ผลกรรมจากการผิดศีลข้อ 3

“ตราบาปในใจ” ผลกรรมจากการผิดศีลข้อ 3 เพราะห้ามใจไม่ไหว

“เขานั้นมีคู่อยู่แล้ว เขารักปักใจแน่แน่ว แล้วเธอรักเขาทำไม เขามีลูกน้อยเป็นพยานรักไว้ข้างกาย ด้วยความรักปักดวงใจที่เขาให้กับครอบครัว เขาคงรักเธอเหมือนกัน รักเพราะใกล้ชิดกัน ศีลธรรมก็กั้นไม่ไหว แต่รักที่เธอให้เขา รักนั้นเพื่ออะไร ครอบครัวเขาอยู่กับใคร ถ้าเธอไปแย่งเขามา คิดแล้วชวนให้ยิ่งสงสาร รักแล้วยิ่งทรมาน น้ำตามันตกข้างใน เลิกกันวันนี้ ให้เขากลับตัวกลับใจ ยอมรับเป็นผู้แพ้ไป ฟ้าคงอภัยให้เธอ” เสียงเพลงจากยูทูบ “รักเขาทำไม” ทำให้ดิฉันนึกถึงอดีตเมื่อสมัยสิบกว่าปีก่อนในวัยยี่สิบต้น ๆ  (ผลกรรมจากการผิดศีลข้อ 3)

ดิฉันกับพี่สิงห์ทำงานที่เดียวกัน เป็นร้านอาหารในห้างดัง ดิฉันเป็นพนักงานหน้าร้านคอยรับออร์เดอร์ ดูแลลูกค้า ส่วนพี่สิงห์เป็นพนักงานส่งของ ที่ร้านเราทำงานเป็นทีมช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แต่พี่สิงห์จะคอยเป็นห่วงดิฉันเป็นพิเศษ งานหนัก ๆ เช่น เบิกของในสโตร์ ตักน้ำแข็ง ถูพื้น ฯลฯ พี่สิงห์จะอาสาทำให้ เวลากลับจากส่งของลูกค้าข้างนอก พี่สิงห์ก็จะมีของกินติดไม้ติดมือมาฝากเสมอ จนดิฉันเคลิ้มไปว่าพี่สิงห์คงคิดกับดิฉันเกินเลยมากกว่าเพื่อนร่วมงาน ดิฉันได้แต่เก็บความรู้สึกไว้ในใจเพราะรู้ว่าพี่สิงห์มีเมียมีลูกอยู่แล้ว และเมียพี่สิงห์ก็ดีกับดิฉันมากมาย ทำกับข้าวมาให้ ชวนไปเที่ยวที่ห้อง ดูหนัง ฟังเพลงด้วยกัน แต่เพราะความใกล้ชิดและความมักง่ายของดิฉันที่ไม่อาจห้ามใจก็เลยพลาดจนได้

พี่สิงห์ทำงานคนละกะกับเมียก็เลยมีเวลามารับมาส่งดิฉัน แต่เพื่อน ๆ ที่ทำงานก็คิดว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะนอกจากดิฉันแล้วพี่สิงห์ก็มีน้ำใจกับน้อง ๆ คนอื่นด้วย ดิฉันดีแตกเมื่อวันที่ย้ายห้องมาอยู่ใกล้ ๆ ที่ทำงาน พี่สิงห์มาช่วยขนของและก็ถือโอกาสฉลองห้องใหม่กับดิฉัน ถึงแม้จะเจอกันในที่ทำงานแต่พี่สิงห์ก็ยังแวะเวียนมาหาที่ห้องอยู่บ่อย ๆ ถ้ามีโอกาส

