บิ๊ก D2B

รำลึกถึงบิ๊ก D2B ผ่านบทสัมภาษณ์แดน-บีม บิ๊กยังอยู่ในใจของพวกเราตลอดไป

รำลึกถึง บิ๊ก D2B ผ่านบทสัมภาษณ์แดน-บีม บิ๊กยังอยู่ในใจของพวกเราตลอดไป

1

ย้อนไปในปี พ.ศ. 2544 สามหนุ่มต่างบุคลิก แดน-วรเวช ดานุวงศ์ บิ๊ก-ปาณรวัฐ กิตติกรเจริญ (หรือ บิ๊ก D2B ) และ บีม-กวี ตันจรารักษ์ สร้างปรากฏการณ์บอยแบนด์ฟีเวอร์ในนามของวงดีทูบี (D2B) ซึ่งโด่งดังอย่างมากในขณะนั้น แต่แล้วทุกอย่างก็พลิกผันในอีกสองปีต่อมาเมื่อบิ๊กประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์กลายเป็นเจ้าชายนิทรา ก่อนจากไปในปี 2550
2
เดือนนี้ครบรอบ 11 ปีในการจากไปของบิ๊กและดีทูบีเหลือเพียงตํานาน แดนกลายเป็นศิลปิน นักแสดงและผู้กํากับ เช่นเดียวกับบีมที่มีผลงานการแสดงอย่างต่อเนื่อง แม้ความสูญเสีย ความเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องที่พวกเขาต้องเรียนรู้ แต่ความทรงจําและมิตรภาพกลับไม่เคยเลือนหายไปตามเวลา
3
5

บิ๊กในความทรงจําเป็นอย่างไรคะ

4
แดน : ผมคิดถึงความเฟรนด์ลี่ของพี่บิ๊กครับ เขาคุยกับคนง่าย เรามักเห็นพี่บิ๊กคุยกับคนนั้นคนนี้ แล้วก็
เป็นเพื่อนกับเขาไปแล้ว ส่วนเราสองคนคุยกับคนอื่นยากมาก
5
บีม : ใช่ ๆ ความเฟรนด์ลี่ของบิ๊กทําให้วงขับเคลื่อนไปได้ เพราะเราสองคนมีโลกส่วนตัว แต่บิ๊กจะเป็นแบบเอ้ว ๆ (ทําท่าทักทาย กอดคอแดน) ลากไปนู่นไปนี่
6
แดน : บางทีก็เฮ้ย พี่เอาใครขึ้นมาบนรถตู้วะเนี่ย (หัวเราะ)
7
บีม : บิ๊กเป็นความสนุกของวง เวลาขึ้นคอนเสิร์ตจะเห็นหน้าบิ๊กยิ้มมาก่อนเลย
8
แดน : ทุกวันนี้ผมก็ยังไม่สามารถเป็นแบบที่พี่บิ๊กเป็นได้ แต่ลึก ๆ ผมว่าเขาเป็นคนซีเรียสกับชีวิตนะ
ผมรู้สึกว่าเขาเป็นเด็กช่างฝันมาก เป็นคนที่มีเป้าหมายมากกว่าผมด้วยซ้ํา พี่บิ๊กบอกเลยว่าอยากเป็นผู้กํากับ ขณะที่ผมไม่เคยคิดจะเป็นผู้กํากับหรือจะมาทําซีรี่ส์เลยอย่างมากก็คือร้องเพลง เป็นโปรดิวเซอร์แต่งเพลง แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันทําไมปัจจุบันถึงมาเป็นแบบนี้
9
บีม : บิ๊กเข้ามาอยู่ในชีวิตพวกเราสองคนด้วย
10
แดน : ใช่ครับ ผมรู้สึกว่าพี่บิ๊กเข้ามาเป็นแบ็กอัพพวกเราอยู่
11
17

