เนื้อต้มกะทิ

เนื้อต้มกะทิ เมนูโบราณ หารับประทานยาก อร่อย รสชาติเค็มมัน

วิธีเลือกเนื้อวัว

ได้สูตรและความอร่อยจากเมนู เนื้อต้มกะทิ กันไปแล้วก็มาเรียนรู้วิธีเลือกเนื้อวัวกันกันหน่อยดีกว่าค่ะ ว่าส่วนไหนเหมาะจะทำเมนูใด และมีวิธีเลือกอย่างไรบ้าง

 

♦ นุ่มที่สุด ♦ 

ส่วนนุ่มที่สุดคือ ส่วนหลังของวัว ได้แก่ส่วนเนื้อสัน (Loin) และซี่โครง (Rib) เหมาะกับการนำไปทอด ย่าง และ อบ เนื้อสัน คือส่วนของสะโพกวัว นิยมเอามาทำสเต๊กเพราะมีความนุ่มและแพงที่สุด ซึ่งเนื้อสันสามารถแบ่งเป็นประเภทย่อยได้อีกดังนี้

  • เนื้อสตริปลอยน์ (Strip Loin Steak) หรือ นิวยอร์กสตริปสเต๊ก (New York Strip) เนื้อสันติดมันที่ติดอันดับเนื้อสเต็กที่อร่อยที่สุด เพราะทั้งนุ่มละลายในปากและชุ่มฉ่ำจากส่วนที่ติดมัน ถือเป็นสุดยอดเนื้อของวงการสเต็ก และราคาสูง
  • เนื้อเทนเดอร์ลอยน์ (Tenderloin Steak) หรือ Filet Mignon (ฟิเลมิยอง) เป็นเนื้อสันในที่มีความนุ่มอร่อยเป็นพิเศษ เพราะเป็นเนื้อส่วนที่วัวไม่ต้องออกแรงใช้กล้ามเนื้อมาก มีขนาดชิ้นเล็กที่สุด ไขมันน้อย ราคาแพง มักจะจัดเสิร์ฟเป็นชิ้นหนาประมาณ 2 นิ้วขึ้นไป เพื่อความนุ่มที่สมบูรณ์แบบในการกินค่ะ
  • ทีโบน (T-bone Steak) หรือพอร์ตเตอร์เฮาส์ (Porterhouse) เนื้อส่วนที่ได้จากการเฉือนกึ่งกลางระหว่างเทนเดอร์ลอยน์ และเนื้อสตริปลอยน์ คั่นกลางด้วยกระดูกรูปตัว T ทำให้ถูกเรียกว่าทีโบน ทำให้เราได้ลิ้มรสเนื้อสองแบบในเวลาเดียวกัน ทีโบนต่างกับพอร์ตเตอร์เฮ้าส์ที่จะมีส่วนที่เป็นเทนเดอร์ลอยน์มากกว่าและชิ้นใหญ่กว่า
  • เซอร์ลอยน์ (Sirloin Steak) เนื้อสันนอกหรือเนื้อสะโพกด้านบนที่เต็มไปด้วยเนื้อนุ่มๆ ปนมันแถมลายเนื้อ ที่มีทั้งความนุ่มและความมัน และราคาไม่แพงมากนัก 
  • ซี่โครง (Rib) ตัดมาจากส่วนต้นซี่โครง ตัดแต่งกระดูกและเอ็นรอบนอกออก เหลือแต่เนื้อส่วนกลางที่ให้รสชาติดีที่สุด ซี่โครงมีเนื้อที่นุ่ม รสเข้ม นิยมนำมาย่างและทอดน้ำมันน้อยๆ
  • โทมาฮอว์ค (Tomahawk Steak) สเต๊กเนื้อที่มาพร้อมกระดูกคล้ายกับทีโบน แต่ชิ้นเนื้อใหญ่กว่า เพราะเป็นเนื้อซี่โครงส่วนที่ใหญ่ที่สุดในตัววัว มีเนื้อหนังและไขมัน ส่วนมากจะถูกเสิร์ฟด้วยความหนาประมาณ 2 นิ้วขึ้นไป
  • ริบอาย (Ribeye Steak) เนื้อซี่โครงย่างที่ได้เนื้อติดมันมามาก จึงขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยชุ่มฉ่ำ เนื้อนุ่ม และรสเข้ม ถือว่าเป็นเนื้อที่ชุ่มฉ่ำและรสจัดที่สุด ราคาถูกว่าฟิเลมิยอง นิยมนำมาย่าง และทอดน้ำมันน้อย

 

