ดื่มด่ำอาหารค่ำเลิศรส ในบรรยากาศสบายๆ ริมน้ำเจ้าพระยา ณ โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน กรุงเทพฯ

ฮัลโหล…กลับมาพบกับกิมจิ สาวสายกิน! อีกแล้วนะเออ…! เปิดแบบแปลกๆ ฮาๆ ไปหน่อยนะแต่ไม่ต้องตกใจไปค่ะ วันนี้ก็เช่นเคยถ้าไปเจออะไรดีๆ กิมจิจะต้องมาบอกเล่าให้อ่านให้ดูกันแน่นอน อย่างไม่นานมานี่เองได้มีโอกาสไปเยือนโรงแรมระดับ 5 ดาว มานั่นก็คือ โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน โรงแรมติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา วิวดี อาหารก็อร่อย แน่นอนค่ะว่าถ้ากิมจิได้ไปเยื่อนที่ไหนล่ะก็ไม่พ้นเรื่องกินอยู่แล้ว

วันนี้เลยอยากจะแนะนำร้านอาหารหน้านั่งอีกที่ ไว้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกไว้สำหรับดินเนอร์สุดพิเศษ บอกเลยว่ามื้อค่ำที่นี่เมนูแต่ล่ะอย่างเด็ดดวงทั้งนั้น งั้นไม่รอช้าจะพาเพื่อนๆ ไปชมไปชิมกัน

โซนด้านนอกของห้องอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยา

โซนด้านในของห้องอาหาร

โซนในส่วนของห้องครัวแบบเปิดที่ลูกค้าสามารถมองเห็นเหล่าเชฟกำลังปรุงอาหาร

ก่อนจะไปลิ้มชิมรสอาหารเรามาทำความรู้จักกับห้องอาหารชื่อว่า “ห้องอาหารริเวอร์ไซด์ กริลล์” เป็นแนว Bar & Restaurant ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา นั่งทานอาหารไปพร้อมกับเสียงเพลงเบาๆ สบายๆ บรรยากาศภายในจะตกแต่งสไตล์ Mood &Tone คือจะใช้เลือกใช้โทนสีที่ดูอบอุ่นและใช้ไม้เป็นวัสดุหลักในการตกแต่งไม่ว่าจะเป็นโต๊ะและเก้าอี้ ก็จะทำจากหวายเป็นส่วนใหญ่ซึ่งจะให้ความรู้สึกอบอุ่นและแข็งแรง ห้องอาหารได้ถูกแบ่งออกเป็น 2 โซน มีทั้งแบบห้องปรับอากาศ และแบบรับลมริมน้ำ โดยมีที่นั่งให้เลือกทั้งโซฟา โต๊ะ และเก้าอี้แบบสูงให้ได้เลือกได้ตามใจ

ส่วนของเมนูอาหารของทางร้านจะมีคอนเซปต์อาหารจะเน้นอาหารประเภทกริลล์ ซึ่งทางร้านเค้าจะคัดเลือกเมนูปิ้ง-ย่าง และเมนูอาหารสุดฮิตที่ลูกค้าชอบมาดัดแปลงให้มีหน้าตาน่ากินขึ้นและรสชาติที่ถูกปากขึ้นด้วยที่นี่จะเน้นคุณภาพของวัตถุดิบต้องสดใหม่และมีความพิเศษเป็นหัวใจหลัก เช่น การคัดเลือกปลาจะต้องตัวโต เลาะก้างเรียบร้อยเพื่อรับประทานได้ง่าย เนื้อแน่นและสด หรือ เนื้อนำเข้าจากออสเตรเลียที่ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติ และความอร่อย ผสมผสานกับการใช้เครื่องเทศวัตถุดิบจากสมุนไพรของบ้านเราให้เกิดความอร่อยและมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ รับรองว่าถูกปากทั้งคนไทยและชาวต่างชาติแน่นอนคะ

อาหารแนะนำของที่นี่ต้องสั่ง ได้แก่ ไก่ย่างสูตรพิเศษ เสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียว ผักสด และแจ่ว , หมูปิ้งเนื้อนุ่ม เสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียว และส้มตำ , ปลาเผา เสิร์ฟพร้อมผักสด และน้ำจิ้มรสเด็ด 3 อย่าง , กุ้งเผา เสิร์ฟพร้อมผักสด และน้ำจิ้มรสเด็ด , ซี่โครงหมูบาร์บีคิว รสชาติอร่อยถึงเครื่อง เสิร์ฟพร้อมผักสด และ เครื่องดื่มแนะนำ ได้แก่ Aphrodisia, Nearing the tropics, Destination Imagination

