นางฟ้าชาลินีพยายามให้พระเถระระลึกถึงชาติก่อนที่เคยเป็นสามีภรรยากัน พระเถระจึงกล่าวว่า “นางเทพธิดาผู้ขลาดเขลา สังขารทั้งหลายล้วนไม่เที่ยง มีความเกิดขึ้นและเสื่อมไปเป็นธรรมดา เกิดแล้วย่อมดับไป การระงับสังขารเท่านั้นคือความสุข บัดนี้เรากลับไปอยู่ร่วมกับเจ้าเฉกเช่นแต่ก่อนมิได้ ตัณหาไม่ต่างจากตาข่ายที่ลัดเราไว้ การเวียนว่ายตายเกิดไม่มี ภพใหม่ก็ย่อมไม่มีอีกแล้วเช่นกัน”
นางฟ้าทราบทันทีว่าพระเถระบรรลุอรหันตผลแล้ว คงยากที่จะหวนกลับไปเป็นดั่งวันวาน นางจึงกราบลาแล้วกลับไปยังสวรรค์ แต่นางก็ยังไม่ตัดขาดจากพระอนุรุทธะอย่างสิ้นเชิง
วันหนึ่งพระอนุรุทธะกำลังแสวงหาผ้าบังสุกุลจากเพื่อนำมาย้อมเป็นจีวร นางฟ้าชาลินีทราบจึงเนรมิตผ้าทิพย์ขึ้นมา 3 ผืน ตั้งใจจะถวายพระเถระ แต่แกรงว่าพระเถระจะไม่ยอมรับ นางจึงนำไปซุกไว้ในกองฝุ่น แล้วจัดชายผ้าให้พ้นออกมาหน่อย เพื่อให้พระเถระสังเกตเห็นว่ามีผ้าอยู่ตรงนี้
พระอนุรุทธะเห็นชายผ้าของผ้าผืนหนึ่งโผล่ออกมา ก็ค้นและปัดฝุ่นออก พบว่าเป็นผ้าผืนดีที่มีคนทิ้งไว้ จากนั้นท่านจึงนำผ้าทิพย์ทั้ง 3 ผืนนี้ไปย้อมสีทำเป็นวีจร
ที่มา
อรรถกถา คาถาธรรมบท เรื่องพระเทวทัต
อรรถกถา คาถาธรรมบท เรื่องพระอนุรุทธะ
ภาพ
บทความน่าสนใจ
เหตุผลที่พระเทวทัตเกลียดพระพุทธเจ้าตั้งแต่แรกพบ
เปิดบุพกรรม ทำไมพระนันทะต้องพลัดพรากจากคนรัก
คนระลึกชาติและมีญาณหยั่งรู้ได้อย่างไร พระพุทธเจ้ามีคำตอบ
เส้นทางสู่อรหัตตผลของพระอุบลวรรณาเถรี : สตรีผู้ทำบุญด้วยดอกบัวมาหลายชาติ
พระโสไรยเถระ จากชายกลายเป็นหญิง เพราะอกุศลจิต
อุทาหรณ์เรื่องการทำบุญที่ควรรู้ ก่อนจะสายเกินไป