บางครั้งชีวิตก็ท้าทายเราอย่างนึกไม่ถึง จนเราหมดสิ้นหนทาง รู้สึกเหมือนไม่มีที่ที่จะให้หวนกลับไป ดังนั้นการได้เห็นคนที่ผ่านอะไรมามากมายสาหัสแต่ยังประสบความสำเร็จในชีวิตได้ จึงเป็นกำลังใจให้ผู้อื่นได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
ฮาโรลด์ เรซินอส (Harold Recinos) ซึ่งปัจจุบันเป็นศาสตราจารย์ด้านคริสตจักรและสังคมอยู่ที่มหาวิทยาลัย Southern Methodist University (SMU) คือคนหนึ่งที่ไม่ว่าโลกจะโหดร้ายเพียงใด เขาก็ไม่เคยหยุดที่จะสู้เพื่ออนาคตอันสดใส
พ่อแม่ของฮาโรลด์เป็นผู้ลี้ภัยที่เข้ามาอยู่ทางใต้ของบร๊องซ์ ในกรุงนิวยอร์ก เขาไม่ค่อยได้พบหน้าพ่อบ่อยนัก แม่จึงเป็นคนดิ้นรนทำงานหาเงินเลี้ยงดูลูก ๆ
พอฮาโรลด์อายุ 12 รูดี้ พี่ชายของเขาก็ประกาศก้องว่า จะเลิกเรียนเพื่อออกมาหางานทำ แม่จึงยื่นคำขาดว่า รูดี้ต้องเลือกระหว่าง กลับไปเรียนหนังสือ หรือถูกไล่ออกจากบ้าน เมื่อฮาโรลด์พยายามปกป้องพี่ชาย เขาจึงถูกไล่ออกจากบ้านด้วย
สองพี่น้องเริ่มไปพักอาศัยตามอาคารหรือบ้านที่ถูกทิ้งร้าง จากนั้นก็เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เลิกไปเรียนหนังสือ และกลายเป็นคนติดเฮโรอีน ในช่วงชีวิตที่มืดมนนั้น ยามที่เขาออกตระเวณหาอาหารตามท้องถนน เขาก็ได้พบความสุขสงบ ศรัทธา และความปลอดภัยจากโบสถ์ในท้องถิ่น
เขาบอกว่า ถึงแม้ชีวิตจะหลงเดินทางผิด จนต้องมาใช้ชีวิตอยู่ริมถนน เขาก็ยังรู้สึกใกล้ชิดกับพระผู้เป็นเจ้าเสมอ และเขาเชื่อมาตลอดว่าทุกสิ่งจะดีขึ้น
นอกจากนั้นเขายังพบ “ที่หลบภัย” ในห้องสมุดสาธารณะ เพราะเป็นสถานที่ปลอดภัยและอบอุ่นในฤดูหนาว เขาจะหามุมเงียบสงบห่างไกลจากคนอื่น และใช้เวลาทั้งวันหมดไปกับการอ่านหนังสือ เขายังบอกอีกว่า “หนังสือไม่สนว่าเสื้อผ้าคุณจะเหม็นเน่าแค่ไหน”
หลังจากใช้ชีวิตเร่ร่อนอยู่ริมถนนได้ 4 ปี ฮาโรลด์ก็ฝันถึงการปรับเปลี่ยนตัวเองให้หมดจดและกลับไปเรียนหนังสือ เขาเคยย้ายไปหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นเท็กซัส แคลิฟอร์เนีย หรือแม้แต่เปอร์โตริโก ก่อนจะมาจบลงที่ถนนในบร๊องซ์ เขาคงเปลี่ยนชีวิตไม่ได้ถ้าไม่ใช่เพราะ เคนเน็ธ เฮย์เนส (Kenneth Haynes) บาทหลวงจิตอาสา ซึ่งก้าวเข้ามาช่วยชีวิตที่เละเทะของฮาโรลด์ก่อนถึงวันเกิดอายุครบ 16 ปีเพียงไม่กี่วัน
ฮาโรลด์ย้อนอดีตให้ฟังว่า ในวันนั้นบาทหลวงมองเห็นกลุ่มขี้ยามั่วสุมอยู่ตรงมุมตึก จึงเดินมาหาและชักชวนฮาโรลด์และพวกไปสวดภาวนา วันหนึ่งบาทหลวงเคนเน็ธถามฮาโรลด์ว่าทำไมไม่เรียนหนังสือ เขาตอบไปว่าเขาอยากกลับไปเรียนมาก บาทหลวงเคนเน็ธจึงชวนฮาโรลด์ว่าไปพักกับเขาและครอบครัวไหม จะได้พาไปเข้าโรงเรียน
