สองสามีภรรยาใจบุญ ไถ่ชีวิตลูกควาย 6 ตัว จากนั้นนำไปเลี้ยงดูอย่างดี บนพื้นที่กว่า 200 ไร่ ที่หมู่ 10 ต.สันทราย อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ปัจจุบันแพร่พันธุ์จนกลายเป็นฟาร์มใหญ่ มีจำนวนถึง 87 ตัว
นอกจากจะเป็นควายที่สมบูรณ์แข็งแรงและมีความสุขแล้ว ยังฉลาดแสนรู้อีกด้วย เวลาที่ ลุงปลิว คนเลี้ยงควาย บีบแตรรถจักรยานยนต์เป็นสัญญาณเรียกควาย 87 ตัว ที่เลี้ยงแบบปล่อยอิสระ ให้มากินหญ้าแห้งที่เตรียมไว้ ด้วยความคุ้นเคย ควายทุกตัวจะรู้ทันทีว่าได้เวลาอาหารแล้ว และจะพากันวิ่งมารวมตัวที่ทุ่งหญ้าทันที
ควายแสนรู้เหล่านี้เป็นของ ร.ต.ท.นคร ปัญญาทิพย์ และนางวันเพ็ญ ปัญญาทิพย์ สองสามีภรรยาผู้รับเหมาก่อสร้างใน อ.พร้าว ที่ไถ่ชีวิตควายมาจากโรงเชือดเมื่อ 20 ปีก่อน และนำมาเลี้ยงจนออกลูกออกหลาน ปัจจุบันมีควายทั้งหมด 87 ตัว โดยมีควายที่ตั้งท้องรวมอยู่ด้วยหลายตัว คาดว่าปีหน้าจำนวนควายน่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 100 ตัวแน่นอน
คุณนครเล่าถึงเหตุการณ์เมื่อ 20 ปีที่แล้วว่า ในวันนั้นขณะกำลังโทรศัพท์คุยเรื่องงาน ได้สังเกตเห็นลูกควาย 6 ตัว เป็นควายตัวเมีย 4 และตัวผู้ 2 ตัว ถูกผูกไว้ใกล้ ๆ และมองมาที่ตน จึงรู้สึกสงสาร เมื่อสอบถามคนละแวกนั้น ก็ทราบว่าเป็นควายที่เจ้าของโรงเชือดเตรียมจะฆ่า เพื่อส่งให้ลูกค้าที่ต้องการนำไปย่างกิน ด้วยความสงสารจึงเจรจาขอซื้อจากเจ้าของโรงเชือด จนตกลงขายในราคา 7 หมื่นบาท พร้อมค่าขนส่งอีก 2 พันบาท หลังจากโทรศัพท์ไปปรึกษาภรรยา ก็ตกลงซื้อควายทั้งหมดเพื่อช่วยไถ่ชีวิต
ในเวลาต่อมามีคนจาก อ.เชียงดาว ติดต่อผ่านกำนันที่ อ.พร้าว เพื่อขอนำแม่ควายท้องแก่มาแลกควายตัวผู้ 2 ตัว เพราะต้องการเอาไปฝึกลากเกวียน คุณนครตกลงแลก เพราะมิฉะนั้นควายท้องแก่ก็จะถูกขายให้กับโรงเชือด จากนั้นนำควายทั้งหมดไปฝากให้คนเลี้ยงไว้อีกตำบลหนึ่งของ อ.พร้าว จนควายท้องแก่ตกลูกออกมา ตามธรรมเนียมลูกควายตัวแรกที่คลอด จะต้องเป็นของคนเลี้ยง แต่ภรรยาสงสารจึงขอซื้อจากคนเลี้ยง เพราะไม่ต้องการพรากแม่พรากลูก นับแต่นั้นมาก็ซื้อลูกควายที่คลอดใหม่จากคนเลี้ยงมาเรื่อย ๆ จนเพิ่มจำนวนเป็น 60 ตัว
ต่อมาคนเลี้ยงที่เลี้ยงมาแต่แรกก็อายุมากขึ้น จึงขอเกษียณตัวเอง คุณนครจึงหาสถานที่พร้อมกับคนเลี้ยงใหม่ จนได้พื้นที่แห่งนี้พร้อมกับลุงปลิวที่ขอรับค่าจ้างเป็นเงินเดือน ๆ ละ 12,000 บาท คุณนครจ้างลุงปลิวเลี้ยงควายทั้งหมดเรื่อยมา จนปัจจุบันควายออกลูกออกหลานเพิ่มสมาชิกมากมายอย่างที่เห็น
คุณนครรักและผูกพันกับควายเหล่านี้มาก เพราะเลี้ยงดูกันมานานเหมือนเป็นสมาชิกในครอบครัว นอกจากนี้ยังแสนรู้และเชื่องมาก ไม่เคยทำร้ายคุณนครและภรรยา หรือคนเลี้ยงเลย แต่กลับเข้ามาคลอเคลียเล่นด้วย ทุกครั้งที่เห็นรถของคุณนครขับเข้ามาในฟาร์ม ก็จะรีบวิ่งมาหาทันที
คุณวันเพ็ญบอกว่า ไม่เคยคิดจะกินเนื้อควายที่เลี้ยงไว้เลย เพราะเลี้ยงดูกันมาเหมือนเป็นสมาชิกในครอบครัว แต่เป็นครอบครัวที่ค่อนข้างใหญ่ เพราะมีถึง 87 ตัว สำหรับค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงควายทั้งหมด นอกจากเงินเดือนคนเลี้ยงแล้ว ยังมีค่าอาหาร ค่ารักษา ซึ่งแต่ละเดือนไม่ต่ำกว่า 4 – 5 หมื่นบาท
นายประชัน อุปคำแดง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 ต.สันทราย อ.พร้าว บอกว่า ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับอานิสงส์จากฟาร์มเลี้ยงควายแห่งนี้ เพราะชุมชนทำธุรกิจโฮมสเตย์ มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาพักค้างแรม และสัมผัสวิถีชีวิตที่นี่
(ไถ่ชีวิตลูกควาย)
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก เชียงใหม่นิวส์
บทความน่าสนใจ
วัวร่ำไห้จนคุณยายสงสาร ช่วยไถ่ชีวิตออกมาจากโรงฆ่าสัตว์จนเกือบหมดตัว
