ผู้ป่วยโรคเอดส์

ฮาน เนฟเก้นส์ … นิทรรศการงานศิลปะเพื่อเข้าใจ ผู้ป่วยโรคเอดส์

ฮาน เนฟเก้นส์ … นิทรรศการงานศิลปะเพื่อเข้าใจ ผู้ป่วยโรคเอดส์

ฮาน เนฟเก้นส์ พยายามนำ งานศิลปะ ของเหล่าศิลปินมาจรรโลงสังคม ไม่เท่านั้นงานศิลปะเหล่านี้ยังต้องสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับ ผู้ป่วยโรคเอดส์ ให้แก่สังคมอีกด้วย

0

ฮาน เนฟเก้นส์ (Han Nefkens) เกิดมาพร้อมกับแขนที่พิการทั้งสองข้าง ข้างหนึ่งสั้นเพียงแค่ข้อศอก ส่วนอีกข้างนิ้วมือสั้นกุดทุกนิ้ว ทว่าความพิการไม่เคยทําร้ายเขาได้เลย ตรงข้าม มันกลับทําให้เขารู้ว่า คนเรานั้นสามารถที่จะแตกต่างกันได้…การไม่คิดไม่ทําหรือไม่เป็นเหมือนคนอื่นไม่ใช่เรื่องผิด
0
ฮานเกิดที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อ 50 กว่าปีที่แล้ว เขาเริ่มงานแรกด้วยการเป็นนักข่าวในประเทศเม็กซิโก หลังจากนั้นก็ย้ายไปทํางานและใช้ชีวิตในประเทศต่าง ๆ หลายประเทศ เขามีเพื่อนอยู่ทุกหนทุกแห่ง และมีชีวิตที่สนุกสนาน ตื่นเต้น เฉกเช่น คนหนุ่มมีสตางค์ทั่วไป ทว่าในปี ค.ศ. 1987 ฮานก็เข้ารับการตรวจโรคและได้รู้ว่าเขาเป็นหนึ่งในผู้ติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งสามารถพัฒนาเป็นโรคเอดส์ที่ทําลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทําให้มีโอกาสเสียชีวิตได้ง่ายกว่าปกติ การแสดงอาการของเอดส์นั้นรุนแรงและบางอย่างก็น่ารังเกียจ เช่น ท้องเสีย และไอตลอดเวลา มีตุ่มเกิดขึ้นทั่วร่างกาย ฯลฯ ที่สําคัญคือ ไม่มีทางรักษาให้หายได้
ผู้ป่วยโรคเอดส์
0
เช่นเดียวกับผู้ติดเชื้อเอชไอวีคนอื่น ๆ โรคนี้เป็นเรื่องร้ายแรงที่สุดที่เกิดขึ้นกับฮาน และมันก็เปลี่ยนแปลงชีวิตเขาไปตลอดกาล เพียงแต่ฮานเลือกที่จะเปลี่ยนมันไปในทางที่ดีขึ้น เขาเล่าว่า “การติดเชื้อไม่ได้ทําให้ผมท้อแท้ เพราะผมเข้าใจว่าเรื่องร้าย ๆ เกิดขึ้นได้เสมอ แต่มันทําให้ผมเริ่มค้นหาอย่างจริงจังว่า ‘อะไรคือสิ่งสําคัญของชีวิต’ และผมก็ได้คําตอบว่า สิ่งที่สําคัญจริง ๆ คือ การได้ใช้ชีวิตและได้แบ่งปันสิ่งต่าง ๆ ร่วมกับเพื่อนมนุษย์”
0
แต่นั้นฮานก็หันมาเขียนหนังสือ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคเอดส์ ต่อมาเขาได้ใช้ทรัพย์สินส่วนตัว ก่อตั้งมูลนิธิฮานเนฟเก้นส์ เพื่อให้ทุนแก่พิพิธภัณฑ์และศิลปินในการจัดนิทรรศการศิลปะ นิทรรศการที่มีชื่อเสียง ได้แก่ ArtAIDS ซึ่งเป็นการรวบรวมงานของศิลปินแขนงต่าง ๆ เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับโรคเอดส์ เป็นนิทรรศการที่มีชื่อเสียงและจัดขึ้นในหลายสิบประเทศทั่วโลก
ผู้ป่วยโรคเอดส์
0
ฮานเล่าว่าเทคโนโลยีการรักษาที่พัฒนาไปมากในทุกวันนี้ เป็นสิ่งหนึ่งที่ทําให้เกิดปัญหาในการต่อสู้กับโรคเอดส์เหมือนกัน เพราะยาทําให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ถ้ามองจากภายนอกจึงไม่มีทางรู้ว่าใครติดเชื้อ หรือไม่ติดเชื้อ ถึงขนาดที่คนหนุ่มสาวในปัจจุบันลืมไปว่า เอดส์มีอยู่จริง! แต่งานศิลปะจะช่วยเตือนให้ผู้คนตระหนักถึงอันตรายของโรคนี้ และสามารถปลอบประโลมผู้ติดเชื้อว่า เอชไอวีไม่ใช่สิ่งชั่วร้าย เขาไม่ได้โดดเดี่ยวและมีคนที่พร้อมจะช่วยเหลือพวกเขาอยู่อีกมากมาย
ว่าไปแล้วฮานไม่ได้ทํางานเพื่อผู้ติดเชื้อเอชไอวีหรือเอดส์อย่างเดียว แต่สิ่งที่เขาทํามาทั้งหมดก็เพื่อโปรโมทการให้และการแบ่งปันระหว่างเพื่อนมนุษย์เป็นสําคัญ
ผู้ป่วยโรคเอดส์
0
“คนเรามักคิดว่า เมื่อพวกเขาให้แปลว่ามีบางสิ่งหายไป หรือถูกพรากไปจากเขา การให้คือการสูญเสียอะไรบางอย่าง แต่ความจริงไม่ใช่อย่างนั้น เมื่อคุณให้คุณจะได้รับบางสิ่งที่มีค่ามากกว่าเดิมกลับมา… หลายคนอาจคิดว่าการได้ซื้อรถคันใหญ่ ๆ หรือซื้อเครื่องเพชรคือความสุข แต่ผมว่าไม่ใช่เพราะรถหรือสร้อยเพชรพูดคุยกับคุณไม่ได้ แต่เวลาที่ผมทําโปรเจ็กต์ทางศิลปะกับเพื่อน ๆ ทํางานเพื่อสังคม หรืออื่น ๆ ผมได้เจอเพื่อนใหม่มากมาย ได้เป็นส่วนหนึ่งของสังคม
0
“ความรู้สึกที่ได้ให้นั้นยอดเยี่ยมยิ่งกว่าการซื้อของให้ตัวเองหลายร้อยหลายพันเท่า”
0
ที่มา : นิตยสาร Secret  ฉบับที่ 122
ผู้เขียน/แต่ง : Violet
0
บทความน่าสนใจ

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.