พริกไทย

พริกไทย ราชาแห่งเครื่องเทศที่มีมาแต่โบราณ และคุณค่าทางสมุนไพร

“พริกไทย” ราชาแห่งเครื่องเทศ

พริกไทย ราชาแห่งเครื่องเทศที่มีมาแต่โบราณ และคุณค่าทางสมุนไพร ถือได้ว่าเป็นราชาแห่งเครื่องเทศ ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก เพราะเป็นเครื่องเทศที่ให้รสเผ็ดร้อน มีกลิ่นฉุน มักใช้ดับกลิ่นคาวเนื้อสัตว์ได้ดี หรือใช้ปรุงอาหารนานาชนิด แต่…ก็ยังมีคุณค่าทางสมุนไพรและประโยชน์ ที่คุณอาจไม่รู้ มาดูกันเลยค่ะ!

ถิ่นกำเนิดของพริกไทย

เป็นพืชประจำถิ่นของประเทศอินเดีย พบในแถบตอนใต้ของเทือกเขากาต รัฐเกรละ อีกทั้งยังเป็นพืชเศรษฐกิจในเขตร้อน เช่น ในประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย บราซิล และอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตหลักและส่งออกพริกไทย

ไม่ได้กำเนิดที่ไทย…แต่ทำไมเรียกพริกไทย

ถูกนำเข้ามาในช่วงสมัยอยุธยา ที่มีการค้าขายกับชาวต่างชาติ เดิมทีนั้นถูกเรียกว่า “พริก” แต่เมื่อมี พริกเม็ดแดง เข้ามา จึงถูกเปลี่ยนชื่อเป็น “พริกไทย” และถูกใช้เป็นเครื่องเทศจนถึงปัจจุบัน

ลักษณะ

ชื่อทางวิทยาศาสตร์ (Piper nigrum)

เป็นไม้เถาประเภทเลื้อยมีรากเล็กๆ ตามข้อใช้ยึดจับลำต้น ลักษณะของใบ มีผิวเรียบสีเขียวสด โคนใบใหญ่ ปลายใบแหลมคล้ายใบของต้นโพธิ์ ส่วนของดอกสีเหลืองอมเขียว ออกดอกเป็นช่อ ผลลักษณะกลมเรียงตัวกันเป็นช่อ

คุณค่าทางสมุนไพร

ราก : บุบให้แตกนำไปต้มกับน้ำ ใช้ดื่ม มีสรรพคุณช่วยย่อย ขับลมในกระเพาะและลำไส้ แก้ท้องอืด

ดอก : คนโบราณจะนำไปต้มกับน้ำ ทิ้งไว้ให้เย็น ใช้ล้างดวงตา แก้โรคตาแดง

ผลอ่อน : ผลอ่อนสีเขียวเข้ม กินสดๆ เพื่อไล่ลมในกระเพาะ แก้ท้องอืด ขับเสมหะ

เถา : ทุบให้ละเอียด ต้มกับน้ำ ใช้ดื่ม มีสรรพคุณเป็นยาฆ่าเชื้ออ่อนๆ ช่วยแก้อาการท้องเสีย อุจจาระเหม็นผิดปกติ

ประโยชน์

ชาวตะวันตกนำไปสกัดใช้ในทางยา

เนื่องจากภายในพริกไทยดำมีสารจำพวก อัลคาลอยด์ ชื่อว่า ไปเปอรีน (piperine) มีผลเป็นยากดประสาท ซึ่งส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง ช่วยลดไข้ ลดอาการเจ็บปวด ลดการอักเสบ และฆ่าแมลงได้ อีกทั้งสารไปเปอรีนมีส่วนช่วยในการเพิ่มขึ้นของเม็ดสีในผิวหนังอีกด้วยค่ะ

ใช้พริกไทยดำในการลดความอ้วน

พริกไทยดำนั้นได้รับการยอมรับและยืนยันจากทีมวิจัยในประเทศสหรัฐอเมริกาว่า สามารถที่จะช่วยลดความอ้วนได้อย่างมีประสิทธิภาพและดีเยี่ยม ซึ่งเจ้าตัวสารประกอบที่ชื่อว่า Piperine (ไพเพอร์รีน) มีคุณสมบัติในเรื่องของการช่วยขจัดไขมัน และต่อต้านไขมันส่วนเกินได้ดี

สายพันธุ์

ในบ้านเรามีอยู่ 6 สายพันธุ์ ได้แก่ พันธุ์ใบหนา พันธุ์บ้านแก้ว พันธุ์ปรางถี่ธรรมดา พันธุ์ปรางถี่หยิก พันธุ์ควายขวิด และสายพันซาราวัค หรือ คุชซิ่ง ในประเทศไทยปลูกมากทางภาคตะวันออก

ชาพริกไทยไล่ลมในท้อง

เลือกผลแก่จัดนำไปตากแดดให้แห้งสนิท สังเกตที่สีผลจะเป็นสีดำหรือสีเทา เมื่อแห้งสนิทแล้วนำมาบดเป็นผงละเอียด เวลาใช้นำมาชงกับน้ำร้อน ดื่มขับลมในกระเพาะ ขับเสมหะ แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยเจริญอาหาร

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.