หากย้อนไปก่อนรวมวงดีทูบี ชีวิตขณะที่ยังเป็นศิลปินฝึกหัดเป็นอย่างไรบ้างคะ

12

แดน : ผมฝันอยากเป็นนักร้องอยู่แล้ว ชีวิตจึงมีความตื่นเต้นมากกว่าปกติ พยายามทําทุกอย่างเพื่อให้ออกมาดีที่สุด ตั้งใจเรียนร้องเพลงให้ดีที่สุดในทุก ๆ ครั้ง เพราะสมัยก่อนการเป็นศิลปินไม่ใช่เรื่องง่ายได้เข้าห้องอัด ได้มีเพลงเป็นของตัวเองเป็นเรื่องที่ยากมาก

13
บีม : ตอนนั้นพวกเราไม่ได้มีความชัดเจนเลยว่าจะได้ออกเทปไหม จะออกเดี่ยวหรือกลุ่ม และยังไม่สนิทกันขนาดนี้ นี่ผมไม่เคยถามแดนนะ (หันไปถามแดน) ตอนเห็นหน้าบิ๊กกับพี่ครั้งแรก แดนรู้สึกไหมว่าเราเข้ากันไหมวะ (หัวเราะ)
14
แดน : ไม่ ๆ ผมไม่เคยรู้สึกอย่างนั้น ผมยอมรับทุกสิ่งทุกอย่างมาก พยายามทําตัวเองให้ดีที่สุดก่อนเพื่อไม่ให้เป็นปัญหาของพี่ ๆ มากที่สุด ผมไม่เคยคิดว่า เฮ้ย ไม่เอา ไม่รอดแน่เลย
15
บีม : แต่ผมคิดนะ คือผมเรียนมาประมาณครึ่งปีแล้วเห็นคนที่เข้ามาแล้วก็ไป จนไม่แน่ใจว่าจะได้ออกอัลบั้ม หรือเปล่า กระทั่งพี่แหม่ม (พัชริดา วัฒนา) แนะนําบิ๊กกับแดนว่าชัวร์แล้วจะทําแน่แล้ว พอเห็นหน้า (หันไปทางแดน) คิดเลยว่าจะดีไหมวะ (หัวเราะ) พูดตรง ๆ ว่าตอนนั้นน้องก็จะเด๋อ ๆ หน่อย
16
แดน : ตอนนั้นหน้าวอกมาก ๆ (หัวเราะ)
17
บีม : แต่พอมาเจอน้อง ๆ ร้องเพลงโอเคมาก เพราะผ่านงานประกวดมามีความมั่นใจ ในขณะที่ผมไม่มั่นใจเลย สกรีนเทสต์มาหลายครั้งแต่ก็ยังร้องด้วยความกลัวสุด ๆ เพราะผมเป็นคนขี้อายมากอยู่กับความรู้สึกนั้นมาครึ่งปี แต่พอแดนกับบิ๊กมาทําให้ผมรู้สึกมั่นใจขึ้นเรื่อย ๆ อยากพยายามเก่งขึ้นให้ได้
18
แดน : เป็นความโชคดีที่เราสามคนได้เจอกัน ผมเองก็ไม่ใช่คนที่ชอบเอาชนะคนอื่น จะเป็นมิตรกับคนที่ไม่อคติกับเรา แต่เมื่อไหร่เจอคนที่มองเราไม่ดี ผมก็จะมีกําแพงใหญ่โตมาก โชคดีมากที่พี่ ๆ ไม่มีอคติอะไรกับผม ไม่เคยทําให้ผมรู้สึกว่าไม่อยากให้มีเราอยู่ในวง เขารับความเป็นเด็กต่างจังหวัดของผมได้
19
21

เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน บิ๊กประสบอุบัติเหตุ ปรับใจอย่างไรคะ

