ความสุขหลังคราบน้ำตา! หนูเล็ก ก่อนบ่าย มีวันนี้ได้เพราะกตัญญูสุดพลัง

ทุกข์หนักเพราะพ่อป่วย

ช่วงที่หนูเป็นทุกข์มากคือช่วงเวลาที่พ่อแม่ป่วย ครั้งแรกท่านทั้งสองป่วยในเวลาไล่เลี่ยกัน เราก็รักษากันจนดีขึ้น ต่อมาพ่อมีอาการเส้นเลือดในสมองตีบ หนูรู้ข่าวตอนกำลังถ่ายละคร จึงต้องขอหยุดงานทุกอย่างไปหาท่านที่สงขลาทันที หมอบอกว่าตอนแรกพ่อหัวใจหยุดเต้นไปแล้ว ต้องปั๊มหัวใจสี่ห้ารอบจึงกลับมา แต่ท่านก็ยังนอนไม่รับรู้อะไร

หนูเล็ก ก่อนบ่าย

เวลานั้นหมอบอกว่าพ่ออาจจะไม่รอดแล้ว แต่หนูกลับเชื่อมั่นว่าอย่างไรพ่อก็ต้องดีขึ้น จึงเข้าไปจูบเท้าพ่อแล้วบอกท่านว่า  “พ่อต้องหายภายใน 1 เดือนนะ”

ช่วงที่พ่อป่วย หนูเครียดมากเพราะไม่มีใครดูแล หนูเองก็ต้องหาค่ารักษาจำนวนมาก ทั้งยังมีปัญหาอื่น ๆ ประดังเข้ามาไม่หยุด หนูไม่อยากปรึกษาใคร จึงเก็บทุกสิ่งทุกอย่างไว้ในใจคนเดียว และคิดวนไปวนมาเรื่องเดิมแบบไม่ปล่อยวางจนเครียด ตอนนั้นหนูเริ่มควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ร้องไห้ไม่หยุด ทำลายข้าวของ แฟนมาพูดปลอบใจก็ไม่หาย ไล่เขาไปไกลๆ

คืนหนึ่งหนูนอนมองเพดานแล้ววูบคิดอยากผูกคอตาย วูบถัดมาก็บอกตัวเองว่าอยากขับรถออกไปให้รถชนให้ตายไปเลย แล้วอยู่ๆ ก็ได้สติคิดได้ว่า “นี่เรากำลังเป็นอะไรอยู่”

หนูเรียกแฟนให้มาหา กอดเขาและร้องไห้ เขาก็ปลอบใจให้หนูค่อยๆ คิด ค่อยๆ หาทางออก ถึงอย่างไรก็มีกันสองคน ช่วยกันคิดได้ หนูตั้งสติและคิดได้ว่า “ไม่เป็นไร แล้วมันจะผ่านไป” หนูต้องมีชีวิตอยู่เพื่อดูแลพ่อแม่

หนูเล็ก ก่อนบ่าย

พอคิดได้มันเหมือยปลดล็อค พร้อมสู้กับปัญหาทุกอย่าง หนูพูดกับตัวเองเลยว่าไม่ว่ามีปัญหาอะไรอีก หนูจะรับไว้ทั้งหมด แล้วก็ค่อย ๆ แก้ไปทีละปัญหา ไม่น่าเชื่อว่าหลังจากนั้นไม่นาน พ่อที่อาการทรุดหนักก่อนหน้านี้ก็ดีขึ้นจนกลับมาเดินเหินเกือบจะเป็นปกติได้ภายใน 1 เดือน

ความเจ็บป่วยของพ่อครั้งนี้ทำให้หนูกลับมาดูแลพ่อแม่อย่างดีมากขึ้นไปอีก เมื่อก่อนไม่ค่อยได้แสดงความรักต่อกัน หนูไม่เคยกอดพ่อแม่เลยนะ ยิ่งพอมาอยู่กรุงเทพฯก็รู้สึกว่าห่างกันมากขึ้น แต่พ่อป่วย กลายเป็นว่าเมื่อไหร่ที่เจอกันหนูจะเข้าไปกราบและกอดหอมท่านตลอด

หนูเชื่อว่าการกอดเป็นการบอกรักที่ดีมากๆ ทำให้ท่านหายเครียด หายเจ็บป่วยได้ ทั้งความสัมพันธ์ในครอบครัวยังอบอุ่นแน่นแฟ้นขึ้นกว่าเดิม

หนูอยากบอกทุกคนว่า ถ้าครอบครัวไหนมีคนแก่ ขอให้รักท่านมาก ๆ และดูแลเอาใจใส่อย่างดี เพราะเราไม่รู้ว่าจะมีโอกาสอยู่กับท่านได้นานแค่ไหน เวลานี้ถ้าได้ดูแลท่านถือเป็นบุญมาก ๆ ขอให้ทุกคนลองกอดพ่อแม่ดูนะคะ เป็นสิ่งที่ดีมากจริง ๆ

