สัมปชัญญะ

วิธีสร้างสัมปชัญญะในทุกๆ ก้าวที่เดิน

วิธีสร้างสัมปชัญญะในทุกๆ ก้าวที่เดิน

เราตั้งใจที่จะมี สัมปชัญญะ ในทุกย่างก้าว ช่วงต่าง ๆ อธิษฐานไว้ทุกย่างก้าวนั้นอุทิศให้กับพระพุทธองค์ อุทิศให้กับสรรพสัตว์ แผ่ส่วนกุศลอุทิศให้กับความยุ่งยากของโลก อุทิศให้กับความมีสันติภาพ สันติสุขของเผ่าพันธุ์สัตว์และมวลมนุษย์ เพราะฉะนั้น การจงกรมนั้นเป็นการกระทำซึ่งลึกซึ้ง กว้างขวาง และจริงใจ เรา ไม่ได้เดินด้วยขา แต่เดินด้วยหัวใจ และเมื่อจบอิริยาบถจงกรม ก็ประนมมืออธิษฐานอิริยาบถอื่น เมื่อนั่งก็อธิษฐานให้มีสติสัมปชัญญะบริบูรณ์ เมื่อเดินหรือเมื่อนอน ดังนั้นช่วงชีวิตเป็นไปด้วยการอธิษฐานบารมีในการที่จะเข้าถึงเครื่องมือในตัวเอง คือสติสัมปชัญญะ เพื่อจะนำสิ่งนี้มาละความยินดียินร้ายในโลกทั้งผอง

 

 

ทั้งหมดของการปฏิบัติธรรมก็คือ มีสติ มีสัมปชัญญะ เพิกถอนความยินดียินร้ายในโลกทั้งผอง จิตเข้าสู่ความเป็นกลางคือมรรคปฏิปทา (การไต่ไปตามทางเป็นลำดับ) นี่คือร่องรอยของการภาวนา เลี่ยงที่จะเคลื่อนไหวแบบกลไก แบบเครื่องจักร เพราะเครื่องจักรหรือคอมพิวเตอร์นั้น ต่อให้มันวิเศษอย่างไรก็ตาม มันไม่อาจมีสัมปชัญญะได้ มีแต่มนุษย์ สัตว์บางประเภทเท่านั้นที่มีสติสัมปชัญญะเหมาะสม ที่จะรู้อริยสัจความจริงของชีวิต สัตว์บางชนิดก็เช่นเดียวกับมนุษย์ มีความเข้าใจได้ต่อธรรมะ มีเรื่องเล่าเหตุการณ์ที่ป่าปาลิไลยกะ มีช้างอยู่วัตรฐากพระพุทธองค์ ฟังธรรมรู้เรื่องและไปสู่สุคติเมื่อสิ้นอายุแล้ว

 

 

การอธิษฐานจิตระหว่างการจงกรมนั้น มองแง่หนึ่งเป็นการสกัดกั้นการเคลื่อนไหวที่เป็นกลจักรกลไก การเคลื่อนไหวแบบเครื่องจักรนั้น ได้ครอบงำมนุษย์ร่วมสมัย เพราะความสะดวกสบายจากเทคโนโลยี เอื้ออำนวยให้เรากดปุ่มทำอะไรก็โดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องรู้ตัวเลย โลกยิ่งทันสมัยก้าวหน้า ถูกนำทางด้วยเทคโนโลยีเท่าไร ความลืมตัวก็จะสูงขึ้นเท่านั้น อันตรายหลายอย่างจะเกิดขึ้นกับทั้งเผ่าพันธุ์มนุษย์ เผ่าพันธุ์สัตว์ และต่อสภาวะแวดล้อมมากขึ้นๆ ดังนั้นเราต้องหยุดยั้งมันให้ได้ หยุดยั้งโลกก่อนที่หายนะจะเกิดรุนแรง และลำบากยุ่งยากกว่านี้ แต่หยุดยั้งกลไกในตัวเองทำได้ ไม่ทำตามอารมณ์ แต่ให้ทำด้วยสติสัมปชัญญะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ธรรมชาติประทานมาให้เรา เมื่อสติสัมปชัญญะเหล่านั้นบริบูรณ์แล้ว มันก็จะนำมาซึ่งสันติภาพมาสู่ชุมชนโลกและชีวิตทั้งมวล

 

 

 

ขอให้ทุกย่างก้าวเป็นย่างก้าวของสันติสุข ขอให้ทุกลมหายใจเข้าออกเป็นลมเข้าออกของความรู้สึกตัว แล้วไม่ช้าไม่นานเราจะพบว่า ตัวเรานั่นเองคือสื่อสันติภาพ ตัวเราเป็นเครื่องมือของความรักความ ปรานีต่อเพื่อนมนุษย์ ตัวเราไม่ใช่แหล่งเสพสุขหรือแหล่งบ้าคลั่งอารมณ์อีกต่อไป แต่เราได้กลายเป็นคนธรรมดาคนหนึ่งซึ่งเป็นสื่อ สันติภาพไปสู่เพื่อนบ้าน ไปสู่ลูกๆ สู่พ่อแม่และพี่น้องด้วยอำนาจของความมีสติสัมปชัญญะ ตราบอยู่เหนืออารมณ์

เราจะพบว่าความรู้ตัวนั้นเป็นความสว่าง ไม่ใช่แสงสว่าง ความสว่างไสวของตัวชีวิต ความรู้ได้ รู้ตื่น เป็นอาการตื่น เหมือนกับตื่นจากหลับ แต่ว่าเราตื่นนอนเรียบร้อยแล้วขณะนี้ ความหมายจึงเป็นความ สว่างไสวหรือความแจ่มแจ้ง ความรู้สึกตัวเป็นความสว่างของชีวิต

 

ข้อมูลจากหนังสือ ดวงตาแห่งชีวิต สำนักพิมพ์ Amarin Dhamma

สั่งซื้อออนไลน์ คลิก


บทความน่าสนใจ

ทำสมาธิแบบ อานาปานสติภาวนา “ลมหายใจแห่งปัจจุบันขณะ”

สิทธิที่จะตายอย่างสงบ – ธรรมะของพระไพศาล วิสาโล

วงการนักเขียนสูญเสีย เขมานันทะ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์

ถอดรหัส สติปัฏฐาน4 จากคำสอนที่ครูบาอาจารย์ฝากไว้

อุบายในการ ทำสมาธิ โดย พระอาจารย์ชานนท์ ชยนนฺโท

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.