราต้องรู้เท่าทันความคิดปรุงแต่งของเราด้วย อย่าให้ความกลัว ความโกรธ มาครอบงำจิตใจของเรา เวลาเราเสพสื่อหรือได้รับข่าวสาร ให้เราวางใจเป็นผู้รู้ผู้ดูสิ่งที่เกิดขึ้นว่ามันก็เป็นเช่นนั้นเอง มาแล้วก็หมดไป เมื่อเหตุการณ์จบไป ใจต้องไม่หวั่นไหว เมื่อใจไม่หวั่นไหว ก็นิ่งสงบได้ เมื่อใจนิ่งสงบ ก็จะมองเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วยปัญญารู้เข้าใจและจะสามารถอธิบายให้แก่บุตรหลานเพื่อให้รู้เข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ด้วยสติปัญญา

จริงๆแล้วเหตุการณ์ทำนองนี้ ที่มีลักษณะอุกฉกรรจ์ มิได้เป็นเรื่องปกติวิสัยที่เกิดขึ้นกับคนไทยบ่อย ๆ สักเท่าไร เพราะโดยพื้นฐานจิตใจคนไทยนั้น รักความสงบ มีน้ำใจ ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ซึ่งตรงนี้เป็นเสน่ห์ของคนไทยมายาวนาน จากเหตุการณ์ดังกล่าว เราจะสามารถมองเห็นความร่วมแรงร่วมใจของหลาย ๆ ภาคส่วน ได้เห็นถึงความสามัคคี เห็นการพยายามช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เห็นถึงการเสียสละแม้กระทั่งชีวิตของตน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็ถือเป็นมุมดีดีที่เราสามารถเข้าไปดูด้วยจิตที่ชื่นชมได้ จิตเราก็เป็นกุศลได้ สมดังพุทธสุภาษิตที่ว่า “ผู้มีปัญญา ถึงแม้ตกทุกข์ ก็ยังหาสุขพบ”

(เหตุการณ์รุนแรงที่โคราช)

เรื่องโดย  พระวรท ธมฺมธโร  วัดญาณเวศกวัน จ.นครปฐม

Photo by freestocks.org from Pexels

Secret Magazine (Thailand)


บทความน่าสนใจ

การเจริญสติที่ทำให้เกิดปัญญา โดย หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ

วิธีขุดรากถอนโคน แก้ความโกรธ ที่ได้ผลดีที่สุด สูตรท่าน ว.วชิรเมธี

สติ…ต้องทำเองสร้างเอง ธรรมะดี ๆ โดย หลวงพ่อคำเขียน สุวัณโณ

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.