20

บีม : เราไม่คิดว่าเป็นแบบนี้ เพราะตอนแรกบิ๊กรถคว่ำแล้วนอนอยู่ที่โรงพยาบาลคุยกันรู้เรื่อง ปกติมาก ไม่มีบาดแผลเลย จู่ ๆ บิ๊กก็ปวดหัวมาก จนต้องสแกนสมองแล้วหมอก็ตรวจเจอเชื้อราในสมอง
21
แดน : พี่บิ๊กต้องเข้าห้องผ่าตัดด่วนวันนั้นภาพที่เราเห็นคือ พี่บิ๊กนอนบนรถเข็นที่กําลังเข้าห้องผ่าตัด
หันหน้ามามองเราแล้วก็ถูกเข็นผ่านไป ไม่มีโอกาสได้พูดอะไรเลย วินาทีนั้น ผมไม่รู้รายละเอียดว่าเป็นเชื้ออะไร คิดแต่ว่าวันหนึ่งจะต้องหายแต่ไม่รู้ว่าจากวันนั้นเราจะไม่ได้คุยกันอีกเลย
22

เป็นเรื่องที่ติดอยู่ในใจไหมคะว่าเราไม่ได้คุยกัน ลากัน หรือให้กําลังใจกันก่อน

23

แดน : จริง ๆ ก็อยากมีโอกาสได้พูด เพราะผมเชื่อว่าพี่บิ๊กต้องการกําลังใจ เขาเป็นคนที่รับกําลังใจจากคนอื่นได้ง่าย ถ้าผ่าตัดแล้วฟื้นมารับรู้ว่าพลังของคนที่มาให้กําลังใจมากมายขนาดไหน ผมเชื่อว่าเขากลับมาได้แต่หลังผ่าตัดเขาแทบจะไม่สามารถสื่อสารอะไรได้เลย
24
บีม : ทั้งที่เราอยู่ตรงนี้ แต่คุยกันไม่ได้ มันเป็นความรู้สึกใจหายบอกไม่ถูก
25
แดน : ผมรู้ว่าเขาอยากทําอะไรอีกเยอะมาก และกําลังทําด้วย พี่บิ๊กเป็นคนที่ฝันแล้วก็ทําเลย ทําให้ผมคิดว่าทําไมต้องมาพรากสิ่งที่เขาอยากทําไป บางอย่างพี่บิ๊กเพิ่งเริ่มทําเอง
26

เมื่อบิ๊กต้องจากไปจริง ๆ รับมือกันอย่างไรคะ

27

บีม : มันผ่านเวลาการทําใจมาหลายปี แม้ทางคุณพ่อคุณแม่ของบิ๊กและเราทุกคนจะฝากความหวังไว้กับปาฏิหาริย์เล็ก ๆ สุดท้ายเมื่อบิ๊กจากไปทุกคนต่างอยู่ในภาวะที่ทําใจได้พอสมควร สิ่งที่เราสองคนเสียใจที่สุดมัน
28
แดน : ในวันที่เราต้องสูญเสียจริง ๆ แม้ไม่ได้เศร้าดิ่ง เพราะเหมือนกับเราค่อย ๆ ทําใจ แต่เราก็รู้สึกเสียดายที่พี่บิ๊กน่าจะได้ทําอะไรมากกว่านี้
25
29
ที่มา : นิตยสาร Secret  ฉบับที่ 228
เรื่อง : แดน-วรเวช ดานุวงศ์ และบีม-กวี ตันจรารักษ์
ผู้เขียน/แต่ง : อุราณี ทับทอง

ภาพ : สุเมธ วิวัฒน์วิชา

ผู้ช่วยช่างภาพ :  ชุติมา มลิชัยศรี, วรวุฒิ วิชาธร

สไตลิสต์ : Pound_thana

ผู้ช่วยสไตลิสต์ : Yuri Kk

แต่งหน้า : ภูดล คงจันทร์

ทําผม : ตี๋ อรุณ

ภาพปก : www.instagram.com/danworrawech

30


บทความน่าสนใจ

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.