ฮาโรลด์ตอบตกลง เขาย้ายไปอยู่ในห้องใต้ดินของบ้านบาทหลวง เขาจึงได้รับการดูแลและรู้สึกปลอดภัย ขณะเดียวกันก็ต้องฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง ครอบครัวของบาทหลวงเคนเน็ธช่วยให้เขาเลิกเสพเฮโรอีน เรียนจบมัธยม และร่ำเรียนจนได้ปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอกอีก 2 ใบ
ปัจจุบันฮาโรลด์เป็นศาสตราจารย์ทางเทววิทยา นักกวีผู้ประสบความสำเร็จ มิชชันนารีที่เดินทางไปเผยแผ่ศาสนาในอเมริกากลาง นักเป่าฟลุตแนวแจ๊ส และเป็นนักบวชอาวุโสแห่งคริสตจักรเมทอดิสต์
ในยามว่าง ฮาโรลด์จะดูแลความฟิตของร่างกายด้วยการวิ่งวันละ 8 ไมล์ทุกเช้า นอกจากนั้นเขายังได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขันศิลปะป้องกันตัวระดับชาติ 3 ครั้ง ด้วยดีกรีสายดำในกีฬายิวยิตสูและเทควันโด และเขายังเป็นครูผู้สอนที่สถาบันศิลปะป้องกันตัวเหอเป่ย์ในเมืองริชาร์ดสัน รัฐเท็กซัสอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ฮาโรลด์ได้นำประสบการณ์ชีวิตที่ถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง การติดยาเสพติด และการเร่ร่อนเป็นคนไร้บ้าน มาช่วยในการให้คำปรึกษาผู้อื่น การอุทิศตัวเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นจุดประกายมาจากการที่พี่ชายของเขาเสียชีวิตเพราะเสพยาเกินขนาดในปี 1985 หลังจากรูดี้เสียชีวิต ฮาโรลด์รู้สึกเหมือนมีแรงผลักดันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ให้เขาเผยแผ่คำสอนของพระผู้เป็นเจ้า และปกป้องผู้อื่นไม่ให้ลงเอยเหมือนพี่ชายของเขา
ศรัทธาของฮาโรลด์ยังคงมั่นคงแข็งแกร่ง ถึงแม้จะเคยพานพบประสบการณ์เลวร้ายมากมาย เขาไม่เคยรู้สึกว่าพระผู้เป็นเจ้าลงโทษหรือทอดทิ้งเขา เมื่อรูดี้จากไป เขาได้ยินเสียงของพระองค์บอกอย่างชัดเจนว่าเขาควรทำอะไรกับชีวิตของตัวเอง งานของเขาในคริสตจักรคือการช่วยเหลือผู้คนที่ตกทุกข์ได้ยาก
ฮาโรลด์คือตัวอย่างอันสมบูรณ์แบบของคนที่ไม่เคยสิ้นหวังถึงอนาคตที่ดีกว่า และยังเป็นเครื่องเตือนใจที่ดีว่า แม้ในยามมืดมนที่สุดของชีวิต เราก็สามารถประสบความสำเร็จได้ด้วยแรงสนับสนุนและกำลังใจแม้เพียงน้อยนิดก็ตาม
เรียบเรียง ชนาฉัตร
ที่มา DallasNews, Inspiremore
ภาพ DallasNews, Facebook
บทความน่าสนใจ
หญิงสาวเลี้ยงขนมคนเร่ร่อนและชวนคุย สุดท้ายกลายเป็นการช่วยชีวิตเขาไว้
รวยแล้วไม่ลืมกัน เศรษฐีอดีตดาราตกอับกลายเป็นคนเร่ร่อน เปิดบริษัทจ้างงานคนเร่ร่อน
จอห์น พอล โจนส์ เดอโจเรีย จากคนไร้บ้านสู่มหาเศรษฐีพันล้าน
Nadya Okamoto จากคนไร้บ้านสู่คู่แข่ง “สมาชิกสภาเมืองเคมบริดจ์” ที่อายุน้อยที่สุด
จากคนไร้บ้าน สู่มหาเศรษฐีพันล้านจากคนไร้บ้าน สู่มหาเศรษฐีพันล้าน คริสโตเฟอร์ พอล การ์ด เนอร์