จอห์น หว่อง

จอห์น หว่อง กับพลังแห่งการรักษาอันน่าอัศจรรย์

จอห์น หว่อง กับพลังแห่งการรักษาอันน่าอัศจรรย์

จอห์น หว่อง เป็นนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยด้านเทคโนโลยีชีวภาพชาวสิงคโปร์ ในปี ค.ศ. 2005 ขณะที่เขากำลังอยู่บนจุดสูงสุดของอาชีพการงาน จู่ๆ จอห์นก็ล้มป่วยด้วยโรคประหลาด

เขาเป็นอัมพาตตั้งแต่คอลงมา หนำซ้ำยังมองไม่เห็น พูดไม่ได้ ผิวหนังไม่รับรู้ความรู้สึกใด ๆ กลายเป็นคนทุพพลภาพโดยสิ้นเชิง และแม้ว่าหมอจะไม่สามารถระบุได้ว่าเขาเป็นโรคอะไรกันแน่ แต่ทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มันเป็นโรคที่รักษาไม่หาย และเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะกลับมายืนหรือมองเห็นได้อีกครั้ง

เวลานั้นมีเพียงแม่ของเขาคนเดียวเท่านั้นที่ยังคงเชื่อว่าจอห์นจะหายได้ในที่สุด แม่ของจอห์นและกลุ่มเพื่อนของเธอจึงมาสวดมนต์ให้จอห์นที่โรงพยาบาลทุกวัน

ระหว่างที่นอนอยู่บนเตียง จอห์นมักจะครุ่นคิดไปต่าง ๆ นานาด้วยความสงสัย บางครั้งความคิดก็เจือด้วยความโกรธแค้นว่าเหตุใดเขาจึงต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้

ยิ่งตั้งคำถาม จอห์นก็ยิ่งได้เรียนรู้บางสิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน จอห์นเริ่มมองเห็นว่า ผู้คนในสังคมทุกวันนี้ต่างก็ต่อสู้เพื่อตำแหน่งหน้าที่การงาน เงินทอง ความสัมพันธ์ ฯลฯ และต้องเป็นทุกข์กับการแก้ปัญหาเหล่านั้น แต่ตอนนี้…ตอนที่เขาป่วยจนไม่สามารถจะสู้เพื่อเรื่องใด ๆ ได้ เขากลับมองเห็นความจริงว่า เรื่องที่คนทั้งหลายพยายามแสวงหากันนั้นเป็นเรื่องไม่สำคัญเลย จิตใจต่างหากที่สำคัญที่สุด ถ้าเขาหายเขาจะไม่นำปัญหาเหล่านี้มาเป็นสาระสำคัญอีก…ถ้าหาย เขาจะช่วยผู้อื่นให้เข้าใจความจริงข้อนี้ด้วย

ใช่แล้ว! ทั้งที่ทุพพลภาพขนาดนั้น จอห์นก็ยังเชื่อมั่นว่าเขาจะหาย จอห์นเชื่อว่าพลังแห่งการรักษาไม่ได้อยู่ที่ไหนเลย แต่มีอยู่ในตัวเราเองนี่แหละ และจอห์นยังเชื่อว่ามนุษย์คือส่วนหนึ่งของกันและกัน เราทุกคนสามารถเชื่อมโยงถึงกันในระดับจิตวิญญาณซึ่งเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ สามารถสร้างความมหัศจรรย์ให้เกิดขึ้นได้ ซึ่งการให้ความรักและการสวดมนต์เป็นวิธีหนึ่งที่เข้าถึงการเชื่อมโยงนั้น

ทุก ๆ วันจอห์นจะตั้งจิตอธิษฐานขอให้เขาหายจากโรค และพยายามฟื้นฟูตัวเองทุกวิถีทาง แม้เขาจะยังขยับตัวไม่ได้ แต่จอห์นก็ฝึกนั่งอยู่บ่อย ๆ โดยให้พยาบาลมัดตัวเขาไว้กับเก้าอี้ และทั้งที่การกลืนอาหารให้ความรู้สึกไม่ต่างจากการกลืนกรวดหินแหลม ๆ เขากลับไม่ยอมรับอาหารทางสายยาง แต่จะพยายามตักอาหารกินเอง โดยให้พยาบาลผูกช้อนไว้ที่ข้อมือของเขา

จอห์นใช้เวลาฟื้นฟูตัวเองนาน 4 ปี จนตอนนี้เขาหายจากโรคประหลาดแล้ว แถมยังกลับมาแข็งแรงสดใสยิ่งกว่าเดิม จอห์นมีบริษัทวิจัยยาของตัวเองและยังคงทำตามคำสัญญาที่จะช่วยเหลือผู้อื่น

จอห์น หว่อง

จอห์นเริ่มทำตั้งแต่ตอนที่เขายังนั่งอยู่บนรถเข็น เขาไปเยี่ยมผู้ป่วยระยะสุดท้ายตามโรงพยาบาล โดยเล่าเรื่องราวของตัวเองเพื่อเป็นกำลังใจให้ทุกคน ซึ่งแม้ว่าจะไม่สามารถช่วยให้ผู้ป่วยทุกคนมีอาการดีขึ้นได้ และบางคนก็เสียชีวิต ทว่าไม่มีแม้แต่คนเดียวที่ตายอย่างทุกข์ทรมาน

จอห์นเล่าว่า สิ่งแรกที่เขาแนะนำให้ครอบครัวและเพื่อน ๆ ทำให้ผู้ป่วยคือการสวดมนต์ร่วมกัน ซึ่งคนส่วนใหญ่มักทำไม่ได้ในโรงพยาบาล เพราะเอาแต่วิตกกังวล ไม่ค่อยมีใครยอมสวดมนต์ และบางทีก็ทะเลาะกัน

“คนสมัยนี้ล้วนได้รับการศึกษาที่ดี พวกเรารู้ทุกอย่าง แต่กลับไม่ลงมือทำ คุณรู้จักความรัก แต่ไม่ยอมที่จะรัก คุณรู้จักความมหัศจรรย์ แต่ไม่ยอมลงมือสร้างความมหัศจรรย์ คุณรู้ว่าเราทุกคนมีพลังการรักษาอยู่ในตัวเอง ผมนี่ไงล่ะตัวอย่างที่มีชีวิต แต่คุณกลับไม่เชื่อในพลังนั้น

“ความรู้อย่างเดียวไม่เพียงพอหรอก คุณต้องลงมือทำด้วย”

 

***จอห์นเขียนเล่าประสบการณ์ของเขาไว้ในหนังสือ Awaken Your Healing Power ซึ่งได้รับการแปลแล้วหลายภาษา รวมทั้งภาษาไทยในชื่อ “ ปลุกจิต พิชิตโรค” จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์โพสต์บุ๊กส์

 

ที่มา  นิตยสาร Secret

เรื่อง  Violet

ภาพ  bangkokpost.com, John Wongcw

Secret Magazine (Thailand)


บทความน่าสนใจ

หนูน้อยกตัญญูสู้ชีวิต ตัวเองป่วยเป็นมะเร็ง ต้องคอยดูแลตายายเพียงลำพัง

“เลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะสู้ได้” สามพี่น้องสู้ชีวิตทำงานเลี้ยงยายและหาทุนเรียน

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.