เมลิสซา โอห์เดน

เมลิสซา โอห์เดน สตรีผู้รอดชีวิตจากการทำแท้ง

เมลิสซา โอห์เดน สตรีผู้รอดชีวิตจากการทำแท้ง

ย้อนไปในปี 1977 แม่ของ เมลิสซา โอห์เดน (Melissa Ohden) ตั้งท้องเมลิสซาในขณะที่อายุ 19 ปี เธอถูกบังคับให้ทำแท้งที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในรัฐไอโอวา สหรัฐอเมริกา   ด้วยวิธีฉีดน้ำเกลือเข้าไปทำลายตัวอ่อน  (Saline Abortion)  ซึ่งทำให้เด็กคลอดก่อนกำหนด  ตอนแรกไม่มีใครรู้ว่าทารกน้ำหนักเพียง 2 ปอนด์ยังไม่ตาย

หนูน้อยนอนเดียวดายอยู่ในถังขยะโดยมีท่อและสายระโยงระยางเต็มตัว  จนกระทั่งมีพยาบาลคนนึ่งได้ยินเสียงร้อยแผ่วเบาของเธอ จึงรีบนำเมลิซาเข้าห้องฉุกเฉินทันที  ตอนแรกแพทย์ที่ทำแท้งคิดว่าอายุครรภ์ของแม่เมลิซาน่าจะประมาณ 20 สัปดาห์  แต่การที่ทารกน้อยรอดชีวิตมาได้แสดงว่าแม่ของเธอตั้งครรภ์มา 31 สัปดาห์แล้ว

เรื่องน่าเศร้าคือ ตอนนั้นมีพยาบาลอีกคนหนึ่งบอกคนอื่น ๆ ว่า ให้ปล่อยเด็กไว้ในห้องให้ตายไปเอง เมลิสซามารู้ในภายหลังว่า พยาบาลคนนั้นคือคุณยายของเธอเองและเป็นคนบังคับให้แม่ของเธอทำแท้ง

ผลจากการทำแท้งทำให้เมลิสซาตัวเหลือง หายใจลำบาก และมีอาการชัก ตอนนั้นคุณหมอคาดว่าแม้เธอจะรอดชีวิต แต่อาจมีปัญหาทางการมองเห็น สูญเสียการได้ยิน และมีพัฒนาการล่าช้า   3 สัปดาห์ต่อมาเธอถูกย้ายไปอยู่โรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่ง จนกระทั่งเมลิสซาอายุได้ 3 เดือน ลินดาและรอน โอห์เดน สามีภรรยาใจดีก็รับเธอไปอุปการะ ทั้งคู่มีลูกบุญธรรมอยู่แล้วคือหนูน้อยแทมมี่ อายุมากกว่าเมลิสซา 4 ปี

ลินดาและรอนบอกเด็กทั้งสองตั้งแต่แรกแล้วว่าเป็นลูกบุญธรรม แต่เมลิสซาไม่รู้ความจริงว่าแม่เธอตั้งใจทำแท้ง จนเมื่อเธออายุ 14  แล้วทะเลาะกับพี่สาว  แทมมี่หลุดปากบอกเรื่องนี้  ลินดาและรอนจึงต้องเล่าความจริงซึ่งทำให้เมลิซาทั้งโกรธและอาย   เธอเจ็บปวดเสียใจจนป่วยเป็นบูลิเมีย และดื่มหนักเพื่อให้ลืมความเจ็บปวด โดยที่พ่อแม่บุญธรรมไม่รู้

ยังโชคดีที่เธอสามารถรวบรวมสติและเข้าเรียนมหาวิทยาลัย  รวมทั้งเริ่มออกติดตามสืบหาแม่บังเกิดเกล้า จนได้รู้ว่าพ่อที่แท้จริงเสียชีวิตไปแล้ว เวลาผ่านไป 17 ปีจนเมลิสซาเกือบถอดใจ และแล้วแม่ก็อีเมล์ติดต่อกลับมาตอนที่เธออายุ 36 แต่งงานและมีลูกแล้วสองคน

เมลิสซาได้รู้ว่าแม่ของเธอไม่รู้เลยว่าเมลิสซารอดชีวิต และที่ไปทำแท้งก็เพราะถูกคุณยายบังคับ โดยคุณยายเป็นผู้เตรียมการทุกอย่างให้ แม่เองก็ต้องอยู่กับความรู้สึกผิดมาตลอด

ทั้งคู่คุยกันอยู่สามปี ถึงได้นัดเจอกันเมื่อสองปีที่แล้ว เมลิสซาตัดสินใจให้อภัยแม่ ให้อภัยพ่อ และให้อภัยคุณยาย ซึ่งเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว เธอกลายเป็นนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ เขียนหนังสือเรื่องราวชีวิตของเธอ และก่อตั้ง Abortion Survivors Network เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน

การให้อภัยช่วยปลดปล่อยเราจากความเจ็บปวด


แปลและเรียบเรียงโดย ชนาฉัตร

ลิงก์ภาพ www.lifenews.com


บทความที่น่าสนใจ

ความฝันยามนิทรา สร้างสรรค์ แรงบันดาลใจ ในชีวิตจริง   

รัชเขต วีสเพ็ญ-จากนักเลงหัวไม้สู่ นักพูดสร้างแรงบันดาลใจ

อู๊ด OZEEOOS แร็ปเปอร์ผู้สร้างแรงบันดาลใจ ความกล้า และความเชื่อ บนเวที

เพราะมีลูกเป็นแรงบันดาลใจผมจึงไม่ท้อ โก้ นฤเบศร์ จินปิ่นเพ็ชร

ท้อแท้ แต่อย่าท้อถอย กับ 7 ข้อคิด และ คำคมสร้างแรงบันดาลใจ จุดไฟให้ชีวิต

James Kearsley ชายหนุ่มผู้ เอาชนะโรคร้าย กลายมาเป็นนักเพาะกายสร้าง แรงบันดาลใจ

 

 

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.