ความลับไม่มีในโลกฉันใด สุดท้าย “พี่นก” เมียพี่สิงห์ก็สังเกตเห็นความผิดปกติว่าพี่สิงห์เปลี่ยนไป เลยเริ่มสืบจากเพื่อน ๆ ที่ทำงาน แล้วก็เรียกดิฉันไปถาม ดิฉันปฏิเสธอย่างหน้าด้าน ๆ แต่พี่สิงห์กลับยอมรับอย่างลูกผู้ชายและยื่นใบลาออก ดิฉันอับอายและรู้สึกผิดอยู่ในใจ เพื่อนร่วมงานพากันซุบซิบนินทา พูดจากระแทกแดกดัน ช่วงพักเที่ยงดิฉันกินข้าวคนเดียว ไม่มีใครพูดด้วยเหมือนเมื่อก่อน ดิฉันจึงชิงลาออกตัดหน้าพี่สิงห์ แต่ผู้จัดการให้ย้ายไปสาขาอื่น แต่เรื่องชู้สาวฉาวโฉ่กลับดังไปถึงสาขาใหม่ ดิฉันเลยตัดสินใจลาออกไปหางานใหม่ทำ

ผลกรรมจากการผิดศีลข้อ 3
Photo by Austin Guevara from Pexels

ดิฉันเริ่มต้นงานใหม่ แต่กลายเป็นคนเงียบขรึมเพราะความรู้สึกผิดในใจ ถึงจะเปลี่ยนงาน แต่ดิฉันไม่มีความสุขเลย ภาพพี่นกร้องไห้ฟูมฟาย ตีอกชกตัว น้ำตาอาบสองแก้ม มันตอกย้ำอยู่ในใจตลอดมาไม่ว่าหลับหรือตื่น สองปีผ่านไป ดิฉันเปิดใจมีแฟนใหม่จากการแนะนำของเพื่อน

“พี่วิทย์” เป็นเซลส์แมนขายเครื่องใช้ไฟฟ้าในห้าง พูดเพราะ หน้าตาดี เราต่างคนต่างทำงาน วันหยุดหรืออยู่กะเดียวกันถึงนัดเจอกัน ทานข้าว ดูหนัง เป็นเรื่องปกติ แต่ที่ผิดปกติคือเวลาพี่วิทย์อยู่กับดิฉันจะปิดเสียงโทรศัพท์ และบางทีก็แอบไปโทรศัพท์ในที่ลับตาเสมอ บ่อย ๆ เข้าดิฉันเลยแอบเช็กโทรศัพท์ในช่วงที่พี่วิทย์อาบน้ำ ข้อความหวาน ๆ มากมายจาก “นก” ทำให้ดิฉันน้ำตาไหล เจ็บเข้าไปถึงทรวง ดิฉันนึกถึงพี่นกเมียพี่สิงห์ทันที พี่นกคงจะเจ็บช้ำใจที่ได้รู้ว่าพี่สิงห์แอบปันใจให้ดิฉัน ความรู้สึกของดิฉันที่รู้ว่าพี่วิทย์มีใครอีกคนคงไม่ต่างกัน ดิฉันกับพี่วิทย์เป็นแค่แฟนที่คบหาดูใจกัน ดิฉันยังเจ็บปวดขนาดนี้ แล้วพี่นกกับพี่สิงห์ล่ะ แต่งงานมีลูกมีเต้าด้วยกันจะเจ็บปวดรวดร้าวสักแค่ไหน