และวันนี้กิมจิมีเมนูทั้งคาวหวาน พร้อมเครื่องดื่มมาแนะนำหากเพื่อนๆ อยากจะไปเปลี่ยนบรรยากาศมื้อค่ำนอกบ้าน เราไปเริ่มกับเมนูแรกกันเลย

เมนู Prawn and Avocado Escabeche [ราคา 260++ บาท]

เมนูรูปทรงกรวยสอดไส้ครบเครื่องไว้ด้านในเป็นการสร้างสีสันให้กับอาหารได้ดีงามมาก เมนูนี้เป็นอาหารที่จัดอยู่ในหมวดทาปาสยอดนิยมที่ยังคงไว้เป็นตัวเลือกให้ลูกค้าได้ลิ้มลอง โดยเครื่องภายในนั้นเป็นผักต่างๆ อาทิ อะโวคาโด้ และกุ้งกับซอสเอสคาเปเช่ ปรุงรสด้วยเครื่องเทศแบบอินเดีย ห่อด้วยแผ่นแป้งปาปาดัม รสชาติของเมนูนี้จะออกรสเปรี้ยวนิดๆ แต่กลิ่นเครื่องเทศจะแรงหน่อยแต่เข้มข้นเข้ากันได้ดีจริงๆ

ซุปใสเนื้อ (Double Beef Consommé) [ราคา 280++ บาท]

แรกๆ ที่นำมาเสิร์ฟคือ เกิดความสงสัยว่าตรงกลางสีแดงนั่นเป็นเนื้อบดแห้งๆ หรอ แต่พอเทน้ำซุปจากกาลงไปเนื้อสีแดงนั้นค่อยๆ บานตัวออก กลายเป็นซุปหน้าตาน่าทาน เชฟได้บอกกับกิมจิว่ากว่าจะได้ซุปนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ เพราะเป็นซุปแบบคอนซูเม่ที่ต้องผ่านกรรมวิธีหลายขั้นตอนเพื่อให้ได้น้ำซุปที่ใส นำหอม กระเทียม แครอท เนื้อไร้มัน พร้อมกับวัตถุดิบอื่นๆ โดยใช้ไข่ขาวเป็นตัวทำให้น้ำซุปใส เคี่ยวโดยใช้ไฟอ่อนไปเรื่อยๆ ประมาณ 2 ชั่วโมง โดยโปรตีนในไข่ขาวเมื่อโดนความร้อนจะจับตะกอนในน้ำซุป ให้รวมตัวกันเป็นก้อน ทำให้ตักและกรองออกได้ง่ายขึ้น มีผลทำให้น้ำซุปใสมาก จากนั้นจะเคี่ยวต่อไปจนน้ำซุปงวดจะได้ซุปที่มีกลิ่น สี และความหอมของซุปอย่างชัดเจน ทานคู่กับขนมปังกรอบก็เข้ากันดี รสชาติของน้ำซุปกลมกล่อมและที่สำคัญเนื้อนุ่มมากไม่เหนียวอย่างที่คิด

ไก่ย่างแบบไทย เสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียว และน้ำจิ้มแจ่ว (Thai Grilled Chicken – Gai Yang) [ราคา 400++ บาท]

เมนูหน้าตาคุ้นๆ ใช่มั๊ยล่ะแน่นอนมันคือ ไก่ย่าง จัดอยู่ในหมวดอาหารไทย Windows of The World เมนูสุดฮิตของคนไทยที่มักชอบกินควบคู่ไปกับส้มตำจานเด็ด จิ้มแจ่วรสเด็ด กินกับข้าวเหนียวร้อนๆ อร่อยเหาะเลยทีเดียว แต่ที่นี่เค้าคัดไก่เนื้อที่มีขนาดตัวละ 1 กิโลกรัม เท่านั้น เพราะเนื้อจะนุ่ม และรสชาติสัมผัสที่อร่อยกว่า และเมื่อนำมาหมักด้วยสมุนไพรไทยที่ให้กลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์แล้วยิ่งทำให้อร่อยยิ่งขึ้น เสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียว และน้ำจิ้มแจ่วรสชาติซื้ดออกรสเปรี้ยวหวานตัดกันอย่างลงตัว ขอบอกว่าเนื้อไก่ไม่แห้งเลยยังคงความนุ่มอร่อยพอกินเข้าไปหอมกลิ่นเครื่องเทศสมุนไพรอ่อนๆ รสชาติดีทีเดียว ชอบจัง!

