ลูกคือโลกทั้งใบของเรา

True Story of Mom : ลูกคือโลกทั้งใบของเรา

True Story of Mom : ลูกคือโลกทั้งใบของเรา

คุณนัทธิตา คชดี เข็นรถเข็นเด็กที่มีน้องออย ลูกสาววัย 6 ขวบนั่งอยู่ เข้ามาในโรงพยาบาลรามาธิบดีพร้อมกับรอยยิ้ม ถึงเธอจะเดินไม่ค่อยถนัดเพราะเท้าข้างขวาพลิกผิดรูปตั้งแต่กำเนิด เธอพาลูกสาวมาหาคุณหมอถึง 8 คลินิก ได้แก่ คลินิกศัลยกรรมหัวใจ คลินิกเด็ก คลินิกโรคเลือด คลินิกหู คอ จมูก คลินิกการได้ยิน คลินิกระบบประสาท คลินิกทางเดินอาหาร และศัลยกรรมทั่วไป  เพราะน้องออยมีโรคร้ายรุมเร้าหลายโรค และด้วยความรู้สึกว่า “ลูกคือโลกทั้งใบของเรา” เธอจึงอยากดูแลลูกคนนี้ให้ดีที่สุด

” แม่เท้าขวาพลิกแบบนี้มาตั้งแต่เกิด ตอนเด็กคุณหมอดัดเท้าของแม่ให้เข้ารูปด้วยการเข้าเฝือก แต่ตอนนั้นทนเจ็บไม่ไหว เลยขอให้คุณพ่อเอาออก ขาของเราจะเป็นอย่างไรเราก็ยอม เท้าขวาจึงพลิกมาจนถึงทุกวันนี้ เดินไปก็เจ็บบ้าง แต่ชินแล้ว

” แม่มีลูก 2 คน คนแรกเสียชีวิตไปเมื่อ 8 ปีก่อน ป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว และติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ด้วย ถ้าอยู่ถึงตอนนี้ก็น่าจะอายุประมาณ 10 ขวบ ลูกคนที่สองคือน้องออย ด.ญ. นุชวรา จันกาวี  อายุ 6 ขวบ 8 เดือน เดี๋ยวตุลาคมนี้ก็ 7 ขวบแล้ว

 

 

” ตอนแม่คลอดน้องออยออกมา คุณหมอบอกแม่ว่าน้องออยเป็นโรคหัวใจ แม่เลยถามคุณหมอว่า ‘น้องเป็นโรคหัวใจแบบไหน’ คุณหมอว่าแบบชัก หัวใจไม่มีสีเลือด คือเป็นสีดำคล้ำเลย แต่แม่ว่าน้องโชคดีเพราะมีอาการเพื่อเแม่จะได้รู้ว่าน้องป่วย ผิดกับลูกคนแรกที่ไม่มีอาการอะไรเลยแล้วก็จากแม่ไป ตอนนั้นแม่ทำใจไม่ได้เลย คุณพ่อของน้องออยก็เสียชีวิตในขณะทำงาน รถที่ขับอยู่เบรกแตกชนเข้ากับต้นไม้ เสียชีวิตคาที่ เลยเลี้ยงน้องมาตามลำพัง

” ตอนน้องออยอายุได้ 6 เดือน แม่พาน้องไปหาคุณหมอที่โรงพยาบาลพระปกเกล้า แล้วที่นั่นทำเรื่องส่งน้องมารักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้รักษากับรองศาสตราจารย์ นายแพทย์ปิยะ สมานคติวัฒน์ (ศัลยแพทย์หัวใจและทรวงอก คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี) ท่านถามแม่ว่า ‘มากันกี่คน’ แม่บอกว่า ‘มากัน 2 คน’ ท่านเลยให้แม่ลงมาที่ชั้นสอง เพื่อทำเรื่องกับหน่วยงานสังคมสงเคราะห์ เพื่อชักประวัติ ข้อมูลของแม่กับน้อง และทางมูลนิธิรามาธิบดีก็เข้ามาช่วยเหลือเรื่องค่ารักษาพยาบาลให้ แต่ละครั้งแม่จะเสียเงินประมาณสองถึงสามหมื่น ซึ่งมูลนิธิรามาฯช่วยแม่ได้มากเลย บางครั้งน้องมีค่าใช้จ่ายส่วนอื่นเพิ่ม เช่น ค่านมสูตรพิเศษ ทั้งหมดสี่พันบาท แม่ก็ขอมูลนิธิรามาฯ ช่วย มูลนิธิก็ช่วย เพราะรายได้แม่ไม่ได้มีเข้ามาเสมอ บางวันก็มี บางวันก็ไม่มี จะมีอีกทีก็ช่วงหน้าผลไม้ ปลูกผักขายบ้าง ตอนนี้ไม่ใช่หน้าผลไม้ ฝนก็ตกหนัก ทำให้ผักที่ปลูกไว้เน่า ขายไม่ได้

 

 

” เวลาพาน้องมาโรงพยาบาลรามาฯ จะจ้างรถแท็กซี่ไปส่งที่บขส. จันทบุรี  แล้วนั่งรถตู้มาหมอชิตโดยน้องจะนั่งอยู่บนตักแม่ตลอดทาง ใช้เวลาเดินทางร่วม 5 ชั่วโมง แล้วต่อรถแท็กซี่มาที่โรงพยาบาลรามาฯ

” ทุกครั้งที่มาที่นี่แม่จะอาศัยกางมุงนอนอยู่กับน้องที่หลังห้องฉุกเฉิน เพราะน้องเป็นหลายโรค เช่น เส้นเลือดในสมองตีบ ประสาทหูเสื่อม ขาผิดปกติ และพัฒนาการช้า ต้องพบคุณหมอถึง 8 คลินิก ต้องค้างอยู่ที่โรงพยาบาล 2-3 คืน

 

คลิกเลข 2 ด้านล่าง เพื่ออ่านหน้าถัดไป >>>

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.