การสวดมนต์

อานิสงส์แห่งการสวดมนต์ โดย พระราชญาณกวี (ท่านปิยโสภณ)

อานิสงส์แห่ง การสวดมนต์ โดย พระราชญาณกวี (ท่านปิยโสภณ)

การสวดมนต์ ถือว่าเป็นเรื่องที่เป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง ในด้านกายภาพเสียงสวดมนต์นั้น ก็จะเป็นเสียงที่ทำให้ระบบประสาทมีความตื่นตัว เราสวดมนต์แล้วจิตใจจะเยือกเย็นตามไปด้วย บางทีเราอาจนึกไม่ออก นึกไม่ถึงว่า ขณะที่เราสวดมนต์เป็นการกระตุ้นให้ระบบประสาทต่าง ๆ ทำงาน เช่น สมอง เสียง

เขาบอกว่าภาษามันก็กระตุ้น ภาษาที่เราสวดมนต์เป็นภาษาที่ให้ศีลให้พรแก่ชีวิต แตกต่างจากภาษาที่เราพูดทั่วไป ยิ่งเราสวดกันหลายคน เป็นร้อย เป็นพัน เป็นหมื่นคน พลังมันก็จะยิ่งมากเหมือนเราร้องเพลงพร้อม ๆ กัน พลังมากก็กระหึ่มมาก สวดคนเดียวก็ได้ หรือบางคนอาจจะเปิดฟังก็ยังมีผล เป็นการพรมน้ำมนต์ให้แก่เม็ดเลือดและร่างกายของเรา และสิ่งที่สำคัญที่สุดของการสวดมนต์คือ ทำให้เกิดปีติอย่างรวดเร็ว

 

การสวดมนต์ช่วยขจัดสิ่งที่ขุ่นมัวในจิตใจ  

อาตมาภาพเปรียบการสวดมนต์เหมือนกับสารส้ม น้ำขุ่น ๆ ในแก้วเหมือนกับอารมณ์ที่ขุ่นมัว ปกคลุมจิตใจไม่ให้ส่องแสงสว่าง คิดอะไรก็ไม่ออก เอาแต่หงุดหงิดเหมือนน้ำที่เราตักจากข้างคลอง แล้วก็เอามาตั้งนิ่ง ๆ มันก็ยังไม่ตกตะกอน เราจะต้องมีสารส้ม เอาไปแกว่งนิดนึง เสร็จแล้วมันจะตกตะกอนเร็วขึ้น จากนั้นน้ำข้างบนใสน้ำข้างล่างขุ่น เราก็จะเห็นว่ามีอะไรบ้างขุ่น

เราทุกข์ร้อนอะไรมามากมายเลย นั่งสมาธิอย่างเดียวจะฟุ้งซ่าน ยิ่งหลับตายิ่งเห็นมาก ท่านจึงบอกสวดมนต์เป็นการขับเคลื่อนขั้นแรก  นั่งสมาธิหลังสวดมนต์ เราก็จะได้อานิสงส์อย่างหนึ่งคือจิตของเราจะเข้าถึงระบบการทำงานของหัวใจ หรือการทำงานของจิตใจ สามารถขจัดอารมณ์ได้เร็วยิ่งขึ้น

 

สวดมนต์มากน้อยไม่สำคัญ

คนเราสวดมนต์บทอะไรไม่ได้ก็ พาหุงมหากา บางคนสวดคาถาชินบัญชร บางคนก็สวดบทโพชฌงค์เพื่อบำบัดโรคภัยไข้เจ็บ บางคนก็สวดอิติปิโสเท่ากับจำนวนอายุของตัวเอง บางคนสวดสั้น ๆ พุทโธ ๆ ๆ สวดได้แค่นี้ก็ยังดี สวดได้คำเดียวแต่บริกรรมเป็นชั่วโมง ๆ ก็ยังถือว่าได้บริกรรม บริกรรมบ่อย ๆ เข้าก็จะเกิดพลัง พลังจะทำให้จิตของเราเย็น สิ่งเหล่านี้พูดเฉย ๆ ท่านไม่เชื่อหรอก อาตมาจะบรรยายเป็นชั่วโมงท่านก็ไม่เชื่อ เพราะว่าเรายังไม่ได้ลอง อยากรู้ว่าเป็นอย่างไรลองเลย ลองสวดมนต์ ลองทำสมาธิภาวนา มันเกิดขึ้นจริง ๆ