ดิฉันให้เพื่อนสืบให้ จนรู้ว่า “นก” เป็นน้องที่ทำงานที่เดียวกันกับพี่วิทย์ สาวกว่าและสวยกว่าดิฉัน ดิฉันยื่นคำขาดว่าจะเลือกใคร แล้วดิฉันก็เป็นฝ่ายเจ็บบ้าง มันคงสาสมแล้วกับความเลวของดิฉันที่ครั้งหนึ่งเคยไปลักกินขโมยกินของคนอื่นอย่างหน้าชื่นตาบาน หลายครั้งหลายคราที่ดิฉันมีแฟน แต่สุดท้ายก็ต้องเลิกกันไปด้วยเหตุผลต่าง ๆ นานา ดิฉันประชดชีวิตตัวเองด้วยการดื่มเหล้า เที่ยวกลางคืน แต่เหล้าไม่ได้ทำให้ชีวิตดิฉันดีขึ้นเลย สุขยามเมา เศร้ายามสร่าง ดิฉันใช้ชีวิตอย่างหลงระเริงอยู่นานหลายปี ไม่มีคู่เป็นตัวเป็นตน ดิฉันกลัวการมีชีวิตคู่ กลัวการผิดหวัง ความรู้สึกผิดยังคงอยู่ แต่อาจจะเป็นเพราะบุญเก่าดิฉันยังมีและความดีที่ดิฉันไม่ทิ้งแม่ ถึงแม้ดิฉันจะทำตัวไม่ดี ขี้เมาหยำเป แต่เงินเดือนออกสิ้นเดือนดิฉันจะแบ่งส่งให้แม่ทุกเดือน ช่วงวันหยุดเทศกาลก็กลับบ้านไปเยี่ยมแม่ จนวันหนึ่งได้มีโอกาสฟังธรรมะเรื่อง “สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม” ของหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี จึงทำให้ดิฉันเชื่อว่าเวรกรรมมีจริง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับตัวเราล้วนเป็นผลมาจากการกระทำของเราทั้งสิ้น อย่าได้ไปโทษคนอื่นเลย และเห็นผลในชาตินี้ ไม่ต้องรอถึงชาติหน้าด้วยซ้ำ ดิฉันปฏิวัติตัวเองใหม่ด้วยการเข้าวัด สวดมนต์ ทำบุญ รักษาศีล ศีล 5 นี่ละสำคัญยิ่งนัก เป็นเรื่องปกติที่บางคนมองข้ามไป มันอาจจะไม่เห็นผลทันตาเพราะว่าดิฉันบาปหนัก แต่จากความพยายาม ความมุ่งมั่นปฏิบัติบ่อย ๆ ใจที่ร้อนทุรนทุรายก็ค่อย ๆ เย็นลง

ถ้าย้อนอดีตได้ ดิฉันจะไม่ทำร้ายพี่นก ไม่ทำร้ายตัวเอง จากความผิดพลาดในอดีตทำให้ดิฉันเรียนรู้ ยอมรับ และไม่ให้มันเกิดซ้ำอีก ดิฉันคงจะโชคดีอยู่บ้างที่มีโอกาสแก้ตัว หลังจากเรื่องราวร้าย ๆ ผ่านไปกับชีวิตใหม่ที่อยู่ในศีลในธรรม ดิฉันได้เจอกับสามี ปัจจุบันดิฉันแต่งงานแล้วและมีครอบครัวที่อบอุ่น เพราะสามีเข้าใจและไม่เคยขุดคุ้ยอดีตที่ผิดพลาดของดิฉัน ชีวิตที่เหลืออยู่ดิฉันยึดมั่นอยู่ในศีลในธรรม แต่เรื่องพี่นกพี่สิงห์ก็ยังคงเป็นตราบาปในใจของดิฉัน มันอาจจะลางเลือนไปตามกาลเวลา แต่ทว่าลึก ๆ ในใจยังคงเหลือไว้ซึ่งรอยบาดแผลอยู่ดี

สามีเขาอย่าได้ แย่งมา แนบกาย
จักขื่นขมอุรา ร่ำไห้
บาปกรรมยิ่งหนักหนา สุขไม่ บ่มี
หลับตื่นทุกคราไซร้ หม่นไหม้ ในทรวง

(ผลกรรมจากการผิดศีลข้อ 3)

ที่มา  นิตยสาร Secret

เรื่อง  wasana

Photo by Pixabay from Pexels

Secret Magazine (Thailand)


บทความน่าสนใจ

Dhamma Daily : นอกใจคนรัก จะได้รับกรรมอย่างไร

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.