Editor’s story 02|เมื่อ เหตุ และปัจจัยพร้อม จึงเกิดผล

เมื่อ เหตุ และปัจจัยพร้อม จึงเกิดผล

ฉันเรียนจบนิติศาสตร์ แต่ไม่เคยทำงานด้านกฎหมายเลย  เพราะตั้งใจมาตั้งแต่เรียนชั้นมัธยมปลายว่าจะเป็นนักเขียนนิยาย

น้องในกองบรรณาธิการที่เพิ่งจบมาถามว่า เมื่อฉันอยากเป็นนักเขียนมาตั้งแต่แรก เหตุใดจึงไม่เลือกเรียนต่อในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง ฉันตอบเธอว่าการสอบเข้ามหาวิทยาลัยสมัยนั้นเรียกว่าการเอ็นทรานซ์ ทุกคนเลือกคณะและมหาวิทยาลัยได้ 6 อันดับ สอบเอ็นทรานซ์ได้คะแนนเท่าไหร่ก็มาดูว่า คณะที่เลือกอันดับหนึ่งต้องได้คะแนนระหว่างเท่าไหร่ ถึงเท่าไหร่ หากคะแนนที่สอบได้ไม่ถึงก็ดูคณะที่เลือกลำดับรองลงมา ฉันเลือกคณะนิติศาสตร์เป็นอันดับสี่ เพราะในยุคนั้นคะแนนไม่สูงมากนัก และรับนักศึกษาจำนวนมาก

หลังจากเรียนจบจึงมุ่งหน้าหาทำงานหนังสือเพราะคิดว่าเป็นทางเดียวที่จะทำให้ได้เป็นนักเขียน โดยเริ่มต้นเป็นพิสูจน์อักษรที่สำนักพิมพ์สร้างสรรค์-วิชาการ จากนั้นก็ได้มาเป็นกองบรรณาธิการนิตยสารดีไลท์(ปิดไปแล้ว) ก่อนจะมาทำงานตำแหน่งเดียวกันที่นิตยสารแพรวกว่า 7 ปี แต่ยังไม่มีงานเขียนเป็นเล่มของตัวเองสักที จึงตัดสินใจลาออกมาเป็นนักเขียนอิสระ เพราะหวังว่าจะมีเวลาเขียนนิยายของตัวเองเสียที

ผ่านไปอีกหลายปี นิยายเรื่องแรกถึงได้พิมพ์ออกจำหน่าย ระหว่างเป็นนักเขียนอิสระ ได้เรียนรู้การเป็นโกสต์ไรเตอร์ (นักเขียนเงา ที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญในการเขียนหนังสือ ถ่ายทอดความรู้ประสบการณ์ออกมาเป็นตัวหนังสือ) งานส่วนใหญ่เป็นงานจากบริษัทอมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด(มหาชน) ดังนั้นแม้ไม่ได้ทำงานประจำ แต่ก็เข้าออกบริษัทฯอยู่เสมอ บางครั้งก็มารับงานไปทำ บางครั้งก็มากินข้าวกับเพื่อน ๆ ที่ยังคงทำงานอยู่ที่นี่

ก่อนจะเล่าต่อ   อยากถามผู้อ่านว่า ตอนยังเป็นเด็ก ใครเคยท่องพรมหมวิหารสี่เป็นโคลงสี่สุภาพ เอาไว้สอบบ้างคะ

เมตตาปรารถนาให้เขาสุข    กรุณาของทุกข์เขาเสื่อมหาย

มุทิตายินดีเมื่อเขาสบาย      อุเบกขานั้นหมายวางเฉยเอย

เมื่อมองย้อนกลับไป ฉันพบว่าการเป็นเด็กใกล้วัด การถูกบังคับให้สวดมนต์ การต้องท่องหลักพุทธศาสนาอย่างกฎไตรลักษณ์ พรมวิหารสี่ อิทธิบาทสี่ อริยสัจสี่ ทั้งหลายเพื่อสอบให้ผ่านนั้น สิ่งเหล่านั้นไม่ได้หายไปไหน เวลาที่ต้องเผชิญปัญหาในการดำเนินชีวิต   ก็มักผุดขึ้นมาตอบคำถามในใจได้เสมอ

ตลอดเวลาหลายปี ได้พบเจอความสำเร็จ ความล้มเหลว ความสุข ความทุกข์ มากมาย ต้องนับเป็นโชคดีที่ทุกครั้งที่มีความทุกข์ ธรรมะข้อหนึ่งมักผุดขึ้นมาเสมอ คือทุกสิ่งในโลกล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ดังนั้นจึงไม่มีความทุกข์ใดอยู่กับเราไปชั่วกาลนาน สักวันมันก็ต้องจบ และมันก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ทุกครั้ง ยิ่งนานวันไปฉันก็ยิ่งพบว่าไม่มีเรื่องใดที่ธรรมะไม่มีคำตอบ ฉันเริ่มอ่านหนังสือธรรมะ แม้ยังไม่มากมายหลายเล่มนัก แต่ก็ทำให้คุ้นเคยกับธรรมะมากขึ้นเรื่อย ๆ

ถ้าฉันไม่เคยทำงานที่นี่มาก่อน หรือไม่เคยศึกษาธรรมะมาก่อนเลย ขาดเหตุหรือปัจจัยอย่างใดอย่างหนึ่งไป ก็คงไม่มีโอกาสมาเป็นบรรณาธิการบริหารนิตยสารซีเคร็ต

“ธรรมะจัดสรร” สำหรับฉันจึงไม่แตกต่างกับ “เมื่อเหตุและปัจจัยพร้อม ผลจึงเกิด” นั่นเอง

 

พัชรา โพธิ์กลาง

บรรณาธิการบริหารนิตยสาร Secret

Secret Magazine (Thailand)

Posted in MIND
BACK
TO TOP
A Cuisine
Writer

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.