ปลาหิมะอบ (ROASTED SNOW FISH 300 gr.) [ราคา 820++ บาท / จานหลัก]

เมนูคือบอกเลยว่าอลังมากกินแค่ชุดนี้ก็อิ่มค่ะท่านผู้ชม เพราะมาพร้อมผักสลัดและเครื่องเคียงอีกเพียบ แถมเนื้อปลาหิมะชิ้นโต ขนาด 300 กรัม อบจนได้ที่ โอ้โห…มันใหญ่จริงๆ เมื่อทานคู่กับซอสเลม่อนบัตเตอร์ ที่มีรสอมเปรี้ยวนิดๆ พร้อมกลิ่นหอมของเลม่อนมันเข้ากันกับเนื้อปลาหวานๆ ได้ดีทีเดียว โดยลูกค้าสามารถเลือกซอสได้ตามใจชอบ 1 ชนิด และเครื่องเคียงอีก 2 อย่างจากในรายการที่ระบุไว้ด้วยนะ แต่ที่เห็นอยู่ในภาพจะมีหน่อไม้ฝรั่งและสลัดอะโวคาโด้ และซอสที่แนะนำทานคู่กันและอร่อยคือ ซอสเลม่อนบัตเตอร์ นี้เลย

ตบท้ายด้วยของหวานที่ต้องลอง คือ

Blueberry Cheesecake [ราคา 350++ บาท]

รสชาติละมุนลิ้นมากๆ หวานหอมกำลังดี

ข้าวเหนียวมะม่วง (Mango & Sticky Rice) [ราคา 320++ บาท]

จัดมาในสไตล์ซูชิญี่ปุ่น โดยวางเนื้อมะม่วงหอมหวานไว้ด้านบนข้าวเหนียวมูนที่ทั้งหวานมันราดด้วยน้ำกะทิเข้มข้น โรยด้วยถั่วเหลืองกรุบกรอบ โอ๊ย…มันฟินมากค่ะ

ยังค่ะ ยังไม่หมดยังมีเมนูเครื่องดื่มที่น่าสนใจสำหรับคนที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์อีก 2 เมนู นั่นก็คือ

1.Virgin Colada – Pineapple juice with coconut milk [ราคา 190++ บาท]

2. Frozen Lychee Punch – Lychee, lime, pineapple juice with red grenadine syrup [ราคา 190++ บาท]

สองแก้วนี้เป็นเครื่องดื่มม๊อกเทลที่ไม่ผสมแอลกอฮอล์ จะเป็นเมนูออกรสชาติหอมหวานของผลไม้

และเครื่องดื่มค๊อกเทลแนะนำสำหรับนักดื่ม ได้แก่

1. Grasshopper – Crème de cacao white, crème de menthe green, cream [ราคา 300++ บาท]

2. Mojito – Light rum, lime juice, lime wedge, mint sprig and topped with soda [ราคา 300++ บาท]

3. Security Check – Pandan-infused vodka, fresh pomelo, orange liqueur, lime [ราคา 300++ บาท]

4. Aphrodisia – Vodka, passion fruit, pomegranate, palm sugar, fresh lime ราคา [300++ บาท]

เลือกตามใจชอบได้เลย อ่อ! เกือบลืมที่นี่เค้ายังมีดนตรีสดมาขับกล่อมทุกคืนวันศุกร์และเสาร์ ระหว่างเวลา18.30 – 20.30 น. การแสดงดนตรีแจ๊สสดโดยคุณอัจฉ์ กัลยาณคุปต์ หรือ เคนนี จี ของประเทศไทย ผู้ที่ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศรายการ Thailand’s Got Talent เมื่อปี 2554 และตั้งแต่เวลา 20.30 น. – เที่ยงคืน ฟังเพลงเพราะจากดีเจที่จะมาเปิดแผ่นเพลง เพื่อความสุขแบบไม่มีสะดุดตลอดคืน อีกด้วยนะจ๊ะ ห้ามพลาดเด็ดขาด

เป็นไงกันบ้างเมนูแต่ละอย่างน่ากินทั้งนั้นว่ามั๊ย ถ้าใครอยากจะตามไปชิมไปกันได้เลยจ้า สำหรับวันนี้กิมจิต้องลาไปก่อนแล้วพบกันใหม่เรื่องหน้าจะเป็นอะไรนั้นติดตามด้วยนะจ๊ะ

ที่ตั้งร้านอาหาร : อยู่บริเวณชั้น G ของโรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน ติดกับร้านอาหารฟีสท์