ถอยหลังเพื่อก้าวไปข้างหน้า

ถอยหลังเพื่อก้าวไปข้างหน้า นิทานธรรมสอนใจให้มีปัญญา

ถอยหลังเพื่อก้าวไปข้างหน้า นิทานธรรมสอนใจให้มีปัญญา โดย พระมหาวีระพันธ์ ชุติปัญโญ

ชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังซ่อมกำแพงรอบ ๆ บ้านของตนที่ทรุดตัวลงเพราะฝนตกหนัก ขณะที่กำลังขุดข้าง ๆ กำแพง เสียมก็ไปกระทบเข้ากับวัตถุอย่างหนึ่ง พอเปิดออกดูจึงรู้ว่าเป็นห่อเงินที่บรรพบุรุษได้ฝังเอาไว้

ครั้นได้เงินมา ชายหนุ่มกลับรู้สึกกังวลที่จะนำเงินเหล่านั้นไปใช้จ่าย กระทั่งเกิดความรู้สึกกลัวที่จะมีเงินไว้ในครอบครอง เกรงว่าจะมีคนรู้แล้วมาปล้นชิง ทำให้เขาถึงกับนอนไม่หลับติดต่อกันหลายคืน

เมื่อเป็นเช่นนี้เขาจึงตัดสินใจนำเงินที่มีอยู่ไปหาอาจารย์ที่ตนเองนับถือที่วัดในหมู่บ้านเพื่อขอคำปรึกษา เมื่อพบอาจารย์แล้วจึงได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ท่านฟัง แทนที่อาจารย์จะให้คำปรึกษากลับกล่าวเหมือนตำหนิว่า

“นี่แหละที่เขาเรียกว่ามีเงินแต่ขาดปัญญา นั่นก็เท่ากับว่ายังเป็นคนจนอยู่เหมือนเดิม”

“หมายความว่าอย่างไรครับอาจารย์” ชายหนุ่มถามด้วยความสงสัย

“ช่างไม่รู้อะไรเลย เงินที่เธอมีอยู่นั้น แม้จะมากมายสักเพียงใด แต่หากขาดปัญญารักษาและใช้จ่ายอย่างถูกทาง ไม่ช้านานเงินเหล่านี้ก็จะหมด หนำซ้ำเจ้าของเงินอาจต้องเคราะห์ร้ายเพราะเงินเหล่านี้”

“แล้วผมควรทำอย่างไรดีครับ” ชายหนุ่มถามเพื่อต้องการทางออกที่ดีกว่า

“ง่ายนิดเดียว เธอไปหาปัญญาให้เจอเสียก่อน แล้วทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง”

อาจารย์กล่าวเพียงเท่านี้ก็ลุกจากที่นั่งเพื่อไปทำธุระอย่างอื่น โดยไม่สนใจว่าคนที่มาหาจะคิดอย่างไรกับคำตอบที่ท่านมอบให้

ถอยหลังเพื่อก้าวไปข้างหน้า
Image by TeroVesalainen from Pixabay

เมื่อชายหนุ่มได้ฟังเช่นนั้นก็สรุปเอาเองว่า “ปัญญา” คงจะมีขายตามท้องตลาดทั่วไป จึงเดินเข้าไปในตลาดแล้วถามหาซื้อปัญญาจากคนที่อยู่ในตลาดทั้งหมด แต่ก็ไม่มีใครขายให้เขาแม้แต่คนเดียว

ในขณะที่กำลังอับจนหนทาง ชายหนุ่มเห็นพระรูปหนึ่งที่ดูน่าเลื่อมใส เขาคิดว่านักบวชท่านนี้คงจะมีปัญญาขายให้แน่นอน จึงเดินตรงเข้าไปหาพร้อมกับกล่าวว่า

“อาจารย์ครับ ผมขอซื้อปัญญาหน่อย ท่านมีปัญญาขายให้กับผมไหม”