คู่ชีวิตที่ดูแลกันอย่างดี

หนูเล็ก ก่อนบ่าย

หลายคนอาจคิดว่าหนูแต่งงานเร็ว แต่จริง ๆ แล้วหนูรู้จักกับแฟนตั้งแต่ช่วงใกล้เรียนจบ เขาเป็นคนดีมาก เราคบหาดูใจกันตั้งแต่หนูยังไม่มีชื่อเสียง คบกันได้สองปี หนูก็ซื้อบ้านหลังแรก ตอนนั้นคิดว่าน่าจะใช้ชีวิตด้วยกัน แฟนจึงขอหมั้นให้ถูกต้องตามประเพณี พ่อแม่ได้เจอเขาก็ชอบ เพราะเขานิสัยดี พอทำพิธีหมั้นเสร็จเราก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันโดยที่ครอบครัวก็รับรู้

พอได้ใช้ชีวิตด้วยกัน หนูก็รู้เลยว่าเลือกคนไม่ผิด แฟนคอยดูแลหนูทุกเรื่อง แม้กระทั่งการพูดจา เพราะเขารู้ว่าหนูพูดจาเพราะ ๆ ไม่เป็น ที่สำคัญคือเขารักครอบครัวของหนูมาก ตอนที่พ่อป่วยเขาก็บอกว่า ทำงานได้เงินเท่าไรให้นำไปรักษาพ่อให้หมดเลย ถ้าไม่พอก็บอก เขาจะให้เงินส่วนของเขาด้วย หรือถ้าอยากไปหาพ่อก็ไป เขาจะดูแลบ้านให้เอง

หนูเล็ก ก่อนบ่าย

เราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมา 8 ปี ตอนแรกคิดว่าคงจะไม่ได้จัดพิธีแต่งงานแล้ว แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นอีกครั้ง พ่อไม่สบายอีกรอบ ท่านปวดท้ายทอยมากจนอยู่ ๆ ก็เดินไม่ได้ ต้องนอนอยู่กับที่เหมือนเดิม จากนั้นพ่อก็ต้องนอนโรงพยาบาล หนูบอกพ่อตลอดว่า “เดี๋ยวพ่อต้องเดินได้แน่นอน ไม่เกิน 2-3 เดือนนี้” น่าแปลกที่ไม่กี่เดือนต่อมาพ่อก็กลับมาดีขึ้นจนเดินได้อีกครั้ง

พ่อคงรู้ตัวว่าอาจไม่โชคดีเช่นนี้ไปตลอด เพราะป่วยหนักมาสองรอบแล้ว จึงเปรยว่าอยากให้หนูแต่งงานก่อนที่พ่อจะไม่ได้อยู่ถ่ายรูปด้วย หนูได้ยินอย่างนี้ก็ใจหาย จึงรีบรับคำและจัดงานแต่งงานโดยเร็ว เราเลือกฤกษ์ที่ดีและเร็วที่สุด แล้วจัดงานเล็ก ๆ ที่สงขลาโดยไม่ได้เชิญใครมากนัก

หนูรับรู้ได้ว่าพ่อแม่มีความสุข พ่อยิ้มกว้างแม้กำลังป่วย ส่วนแม่ก็เต้นสนุกสนานในงาน ซึ่งตั้งแต่เด็กจนโตหนูไม่เคยเห็นแม่เต้นเลย แสดงว่าเขามีความสุขมาก

วันสูญเสีย

หนูเล็ก ก่อนบ่าย

พอแต่งงานเสร็จหนูก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วพาพ่อไปส่งโรงพยาบาล เพราะเห็นว่าท่านเหนื่อยมาก อากาศที่บ้านมันร้อน พอไปถึงโรงพยาบาลก็ถามพ่อว่าสบายใจไหม พ่อบอกสบายใจ แล้วหันไปบอกพี่สาวว่าว่าเล็กแต่งงานเสร็จกูก็ไปแล้ว ทุกคนร้องไห้กันหมดเลย ความรู้สึกตอนนั้นโห… มันชาไปหมดทั้งตัว

หลังจากนั้นหนูก็ไปๆ มาๆ สงขลา-กรุงเทพฯ ตลอด ถ้าว่างวันสองวันก็ลงไปเลย หรือถ้าอยู่กรุงเทพฯ เพราะต้องทำงาน พอเลิกงานปุ๊บหนูก็จะวิดีโอคอลหาพ่อ เพื่อให้เห็นหน้า เห็นท่านยิ้ม หัวเราะ แต่หลังจากอยู่ใกล้หมอได้ 6 เดือน พ่อก็จากไปด้วยอาการติดเชื้อในท่อปัสสาวะ

พ่อบอกหนูคือสิ่งที่พ่อภูมิใจที่สุดในชีวิตของพ่อ หนูก็อยากบอกพ่อเหมือนกันว่าพ่อคือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตหนู พ่อรู้มั้ยว่าพ่อเก่งที่สุดในโลก พ่อสู้กับมันได้นานที่สุดทั้งๆ ที่มันทำร้ายพ่อไปทั้งตัว แต่หัวใจพ่อสู้ พ่อฉลาด รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรทั้งๆ ที่ไม่ได้บอก พ่อเก่งที่รับมันได้และอยู่กับมานมาถึง 6 เดือน พ่ออดทนกับความเจ็บปวดที่รุนแรงเกินพ่อรับไหว และตอนนี้พ่อก็ไม่ทรมานแล้ว