♦ นุ่มปานกลาง ♦ 

  • เนื้อวัวส่วนสะโพก (top round) เนื้อวัวตัดจากส่วนหลังของขา แม้ว่าเนื้อในส่วนนี้จะเป็นส่วนที่ทำงานหนักเหมือน ส่วนหัวไหล่ แต่เนื้อจากโคนขาและสะโพกจะนุ่มกว่า
  • ท็อป เบลด (Top Blade Steak) หรือแฟลท ไอรอน (Flat Iron) เนื้อสันบริเวณคอหรือหัวไหล่ เนื้อประเภทนี้จะมีความหนาเหมาะสำหรับการทำอาหารประเภท อบ การทำสตู เพราะจะได้เนื้อที่นิ่มเเละอร่อย เนื้อปนมันนุ่มชุ่มฉ่ำ มีมันมาก ความนุ่มเป็นรองแค่เทนเดอร์ลอยน์ รสดี เพียงนำไปย่าง หรืออบโดยไม่ต้องหมักก็อร่อย แถมราคาเนื้อส่วนนี้ถูกกว่าส่วนเทนเดอร์ลอยน์เกือบครึ่งอีกด้วย

 

♦ นุ่มน้อยที่สุด ♦ 

เนื้อส่วนนี้เหมาะสำหรับการนำไป ตุ๋น ทำสตู เนื้อบด ได้แก่ เนื้อจากบริเวณตอนกลางลำตัวด้านท้อง (Flank)ด้านอก (Short plate) ส่วนต้นขาด้านหน้า (Brisket) ส่วนต้นขาหน้า (Shank) และส่วนคอ (Neck)

 

ขอบคุณข้อมูล  letterplanet.com

 

อ่านต่อเมนูที่น่าสนใจ

คั่วกลิ้งเนื้อ เมนูอาหารใต้รสเด็ด เข้มข้นเผ็ดโดนใจ

เมนู วุ้นเส้น ผัดฉ่า อาหารไทยรสเด็ด เผ็ดร้อน

วิธีทำ รวมมิตรทะเลผัดสับปะรด รสเปรี้ยวหวาน ครบเครื่องทะเล

เต้าหู้ผัดกะปิ เมนูเด็ด อร่อย กลมกล่อม หอมกะปิ

แจกสูตรเมนู ต้มกะทิปลาสลิด ใบมะขามอ่อน อร่อย รสเค็มมัน

คั่วกลิ้งเนื้อ เมนูอาหารใต้รสเด็ด เข้มข้นเผ็ดโดนใจ

ยำทูน่า กับสมุนไพร เมนูแซ่บ สมุนไพรแน่น

วิธีทำ ยำปลากะพง ทอดกรอบ อร่อย รสแซ่บ

ซีซาร์สลัด ปลาหมึก เมนูดี๊ดี ที่คนรักการกินสลัด ต้องลอง!

 

#AmarinCuisine #Recipes

👉 ฝากติดตาม Instagram Health&Cuisine ใหม่ได้ที่ @amarincuisine Follow มาเยอะๆ นะคะ 😘 อยากกิน..อยากฟิน..อยากทำ.. อย่าลืมติดตาม #Amarincuisine นะจ๊ะ

Summary
เนื้อต้มกะทิ เมนูโบราณ หารับประทานยาก อร่อย รสชาติเค็มมัน
Article Name
เนื้อต้มกะทิ เมนูโบราณ หารับประทานยาก อร่อย รสชาติเค็มมัน
Description
ขั้นตอนการทำ เนื้อต้มกะทิ ♦ ส่วนผสม เนื้อสะโพกหั่นชิ้นสี่เหลี่ยมพอคำ 300 กรัม มันฝรั่งหั่นชิ้นสี่เหลี่ยมต้มสุก 1 ถ้วย ขิงแก่หั่นแว่น 3-4 แว่น ถั่วงอก ½ ถ้วย รากผักชี 1 ราก ตะไคร้หั่นท่อนบุบพอแตก 1 ต้น กะทิ 1½ ถ้วย น้ำสับปะรด ¼ ถ้วย น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ พริกขี้หนูแดงบุบพอแตก 5 เม็ด ใบผักชีสำหรับตกแต่ง ♦ วิธีทำ เนื้อต้มกะทิ 1. คลุกเคล้าเนื้อกับน้ำสับปะรดเข้าด้วยกัน หมักไว้ประมาณ 30 นาที 2. เทกะทิใส่หม้อ ยกขึ้นตั้งไฟกลางให้เดือด (ระวังอย่าให้แตกมัน) ใส่ขิง รากผักชี และตะไคร้ลงต้มให้เดือดอีกครั้ง 3. ใส่เนื้อที่หมักไว้ลงต้มจนสุกดี ตามด้วยมันฝรั่ง ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และน้ำมะขามเปียก 4. รอให้เดือดแล้วใส่ถั่วงอกและพริกขี้หนูแดง คนพอเข้ากัน ยกลงจากเตา 5. ตัก เนื้อต้มกะทิ ใส่ถ้วยเสิร์ฟ ตกแต่งด้วยใบผักชีรับประทานได้ทันที

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.