ทิพยจันทน์

เพราะชีวิตเลือกเก่งได้ ทิพยจันทน์ หัสดินทร ณ อยุธยา Chief Client Officer บริษัทบีบีดีโอ กรุงเทพ จำกัด

เพราะชีวิตเลือกเก่งได้ ทิพยจันทน์ หัสดินทร ณ อยุธยา Chief Client Officer บริษัทบีบีดีโอ กรุงเทพ จำกัด

จากเด็กสาวที่ใฝ่ฝันอยากเป็นนักการทูตกลับกลายมาทำงานสายโฆษณา ล่าสุด ทิพยจันทน์ หัสดินทร ณ อยุธยา ได้รับเลือกจาก Campaign Asia-Pacific Magazine ให้เป็น 1 ใน 40 ของผู้หญิงที่ถูกจับตามองในเอเชียประจำปี 2017 (Women to Watch 2017)

ย้อนกลับไปเมื่อเธอจบชั้นมัธยมแล้วเอนทรานซ์ไม่ติดคณะที่ต้องการ แต่สอบติดโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนที่สหรัฐอเมริกา จึงไปเรียนที่นั่นหนึ่งปี

“เมืองที่ไปอยู่เป็นเมืองเล็ก ๆ ไม่มีคนไทย เราเป็นคนเอเชียคนเดียว คนที่นั่นก็เลยสนใจชอบมาถามว่าประเทศไทยเป็นอย่างไร กินอยู่อย่างไร บางคนถามถึงขนาดว่าขี่ช้างไปโรงเรียนหรือเปล่า ก็ต้องอธิบายให้เขาฟัง พอเอาเพลงพระราชนิพนธ์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ไปเปิดให้ฟังเขาก็ชื่นชมว่าประเทศไทยมีพระมหากษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถมาก ทำให้เราได้คิดว่า นี่ก็เป็นการทูตอีกรูปแบบหนึ่ง ไม่ว่าเราจะประกอบอาชีพอะไร เมื่อเดินทางออกจากประเทศแล้วเราสามารถเป็นทูตได้ทุกที่ทุกเวลา”

เมื่อกลับมาเมืองไทยคุณทิพยจันทน์จึงไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเอแบค ซึ่งทำให้เป้าหมายในชีวิตของเธอเปลี่ยนไป

“ระหว่างเรียนที่เอแบคก็มีพี่ ๆ คนเก่ง ๆ จากเอเจนซี่ต่าง ๆ ผลัดเปลี่ยนกันมาแชร์ประสบการณ์ เรารู้สึกประทับใจอุตสาหกรรมโฆษณาที่มีแต่คนเก่ง ๆ ที่สำคัญมีโอกาสได้รู้จักกับ คุณสุนันทา ตุลยธัญ ซึ่งเป็น Chairman ของบริษัทโอกิลวี่และ WPP Group เป็นผู้หญิงเก่งมาก เป็นผู้หญิงคนเดียวที่อยู่ใน Worldwide Board วันนั้นเธอไปประชุมที่นิวยอร์ก แล้วเรามีโอกาสได้ไปด้วย จำได้ว่าพอเครื่องบินลงที่สนามบิน JFK ก็มีลิมูซีนคันใหญ่มากสีขาวมารับ ตอนนั้นเราอายุ 19 ปี ก็เดินตามขึ้นรถไป ระหว่างนั่งรถเข้าไปในเมือง เราก็คิดว่านี่แหละชีวิตที่ฉันอยากได้