 

ความเป็นมาของการสวดมนต์

อาตมาภาพอยากบอกไว้ว่า มันมีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้ว เวลาที่พระไปธุดงค์ พระถูกผีหลอกบ้าง ถูกเทวดากลั่นแกล้งบ้าง ท่านมาถามพระพุทธเจ้าว่าจะทำอย่างไรดี พระองค์ท่านก็บอกว่าให้สวดแผ่เมตตากรณียเมตตสูตร พระป่วยทำอย่างไร พระพุทธองค์ก็ไปสวดโพชฌังคปริตร ถ้าพระพุทธองค์ป่วยก็ไปนิมนต์พระมาสวดโพชฌังคปริตรถวาย อย่างนี้เป็นต้น เพราะฉะนั้นมีมานานแล้วอย่างนี้ เกิดทุพภิกขภัย อุบัติเหตุเภทภัยห่าลงในสมัยก่อน พระพุทธองค์ก็ให้สวดมนต์ขับไล่ภูตผีปีศาจ สวดมนต์ไล่โรคด้วยนะ โรคห่าสามารถสวดมนต์ไล่ได้ด้วย อันนี้ก็อานิสงส์ของการสวดมนต์

 

เคล็ดลับทำให้เด็กสวดมนต์เป็น

การเริ่มต้นสวดมนต์ที่ดีคือให้เด็กเล็ก ๆ ไปนอนฟังก่อน อย่าเพิ่งไปบังคับเขา เอาเข้าไปด้วยตอนคุณพ่อคุณแม่สวดมนต์ ให้เอาลูกไปนอนฟัง พี่คนโตอาจจะนั่งได้ เด็กตัวน้อยนอนเปล เอาไปนอนฟังก่อน ฟังไปเรื่อย ๆ ประเดี๋ยวก็เข้าใจเองว่าพ่อแม่ทำอะไร ถ้าทำอย่างนี้ทุกวัน ๆ ๆ จะจำได้เอง

อาตมามีแฟนพันธุ์แท้คนหนึ่ง เขาสวดบทสวดของอาตมาภาพ ที่เรียกว่า “จิตสปา” ได้ ได้ตั้งแต่จำความได้ก็สวดได้แล้ว ก็เลยไปถามคุณยายว่าทำอย่างไร คุณยายบอกว่าพาไปสวดมนต์ คุณยายก็สวดไปตามซีดี พอสักพักนึงเขาก็จะหลับ เขาก็จะจำได้แค่ตอนต้นเพราะว่าตอนหลังตอนปลาย ๆ หลับ อาตมาก็เอาเด็กอายุ 5-6 ขวบ มาทดสอบ ปรากฏว่าสวดมนต์ได้เลย สวดมนต์ได้หมด  แต่ว่าตอนปลายจำไม่ได้เพราะว่าหลับก่อน ยายก็เปลี่ยนวิธีใหม่ เอาบทปลาย ๆ ขึ้นมาไว้ต้น ๆ ตอนนี้จำได้หมดเลย ฉะนั้นเด็กคนนี้จึงเริ่มสวดมนต์ด้วยการตามคุณยายไปฟังในห้องพระ ตอนนี้ชอบมาก

