พุทธชัยมงคลคาถา คาถาพาหุง (ถวายพรพระ)
พาหุงสะหัส สะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง ครีเมขะลัง อุทิตะโฆ ระสะเสนะมารัง ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ
พญามารเนรมิตแขนพันแขน ถืออาวุธครบมือ ขี่ช้างครีเมขล์ พร้อมด้วยพลมารโห่ร้องกึกก้อง น่าสะพรึงกลัว เข้ามาผจญ พระพุทธเจ้าทรงชนะพญามารด้วยวิธีทางธรรม มีทานบารมีเป็นต้น ด้วยเดชานุภาพแห่งพระพุทธเจ้าที่ได้ทรงชนะพญามารนั้น ขอชัยมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า
มาราติเร กะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติงโฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ
อาฬวกยักษ์ ผู้ดุร้าย หยาบช้า เหี้ยมโหดต่อคนไม่เลือกหน้า ได้เข้ามารุกรานราวีพระพุทธองค์ตลอดทั้งคืน หนักยิ่งเสียกว่าครั้งผจญมาร พระพุทธเจ้าทรงชนะด้วยวิธีการทรมานที่ดีคือขันติบารมี ด้วยเดชานุภาพแห่งพระพุทธเจ้าที่ได้ทรงชนะอาฬาวกยักษ์ ขอชัยมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า
นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ
พญาช้างนาฬาคิรีกำลังตกมันเต็มที่จึงดุร้ายมาก ร้องแล่นเข้ามาราวกับไฟป่าโหมไหม้ เหมือนจักราวุธอันแรงร้ายราวสายฟ้าฟาด พระพุทธเจ้าทรงชนะด้วยวิธีรดน้ำคือ เมตตาบารมี ด้วยเดชานุภาพแห่งพระพุทธเจ้าที่ได้ทรงชนะพญาช้างนาฬาคิรีนั้น ขอชัยมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า
อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง ธาวันติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ
มหาโจรองคุลิมาลสันดานบาปหยาบช้า ทั้งฝีมือก็ยอดเยี่ยม ถือดาบเงื้อง่าวิ่งไล่ติดตามพระองค์ตลอดทาง 3 โยชน์ พระพุทธเจ้าผู้เป็นจอมมุนีทรงชนะด้วยการบันดาลฤทธิ์ทางใจ ด้วยเดชานุภาพแห่งพระพุทธเจ้าที่ได้ทรงชนะมหาโจรองคุลิมาลนั้น ขอชัยมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า
กัตตะวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะยะกายะมัชเฌ สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ
นางจิญจมานวิกา ทำมารยาเอาผ้าห่อไม้กลมผูกแนบไว้ที่ท้อง แสร้งทำเหมือนหญิงท้องแก่ มาใส่ร้ายป้ายสีพระพุทธองค์ท่ามกลางชุมนุมชน พระพุทธเจ้าทรงชนะด้วยวิธีที่สงบนิ่ง วางพระองค์สง่าผ่าเผยอยู่เหมือนดวงจันทร์ลอยเด่นท่ามกลางฟากฟ้า ด้วยเดชานุภาพแห่งพระพุทธเจ้าที่ได้ชนะนางจิญจมารวิกานั้น ขอชัยมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า
สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกาวาทะเกตุง วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ
สัจจกนิครนถ์ ผู้เชิดชูหลักทฤษฎีของตนว่าจริงแท้เลิศลอยราวกับชูธงขึ้นฟ้า ซึ่งเป็นการปกปิดปัญญาที่จะรู้ความจริงเสียสิ้น มุ่งมาจะโต้วาทะกับพระพุทธองค์ ทรงจุดประทีปคือ ปัญญา ขึ้นส่องให้เห็นความจริงจนได้รับชัยชนะ ด้วยเดชานุภาพแห่งพระพุทธเจ้าที่ได้พิชิตสัจจกนิครนถ์นั้น ขอชัยมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า
นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ
พระพุทธเจ้าโปรดให้พระมหาโมคคัลลานะผู้เป็นพุทธบุตรทรมานพญานาคนันโทปนันทะผู้มีฤทธิ์มากแต่หลงผิด ด้วยวิธีแสดงฤทธิ์จนชนะ ด้วยเดชานุภาพแห่งพระพุทธเจ้าที่ได้ทรงชนะนันโทปนันทนาคราชนั้น ขอชัยมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า
ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง พรัหมัง วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ
พระพุทธเจ้าได้ทรงชนะพรหมชื่อพกะ ผู้สำคัญตนว่ามีความบริสุทธิ์ มีรัศมี เรืองอำนาจและมีฤทธิ์ ไม่มีใครยิ่งกว่า เลยเกิดความเห็นผิดไปว่า ชีวิตของพรหมเป็นชีวิตที่เป็นอมตะ จึงโต้แย้งคำสอนของพระพุทธองค์ เปรียบเหมือนคนถูกงูกัดที่ข้อมือ พระจอมมุนีทรงใช้วิธีแสดงพระญาณครอบญาณให้กว้างกว่า ทำให้พรหมหมดความเห็นผิดจึงได้รับชัยชนะ ด้วยเดชานุภาพแห่งพระพุทธเจ้าที่ได้ทรงชนะพรหมชื่อพกะนั้น ขอชัยมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า
เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฉฐะคาถา โย วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที หิตวานะเนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญ
นรชนใดไม่เกียจคร้าน สวดก็ดี น้อมระลึกถึงก็ดี ซึ่งพุทธชัยมงคลคาถาแปดบทนี้เป็นประจำทุกวัน นรชนนั้นจะพึงล่วงเสียได้ซึ่งอุปัทวันตรายทั้งหลายทั้งปวง จะเป็นผู้มีปัญญาและถึงซึ่งความสุขพ้นทุกข์ภัยทั้งหลาย
คลิกเลข 3 ด้านล่าง เพื่อสวดมหาการุณิโก >>>