คูโรบูตะซอสมินต์แอ๊ปเปิ้ล

คูโรบูตะซอสมินต์แอ๊ปเปิ้ล เมนูสุดยอดสเต๊กหมูจากหมูดำ “คูโรบูตะ”

นึกถึงหมู นึกถึง “คูโรบูตะ” ขึ้นชื่อว่า “หมูดำ” ชื่อนี้ย่อมมีที่มาจากสีตัวดำอันเป็นเอกลักษณ์ของสายพันธุ์ และเมื่อเอ่ยถึงหมูดำนักชิมจำนวนไม่น้อยอาจนึกไปถึง “หมูดำสเปน” ที่ใช้ทำแฮมอันเลื่องชื่อแต่สำหรับ “หมูดำคูโรบูตะ” แล้ว ไม่เกี่ยวข้องอันใดกับหมูดำสเปนเลยละส่วนที่มาจะเป็นอย่างไรนั้น มีเรื่องเล่าอยู่ว่า…

สมัยศตวรรษที่ 17 เหล่าทหารซึ่งนำโดยแม่ทัพผู้เรืองนาม โอลิเวอร์ ครอมเวลล์ได้พักกองหนีหนาวอยู่ในแคว้นเบิร์กเชียร์ของอังกฤษ และบังเอิญพบหมูพื้นเมืองประจำแคว้น ซึ่งมีลักษณะพิเศษไม่เหมือนหมูทั่วไป เพราะมีผิวกายดำทั้งตัว จึงได้ขนานนามหมูพันธุ์นี้ว่า “หมูเบิร์กเชียร์” นับจากนั้นหมูเบิร์กเชียร์ก็เป็นที่รู้จักไปทั่วเกาะอังกฤษ

เกือบ 200 ปีต่อมา ในยุคที่อังกฤษเจรจาสัมพันธไมตรีกับญี่ปุ่น ทางรัฐบาลเมืองผู้ดีได้ส่งมอบหมูเบิร์กเชียร์นี้เป็นของขวัญบรรณาการแด่จักรพรรดิญี่ปุ่น ตั้งแต่นั้น “หมูเบิร์กเชียร์” ก็มีชื่อเรียกเป็นภาษาญี่ปุ่นแพร่หลายว่า “คูโรบูตะ” ซึ่งแปลว่าหมูดำ (คูโร = ดำ + บูตะ = หมู) นั่นเอง

หมูดำมีดีอย่างไร

ลักษณะเด่นของหมูดำที่ต่างจากหมูทั่วไปในท้องตลาดคือ ลวดลายไขมันคล้ายลายหินอ่อนที่แทรกอยู่ในเนื้ออันเกิดจากขั้นตอนการเลี้ยง โดยคนเลี้ยงหมูชาวอาทิตย์อุทัยจะให้หมูดำกินมันเทศเป็นอาหารเสริมเพื่อเพิ่มไขมัน จนเกิดเป็นริ้วลายไขมันเล็กๆ แทรกอยู่ตามเนื้อ นอกจากนี้ โดยธรรมชาติของหมูดำจะให้เนื้อสีแดงเข้มกว่าหมูทั่วไปอยู่แล้ว ยิ่งเมื่อมาประกอบกับลายไขมันดังกล่าว จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเนื้อหมูคูโรบูตะถึงได้นุ่ม หอม ชวนรับประทานกว่าหมูอื่นๆ หลายเท่า

ด้วยคุณสมบัติความอร่อยดังกล่าว เราจึงมักพบว่าเนื้อหมูคูโรบูตะมีราคาแพงเมื่อเทียบกับหมูทั่วไป แต่ปัจจุบัน หมูคูโรบูตะ สามารถเลี้ยงในเมืองไทยได้แล้ว แถมยังให้คุณภาพดีไม่แพ้หมูจากญี่ปุ่นอีกด้วย ทั้งยังหาซื้อได้ง่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป สารพัดข้อดีทั้งกินอร่อยและซื้อหาสะดวกแบบนี้ จะไม่ลองชิมบ้างก็เสียยี่ห้อขาชิมนะคะ