ทำด้วยใจ

หนูเล็ก ก่อนบ่าย

หลายคนบอกว่าความกตัญญูทำให้หนูมีชีวิตที่ดี แต่หนูไม่เคยคิดว่าต้องกตัญญูกับพ่อแม่เพื่อให้ชีวิตเราเจริญ หนูดูแลท่านอย่างดีด้วยความรักจากใจ ปรารถนาให้ท่านมีความสุข และตัวเราเองก็มีความสุขไปด้วย

เรื่องหนึ่งที่ทำให้หนูซาบซึ้งและประทับใจมากคือหลังจากซื้อบ้านหลังใหม่ แล้วหนูพาพ่อแม่มาอยู่ด้วยอย่างที่ตั้งใจไว้ แต่พอหนูออกไปทำงานท่านก็เหงา เพราะออกไปแต่เช้ากลับมาก็ดึกแล้ว เช้าวันหนึ่งแม่ตื่นมาส่งแล้วพูดว่า “เมื่อก่อนแม่นกบินไปหาข้าวให้ลูกนกกิน แต่ตอนนี้ลูกนกโตแล้ว ลูกนกเลยบินออกไปหาข้าวมาให้แม่กิน”

ได้ยินแม่พูดอย่างนี้หนูร้องไห้เลย ที่ผ่านมาถึงพ่อแม่จะไม่เคยมีคำพูดดี ๆ มาคอยบอกคอยสอน แต่ท่านก็ทำให้หนูเห็นเป็นแบบอย่างมาตลอด แม่หนูไม่เคยนินทาหรือดูถูกใคร หรือทำอะไรให้เสื่อมเสียชื่อ มีแต่ทำงานหนัก ไม่เคยหยุด ไม่เคยใช้เงินสิ้นเปลือง

ส่วนพ่ออาจจะเคยติดเหล้า ติดบุหรี่ พอเมาหนักก็ทุบตีทุกอย่าง แต่วันหนึ่งท่านก็รู้สึกตัวว่าไม่ดีและเลิกหมดทุกอย่าง ท่านเป็นตัวอย่างให้หนูได้เห็นทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดี

ชีวิตของหนูผ่านความลำบากมามาก เวลาเห็นใครที่ลำบากกว่าจึงยื่นมือเข้าช่วยเสมอ บางทีขับรถไปเห็นคนนั่งอยู่ใต้สะพานลอย หนูรู้สึกว่าเขาลำบากก็ยื่นเงินให้เขาไป ตอนเขารับเรารู้สึกถึงความสุขใจเลยนะ อาจเป็นเงินไม่กี่บาท แต่เขาทั้งขอบคุณและให้พรเรา

หรือเวลาฝนตก รถติดอยู่บนทางด่วน หนูเห็นรถกระบะขนคนงานเต็มด้านหลังนั่งเปียกปอนไปหมด หนูก็โยนร่มให้เขา เขาก็ไหว้ขอบคุณกันทั้งรถ จริง ๆ หนูให้ไปโดยไม่ได้หวังอะไรกลับมาเลย แต่สิ่งที่พวกเขาให้กลับมาคือทำให้เราสุขใจมากจริงๆ

8 ปีที่ทำงานมา วงการนี้ให้ทุกอย่างที่หนูและพ่อแม่ไม่เคยมีมาก่อน เรียกว่าให้ชีวิตใหม่กับครอบครัวของเรา ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ทุกท่านที่ส่งเสริมและผลักดันให้หนูมีวันนี้ ที่สำคัญต้องขอบคุณความพยายามของตัวเองด้วย หากหนูไม่สู้ก็คงไม่มีวันนี้เช่นกัน แต่แม้มีชื่อเสียง หนูก็ไม่ได้ยึดติด ยังคงทำตัวธรรมดาและขยันทำมาหากินเหมือนเดิม

ชีวิตที่ผ่านมาอาจต้องพบกับความลำบากและเสียน้ำตาไปมากมาย แต่สุดท้ายเมื่อผลของการฟันฝ่าคือได้เห็นพ่อแม่มีชีวิตที่อยู่ดีมีสุข หนูก็เป็นสุขใจเหนือกว่าสิ่งอื่นใดในโลกนี้แล้ว 


ที่มา: นิตยสาร SECRET

ภาพ : Secret และ www.facebook.com/nulekgaga99/

ขอขอบคุณสถานที่: ร้านเขียวไข่กา


บทความน่าสนใจ

ชีวิตวัยเด็กที่ไม่เคยยอมแพ้ ของ ตุ๊กตา อุบลวรรณ บุญรอด

รักแท้ไม่แพ้โชคชะตา ตี้  สมเจตน์ เจริญวัฒน์อนันต์

หนุ่ม กะลา กับช่วงเวลาที่พบ จากวันที่ทุกข์ถึงวันที่ซึ้งธรรม

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.