ฝ่ายภิกษุเมื่อได้รับฟังคำถามของชายหนุ่ม ก็รู้ได้ทันทีว่าชายคนนี้ไม่รู้จักคิดด้วยตนเอง และด้วยความเมตตาของท่านที่ต้องการจะชี้ทางสว่างแก่เขา นักบวชผู้ใจดีจึงกล่าวขึ้นว่า

“สิ่งที่เธอต้องการนั้นฉันมีอยู่แล้ว แต่ว่ามันมีราคาที่แพงมาก เกรงว่าเธอจะสู้ราคาไม่ไหว”

“แพงเท่าไหร่ผมก็ซื้อครับ ขอเพียงท่านขายให้”

“ถ้าอย่างนั้น หากเธอต้องการปัญญา ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าจะเจอเหตุการณ์อะไร ก็ให้ใช้วิธีเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น ๆ ด้วย ‘การก้าวไปข้างหน้าสามก้าว แล้วถอยกลับหลังอีกสามก้าว’ ให้ทำอย่างนี้ทุกครั้งที่เจอเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น แล้วปัญญาก็จะเกิดมีแก่เธอ”

ชายหนุ่มได้ฟังดังนั้นก็แสดงอาการไม่ค่อยสนใจในสิ่งที่ท่านพูด เขารู้สึกว่ากำลังโดนหลอก จึงทำทีเป็นเฉยเมย ฝ่ายอาจารย์เมื่อเห็นปฏิกิริยาที่ปรากฏผ่านใบหน้าและท่าทีของชายหนุ่ม ก็รู้ได้ทันทีว่าเขาไม่เข้าใจในสิ่งที่สอน จึงกล่าวขึ้นว่า

“ดูเธอไม่เชื่อในสิ่งที่ฉันพูด ถ้าเช่นนั้นให้นำสิ่งที่พูดในวันนี้ไปลองปฏิบัติดูก่อน แล้วจะรู้ว่าสิ่งที่พูดนั้นเป็นความจริง อย่าลืม ‘ก้าวไปข้างหน้าสามก้าว แล้วถอยกลับหลังอีกสามก้าว’ ในทุกครั้งที่เจอเหตุการณ์ต่าง ๆ ให้ระลึกรู้สักสามรอบ แล้วปัญญาจะเกิดแก่เธอ”

หลังจากที่พูดคุยกันพอสมควรแล้ว ชายหนุ่มก็ลากลับบ้าน แม้จะไม่ได้คำตอบว่าปัญญาคืออะไร แต่เขาก็รับปากว่าจะปฏิบัติตามคำสอน แม้ไม่รู้ว่าปัญญาจะเกิดขึ้นได้อย่างไรก็ตาม

ถอยหลังเพื่อก้าวไปข้างหน้า
Image by PublicDomainPictures from Pixabay

ชายหนุ่มกลับเข้าบ้านในเวลาพลบค่ำ ซึ่งถือว่าช้ากว่าทุกวันที่ผ่านมา เมื่อเปิดประตูเข้าไปในบ้าน โดยไม่คาดคิด เขาเห็นมีคนนอนอยู่ที่เตียงกับภรรยาของตน ชายหนุ่มตัดสินใจทันทีที่เห็นว่าต้องเป็นชายชู้ของภรรยาแน่นอน ในใจของชายหนุ่มคุกรุ่นไปด้วยความโกรธแค้นจนยากที่จะควบคุมไหว เขาคิดว่าจะเข้าไปฆ่าทั้งภรรยาและชายชู้ให้ตายไปด้วยกัน แต่ในขณะที่ก้าวเข้าไปด้วยหมายจะทำร้ายคนที่อยู่ในห้อง คำสอนของอาจารย์ที่ว่า “ก้าวเข้าไปข้างหน้าสามก้าว แล้วถอยกลับหลังอีกสามก้าว” ก็แวบขึ้นมา เขาจึงได้ลองปฏิบัติตามข้อคิดที่มาสะกิดใจ

