มีเคสที่ประทับใจไหม
ทุกคู่ที่มาเข้าอบรมกับผมที่คริตจักรเมืองไทย ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ยังไม่มีคู่ไหนหย่าร้างกัน นี้คือความประทับใจของผม สิ่งสำคัญของการเข้าใจถึงแก่นแท้ของกันและกัน เข้าใจถึงพื้นฐานนิสัยของกันและกัน ว่าเขามีนิสัยแบบนี้เพราะอะไร เช่น เขาเป็นคนที่เรียบร้อยเจ้าระเบียบมาก เพราะคุณพ่อคุณแม่เป็นครู เขาถูกสอนมาให้เป็นคนเจ้าระเบียบเรียบร้อย เป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูและสิ่งแวดล้อมทั้งนั้นเลย ถ้าต่างฝ่ายต่างเข้าใจกันแล้ว จะทำให้ปัญหาที่เจอในชีวิตคู่ดูเล็กน้อยและไม่น่ากลัวอย่างแน่นอน
เคยเจอคู่รักที่มีปัญหาหนัก ๆ บ้างไหม
คู่ที่มีปัญหาหนักในมุมมองของผมคือคู่ที่มีความเชื่อ ความคิดต่างกัน เช่น นับถือคนละศาสนา ไม่ยอมอ่อนข้อให้กันเลย ถ้าเจอแบบนี้ผมจะขอให้เขาเลื่อนพิธีแต่งงานออกไปก่อน เพื่อศึกษาดูใจกันจนแน่ใจแล้วจริง ๆ ถ้าคู่ไหนในระหว่างที่เข้าอบรมสามารถปรับ เพิ่ม และลดต่อกันได้ จึงจะให้เข้าสู่ขั้นตอนต่อไปคือการสมรส
จากผู้ให้คำปรึกษาคู่รักในโบสถ์สู่การเป็นอาจารย์ไลฟ์ กูรูด้านความรักได้อย่างไร
ผมคิดว่าการเข้าอบรมก่อนแต่งงานของคริสเตียนเป็นเรื่องมีคุณค่าที่เผยแพร่ในมุมแคบ สิ่งนี้ช่วยประคับประคองความรักได้อย่างยั่งยืน ทำไมไม่เผยแพร่และนำไปขยายในมุมที่กว้างขึ้น ให้คนที่มีปัญหาชีวิตคู่นำไปใช้ได้ ความที่ผมเคยเป็นนักร้องในค่าย LOVEiS มาก่อน คุณบอย-โกสิยพงษ์ชวนผมมาร่วมร้องเพลงหลังจากได้ฟังผมร้องเพลงในคอนเสิร์ตของคริสเตียนงานหนึ่ง แล้วได้ออกอัลบั้มร่วมกับศิลปินในค่ายชื่ออัลบั้มว่า ‘The Rhythm & Boyd’ กับ ‘The Rhythm & Boyd 11’ ตอนนั้นผมยังเป็นครูอยู่ และแฟนคลับส่วนใหญ่ของผมก็คือลูกศิษย์ที่ผมสอน มีคอนเสิร์ตที่ไหนเด็ก ๆ ก็พากันไปกรี๊ด และให้กำลังใจ นักเรียนหลายคนงงว่า ครูร้องเพลงภาษาไทยได้ด้วยเหรอ เพราะตอนผมสอนที่โรงเรียนจะพูดภาษาอังกฤษอย่างเดียว เด็กเลยคิดว่าผมพูดภาษาไทยไม่ได้
แล้วผมได้ร่วมงานกับคุณบอย-โกสิยพงษ์ ซึ่งมีความเป็นแฟมีลี่แมนอีกครั้งคือจัดรายการให้คำปรึกษาการใช้ชีวิตถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊ก ชื่อรายการว่า ‘LIFEiS’ แล้วพัฒนามาเป็นจัดรายการวิทยุในคลื่น Mellow 97.5 โดยยังใช้ชื่อเดิมอยู่ และได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ตอนนั้นยังไม่เน้นเรื่องปัญหาความรัก เมื่อผันตัวมาเป็นศิษยาภิบาลแล้วก็ให้คำปรึกษาด้านความรักแก่คู่รักที่คริสตจักรเมืองไทย เริ่มสะสมประสบการณ์การให้คำปรึกษาเรื่องความรักมาเรื่อย ๆ เมื่อคุณนภ พรชำนิกลับมาจากสหรัฐฯ เราทั้งสามคนก็ตั้งบริษัทธุรกิจเพื่อสังคมชื่อ ‘LIFEiS’ ขึ้น จึงเกิดการจัดกิจกรรมอบรมสำหรับคู่รักคือ ‘Staying in love’ เพื่อที่จะให้ความรู้เรื่องนี้เข้าถึงคนในสังคมได้มากที่สุด เพราะผมเชื่อว่าคนทั่วไปก็อยากทราบเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน
เรื่อง : วาระ มีชูธน
เรียบเรียง : ชนินทร์ ผ่องสวัสดิ์
ภาพ : ดวงพร ใบพลูทอง
บทความน่าสนใจ
เอริน กรูเวลล์ ครูผู้เปลี่ยนเด็กเกเรให้กลายเป็นนักเขียนเพื่ออิสรภาพ
ผมต้องเป็นครู ครูเชาว์ – เชาวลิต สาดสมัย
จอห์น พอล โจนส์ เดอโจเรีย จากคนไร้บ้านสู่มหาเศรษฐีพันล้าน
กราบน้ำใจ ครู ผู้อุทิศตน เหลือนักเรียนคนเดียว ครู ก็สอน
โมฮาเหม็ด บีซีค ชายใจบุญผู้อุทิศตนดูแลเด็กป่วยหนักที่ไม่มีใครต้องการ