คูโรบูตะซอสมินต์แอ๊ปเปิ้ล

หมูดำทำอะไรถึงอร่อย

นึกถึงเนื้อหมูคราใด สารพันเมนูอร่อยต่างลอยวนอยู่ในความคิดชวนให้น้ำลายสอได้เสมอ จริงๆ แล้วเนื้อหมูแทบจะเป็นเนื้อสัตว์เบสิกคู่ครัวคนไทย เพราะไม่ว่าจะนำมาปรุงกับอะไรก็อร่อยถูกใจไปเสียทุกอย่าง ยิ่งได้เนื้อหมูคุณภาพดีอย่าง “หมูดำคูโรบูตะ” แล้วละก็ จะเป็นเมนูหมูๆ หรือเมนูหรูเลิศก็เอาอยู่แน่ๆ รับรองได้เลย! เพื่อเป็นการพิสูจน์ความอร่อยจากเนื้อหมูดำคูโรบูตะ ลองมาทำสเต๊กแบบง่ายๆ กันดีกว่า กับเมนูอร่อยได้สุขภาพที่เรารังสรรค์ขึ้นมาพิเศษอย่าง “คูโรบูตะซอสมินต์แอ๊ปเปิ้ล” เตรียมส่วนผสมเรียบร้อยแล้ว เจอกันในครัวนะคะ

คูโรบูตะซอสมินต์แอ๊ปเปิ้ล

ส่วนผสม (สำหรับ 1 ที่) เตรียม 30 นาที ปรุง 20 นาที

  • หมูคูโรบูตะ 1 ชิ้น
  • เกลือ 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยดำ 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  • ซีอิ๊วญี่ปุ่นหรือซอสแม็กกี้ 1 ช้อนโต๊ะ
  • ไวน์แดง 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • เนยสำหรับหมักหมู 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • แอ๊ปเปิ้ลเขียวปอกเปลือกหั่นเป็นชิ้น 1 ถ้วย
  • เนยสำหรับทำซอส 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย (สำหรับต้มแอ๊ปเปิ้ล) 3 ช้อนโต๊ะ
  • อบเชย 1 ก้าน
  • ใบสะระแหน่สับ 1 ช้อนโต๊ะ
  • กลิ่นมินต์ 3 หยด
  • เฟรนช์ฟรายส์ 1 ถ้วย

วิธีทำ

1.หมักหมูคูโรบูตะกับเกลือ พริกไทย น้ำมันมะกอก ซีอิ๊ว ไวน์แดง และเนย พักไว้

2.ทำซอสแอ๊ปเปิ้ลโดยนำแอ๊ปเปิ้ลเขียวไปต้มในน้ำพอท่วม เติมน้ำตาลและอบเชยเมื่อสุกนิ่มกรองน้ำออก ก่อนนำแอ๊ปเปิ้ลไปปั่นจนละเอียด

3.นำซอสแอ๊ปเปิ้ลที่ได้ไปผัดกับเนย ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย ตามชอบ หยดกลิ่นมินต์เพื่อเพิ่มความหอม หากไม่มีใช้ใบสะระแหน่สับละเอียดแทนได้

4.นำหมูที่หมักไว้นาบบนกระทะจนสุกทั้งสองด้าน จัดใส่จาน ราดด้วยซอสมินต์แอ๊ปเปิ้ลเคียงด้วยเฟรนช์ฟรายส์ พร้อมเสิร์ฟ

คูโรบูตะซอสมินต์แอ๊ปเปิ้ล

เรื่อง : ชโลทร วรวงศา ภาพ : พีระพัฒน์ พุ่มลำเจียก สไตล์ : กษมา แก้วจำนง

สูตรอาหารแนะนำอื่นๆ

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.