เมื่อชายหนุ่มเริ่มกำหนดรู้ที่เท้าซึ่งกำลังก้าวไปข้างหน้า แล้วถอยกลับมาข้างหลังครบสามรอบ ทำให้รู้จักยับยั้งชั่งใจมากขึ้น เขาค่อย ๆ เคลื่อนตัวไปที่ห้องนอนอย่างช้า ๆ ทันทีที่ก้าวเข้าไปในห้องนอน ภาพที่เห็นก็คือ แม่ของเขาและภรรยากำลังนอนคุยกันอย่างมีความสุข เมื่อภรรยาเห็นเขาก็พูดขึ้นมาว่า

“พี่ ทำไมวันนี้กลับมาช้าจัง แม่มาเยี่ยมเพราะคิดถึงพี่ เอาของกินที่พี่ชอบมาฝากด้วย เข้ามาเร็ว ๆ เดินช้าอยู่ได้” ภรรยาเดินเข้ามาหาพร้อมกับจับมือสามีแล้วจูงพาไปหาแม่

ทันทีที่เห็นภาพที่ตรงกันข้ามกับความคิดที่เขาสร้างขึ้นในตอนแรก ชายหนุ่มถึงกับตัวชาเพราะคิดว่า หากไม่มีคำสอนของอาจารย์มาสะกิดเตือนไว้ เขาก็ไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น ชายหนุ่มจึงเข้าใจในทันทีว่า “ปัญญา” คืออะไร

เช้าวันรุ่งขึ้นเขารีบไปกราบอาจารย์ท่านนั้น แล้วกล่าวขอบคุณในคำสอนที่ท่านมอบให้ พร้อมกับจะมอบเงินแด่ท่านตามที่ตกลงกันไว้ ฝ่ายอาจารย์ก็ยิ้มให้เขาอย่างเมตตาแล้วกล่าวว่า

“ไม่ต้องนำเงินมาให้อาตมาหรอก เพราะเธอไม่ได้เอาปัญญาไปจากอาตมาแต่อย่างใด อาตมาก็แค่ทำหน้าที่ให้ข้อคิดแก่เธอเท่านั้น ส่วนปัญญาที่เกิดขึ้น เธอนั่นแหละเป็นผู้ค้นพบด้วยตัวเอง จำไว้นะว่า เงินไม่สามารถซื้อปัญญาได้ แต่ปัญญาต้องเกิดจากการรู้จักสร้างเอง คิดเอง แล้วปัญญาที่เกิดขึ้นก็จะคงอยู่กับเราตลอดไป”

“ครับท่านอาจารย์” ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณด้วยความสำนึกในพระคุณเป็นล้นพ้น ที่ทำให้เขาได้เข้าใจสิ่งที่ประเสริฐสุดในการมีชีวิตอยู่

ถอยหลังเพื่อก้าวไปข้างหน้า

ที่มา  เซน story นิทานธรรมสะกิดใจ โดย พระมหาวีระพันธ์ ชุติปัญโญ สำนักพิมพ์อมรินทร์ธรรมะ

Secret Magazine (Thailand)

IG @Secretmagazine


บทความน่าสนใจ

Dhamma Daily : ปัญญาคืออะไร และ ทำอย่างไรให้เกิดปัญญา

การเจริญสติที่ทำให้เกิดปัญญา โดย หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ

ปัญญาญาณ โดย หลวงพ่อโพธินันทะ

วันปรินิพพานของพระสารีบุตร พระอัครสาวกเบื้องขวาผู้เลิศทางปัญญา

ปฏิบัติธรรมอย่างไรให้ เกิดปัญญา

ผลของการเจริญสติที่ถูกต้อง โดย หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ

หลักการฝึกสติพื้นฐาน ด้วยการหายใจเพื่อระงับอารมณ์

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.