“พอจบเอแบคหนึ่งปีก็เริ่มทำงานเลย คุณอาที่สนิทกับคนที่ทำโปรดักชั่นเฮ้าส์ แนะนำให้ลองอยู่ฝ่ายผลิตสองเดือน แม้จะไม่ใช่งานที่ชอบ แต่ก็ทำให้เข้าใจขั้นตอนการผลิต เข้าใจคนทำงานกองถ่ายหนังว่าทำงานหนัก เราต้องพูดกับเขาดี ๆ ทุกคนเหนื่อย ต่อมาก็ได้ไปทำงานกับบริษัทลินตาส (ประเทศไทย) จำกัด ตอนนั้นผู้ใหญ่ในเอเจนซี่โทร.มาถามว่าเขารับเออี อยากได้งานไหม ถ้ามาได้ภายใน 15 นาที เขารับเลย เราก็ขับรถเร็วมาก เพราะชอบความท้าทาย โชคดีที่สาทรตอนบ่ายรถไม่ติด เขาก็ตกใจว่ามาถึงทัน นั่งคุยกันครึ่งชั่วโมง เขาถามว่าทำไมอยากทำงานนี้ เราบอกว่าอยากเป็นแบบคุณสุนันทา เขาก็บอกว่ามาผิดเอเจนซี่แล้ว แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร แล้วก็พาไปดูทีม ถามว่าเริ่มงานได้เมื่อไหร่ ตอนนั้นดีใจมากที่ได้ทำงานตามความฝัน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เราอยากตื่นมาทำงาน หรือบางครั้งเราเจอเรื่องหนัก ๆ มา เราก็หายเหนื่อยเร็ว เพราะรู้ว่าทำงานเพื่ออะไร เพื่อลิมูซีนคันนั้นไง

“เราเชื่อว่าคนที่อยากประสบความสำเร็จต้องมีเป้าหมาย อาจเป็นรองเท้า กระเป๋า เงินให้แม่ ต้องมีสักอย่าง ไม่อย่างนั้นเราจะไม่มีแรงฝ่าฟันไปให้ถึงเป้าหมาย เราทำงานวงการโฆษณามาตลอด จนล่าสุดมาอยู่ที่บริษัทบีบีดีโอกรุงเทพ จำกัด จริง ๆ เคยมีโอกาสทำงานอื่น ๆ ที่ไม่ใช่สายโฆษณา แต่เราชัดเจนตั้งแต่แรกว่าอยากไปไหน เราจะไปเชียงใหม่ เมื่อมีคนมาชวนไปอุดรฯ เราก็ไม่ไป”

ไม่ว่าจะทำงานอะไร ย่อมต้องพบอุปสรรคในการทำงาน

“ช่วงที่ต้องขึ้นมาเป็น General Manager ไม่รู้จะทำตัวอย่างไร เพราะอายุยังน้อย แล้วก็เป็นผู้หญิง ถ้าต้องไปหาลูกค้าที่เป็นผู้ใหญ่กว่า เขาจะคิดอย่างไร เราต้องไปขายงานเป็นร้อย ๆ ล้าน บางครั้งก็ท้อนะ เคยคิดว่าเราเด็กไปไหมสำหรับบทบาทนี้ แต่พี่ ๆ เจ้านายก็ให้กำลังใจ และสุดท้ายก็คิดได้ว่า ก็เป็นตัวของตัวเองนี่แหละ เวลาจะพิสูจน์เอง ฉันอายุเท่านี้แล้วไง เป็นผู้หญิงแล้วไง

“เราไม่ได้คิดว่าตัวเองเก่ง ในมุมของผู้หญิง ทุกคนเก่ง ดี ถนัด ไม่เหมือนกัน อย่างพี่สาว เลี้ยงลูกสองคน รับ – ส่งลูก งานหนักมาก นั่นก็เก่ง เราต้องหาให้เจอว่าเราถนัดทำอะไร แล้วทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด ให้เกียรติ ให้คุณค่ากับสิ่งที่เราทำ และไม่ใช่แค่ผู้หญิง เพศไหนก็เก่งได้ เหมือนเรื่องที่เล่าถึงประธานาธิบดีเดินเข้าไปถามภารโรงในองค์การนาซาว่าคุณทำอะไรในองค์การนาซา ภารโรงก็บอกว่าผมส่งคนไปดวงจันทร์ ถ้าเรามองว่าเราก็แค่คนกวาดพื้น เราก็เป็นแค่นั้น  ทุกอย่างอยู่ที่วิธีคิด แต่ภารโรงคิดและภูมิใจว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรที่ได้ส่งคนไปดวงจันทร์”

“คิด” อย่างไรก็ “เป็น” อย่างนั้น

 

ที่มา : นิตยสาร Secret  ฉบับที่ 231

เรื่อง : อุรัชษฎา ขุนขำ

ภาพ : วรวุฒิ วิชาธร

Secret Magazine (Thailand)

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.