บทสวดที่เหมาะสมกับเด็กก็พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ แล้วก็อธิบายความหมายให้เขาฟังด้วยว่าหมายถึงอะไร คุณของพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสงฆ์เป็นอย่างไร ให้เขาเข้าใจความหมายลึกซึ้งลงไปทีละนิดทีละนิด นอกจากนั้นก็ยังมีกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่อง เช่น ทำบุญตักบาตร ถวายทาน รักษาศีล ถือศีลวันพระ ขนบธรรมเนียมประเพณีพวกนี้ ถ้าคุณพ่อคุณแม่นำเด็กจะตาม ถ้าคุณพ่อคุณแม่ทิ้งเด็กก็จะทิ้งเลย

 

สวดมนต์บาลีพร้อมคำแปลทั้งได้บุญและได้ความคิด

บทสวดมนต์ส่วนใหญ่มักจะเป็นภาษาบาลี เพราะว่าในทางพระพุทธศาสนาของเรา พระไตรปิฎกจารึกด้วยภาษาบาลี เราก็เลยต้องเรียนภาษาบาลี หรือสวดภาษาบาลีกัน บางคนอาจจะบอกว่ายากไม่เข้าใจ จริง ๆ แล้วมันเป็นภาษาที่อยู่ในภาษาไทยของเรา ตั้งครึ่งหนึ่ง ชื่อคน ชื่อถนนหนทาง ชื่อบ้านชื่อเรือน ชื่อโรงเรียนล้วนแต่เป็นภาษาบาลีทั้งสิ้น แม้แต่ที่เราพูดกันทุกวันทุกวัน เราก็พูดภาษาบาลีเพราะฉะนั้นเราไม่ต้องไปกลัว เราสวดมนต์ เราแทบจะรู้ความหมายของบทสวดอยู่แล้ว เพราะเราเอาภาษาในบทสวดมนต์มาเป็นภาษาพูดด้วย ฉะนั้นท่านทั้งหลายลองดูแล้วกันว่าเอาบทสวดอะไรที่ง่าย ๆ มันอาจจะเป็นภาษาบาลีด้วย อาจจะเป็นภาษาไทยด้วย ถ้าเด็ก ๆ อาตมาภาพก็แนะนำว่าจะมีภาษาไทยที่เป็นกลอน เช่น คนโบราณเขาแต่งเอาไว้ ขึ้นต้นด้วยภาษาบาลี อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ไล่ไปจนจบสักพักหนึ่ง ก็ต่อด้วยองค์ใดพระสัมพุทธฯ เป็นบทอาขยาน เป็นบทสวดทำนองสรภัญญะ วสันตดิลก

บางทีบทอาขยาน บางบทเป็นบทที่เราแปลมาจากภาษาบาลี แต่ว่าเป็นภาษาไทยแล้วเยอะมาก ก็เอามาสวดได้ หลวงปู่จันทร์ กุสโล วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ ท่านก็จะมีบทปลงสังขาร แปลว่ามาจาก อนิจจา วตสังขารา บทสวดพระอภิธรรมของพระนั่นแหละ แปลมาเป็นภาษาไทย แล้วใส่ทำนองสรภัญญะ เวลาคนไปฟังพระเทศน์ หรือสวดอภิธรรม ก็ได้ฟังสองภาษา คือบาลีก็ได้บุญ ไทยก็เข้าใจ ได้ความคิด ได้บุญกับได้ความคิด ได้สติ เพราะฉะนั้นเอาสองภาษาแล้วจะได้เข้าใจ

 

ที่มา : www.youtube.com

ภาพwww.pexels.com


บทความน่าสนใจ 

ความเป็นมาและประโยชน์ของการสวดมนต์ โดย สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตฺโต)

บทสวดมนต์ก่อนนอนแบบสั้น มาสวดมนต์ให้เทวดาฟังกันเถอะ

หลวงพ่อพุธ ฐานิโย สอนสวดมนต์ อย่างไรให้ใจเย็น 

เรื่องจริงจากเรือนจํา ความในใจของผู้ต้องขังผู้ใช้บทสวดมนต์กล่อมเกลาจิตใ

พุทธมนต์ปล่อยวาง สำหรับสวดมนต์ก่อนนอน เพื่อนอนหลับอย่างสบาย สุข สงบ และมีสติ

 

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.