ดอกมะลิ

ดอกมะลิ สัญลักษณ์แห่งความรักอันบริสุทธิ์ ที่ผูกพันธ์กับคนไทยมายาวนาน

ดอกมะลิ

ดอกมะลิ เมื่อกล่าวถึงดอกไม้ชนิดนี้แล้ว สำหรับคนไทยหากบอกว่าไม่รู้จัก…คงแปลกเสียมาก! เพราะเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความรักอันบริสุทธิ์ของมารดา ดอกตูมสีขาว กลิ่นหอมละมุนราวกับความรัก ความอบอุ่น นอกจากนี้ “มะลิ” ยังมีประโยชน์อีกสารพัดมากมาย คนไทยแต่โบราณมักนำมาร้อยมาลัย ทำน้ำอบน้ำปรุง อีกทั้งยังนำมาปรุงอาหาร เป็นยารักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆอีกด้วย…

วัฒนธรรมไทยที่ผูกพันกับ “มะลิ”

มะลิ” สำหรับคนไทยแล้ว มีความผูกพันมายาวนาน นอกจากจะนิยมปลูกเป็นไม้ประดับบ้านเรือน ไว้ชื่นชมกับความงามแล้ว ดอกไม้สีขาวๆนี้ยังให้กลิ่นหอมละมุนๆ ที่โชยมาตามลม ในช่วงเวลาเช้าและเย็น หากมีแขกบ้านแขกเรือนมาเยี่ยมเยียนก็จะรู้สึกชื่นใจยิ่งนัก นอกจากนี้ยังเก็บดอกมะลิมาแช่ในน้ำฝนเย็นๆ ที่ตามบ้านสมัยโบราณมักมีโอ่งเพื่อรองเก็บไว้ดื่ม ช่วยความสดชื่นทั้งกายและใจ หรือถ้ามีเวลาว่างพอก็จะนำมาร้อยเป็นมาลัยกราบบูชาพระอีกด้วย  กลิ่นหอมอ่อนๆนั้น จะอบอวลอยู่ในห้องพระ ให้ความรู้สึกสงบและผ่อนคลาย ซึ่งภาพเหล่านี้คงจางหายไปมากแล้วในยุคสมัยปัจจุบัน มักเพียงได้ยินจากคนเฒ่าคนแก่ที่เล่าสู่กันฟัง…

"<yoastmark

วิธีเก็บดอก “มะลิ” อย่างถูกวิธี เก็บอย่างไรให้คงความหอม

ต้องเก็บเฉพาะดอกตูมที่พร้อมจะบาน มีความเจริญเต็มที่ มีลักษณะสีขาวนวล ไม่ควรตัดมาทั้งช่อ เพราะลักษณะดอกมะลิเมื่อเก็บเกี่ยวมาแล้วถ้าดอกตูมเกินไป (อ่อนเกินไป ) จะไม่สามารถบานต่อไปได้ หรือบานได้แต่คุณภาพไม่ดีหรือไม่มีกลิ่นหอม วิธีการเก็บให้ใช้มือเด็ดตรงก้านดอกใต้กลีบเลี้ยง มักเก็บดอกตอนเช้ามืด ประมาณ 03.00-04.00 น. ทั้งนี้ในช่วงเช้าจะมีสภาพอากาศที่เย็นและเพื่อจะส่งตลาดตอนเช้าตรู่ หรือเก็บดอกมะลิในตอนเย็นแล้วเก็บรักษาไว้ใช้ในตอนเช้า

สรรพคุณทางยาโบราณของ “มะลิ”

หลายคนอาจยังไม่รู้…ว่ามะลิมีสรรพคุณทางโบราณเกือบทั้งต้นเลยก็ว่าได้

ราก : แก้ได้สารพัดโรค ทั้งปวดเมื่อย เคล็ดขัดยอก เลือดออกตามไรฟัน ช่วยรักษาหลอดลมอักเสบ หากนำรากมาฝนกินแล้วมาผสมกับน้ำ แก้ร้อนในได้ดี
ใบ : คนสมัยก่อนมักใช้ส่วนของใบมาบดแล้วนำไปต้มกับน้ำใช้ดื่ม มีสรรพคุณช่วยแก้ไข้ รวมทั้งรักษาอาการปวดท้อง แน่นท้อง ท้องเสีย หากนำใบมาตำแล้วละลายกับน้ำปูนใส แต้มแผลฟกช้ำ แผลเรื้อรัง โรคผิวหนังจะหายไวขึ้น

ดอก : นอกจากความหอมชื่นใจแล้ว คนสมัยก่อนยังนำมารับประทานเป็นยาแก้โรคบิด อาการปวดท้องต่างๆ หรือใช้ดมเพื่อแก้อาการวินเวียนศรีษะ หากนำมาบดใช้พอกแก้พิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย และที่สำคัญยังถูกใช้เป็นยาบำรุงหัวใจได้ดีเยี่ยมอีกด้วยครับ^^

เมนูสุขภาพสำหรับเดือนแห่งความรักนี้

มูทลี้กลิ่นมะลิ
มูทลี้กลิ่นมะลิ

ส่วนผสม

  • มูสลี่ 100 กรัม
  • ดอกมะลิบ้าน 1/2 ถ้วย (ควรเป็นดอกมะลิที่เก็บได้ตามธรรมชาติไม่มีสารพิษเจือปน)
  • นมจืด 1/2 ถ้วย
  • น้ำตาลทรายขาว 1/4 ถ้วย สำหรับทำน้ำเชื่อม
  • น้ำตาลทรายขาว 3 ช้อนโต๊ะ สำหรับคลุก
  • น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  1. นำดอกมะลิหอมๆที่เก็บสดๆแช่ลงในนมจืด ประมาณ 5-6 ดอก ใส่ในภาชนะที่มีฝาปิด นำไปแช่เย็นไว้
  2. ตั้งหม้อ ใส่น้ำและน้ำตาล ใช้ไฟอ่อนเคี่ยวจนน้ำตาลเริ่มเหนียว (ระวังน้ำตาลจะเปลี่ยนสี)
  3. ใส่ดอกมะลิสดลงไปคลุกเคล้าให้น้ำตาลเคลือบจนทั่ว ตักใส่ชามแล้วโรยน้ำตาล คลุกเบาๆให้น้ำตาลเกาะดอกมะลิจนทั่ว พักไว้
  4. เตรียมชามสำหรับเสิร์ฟ ใส่มูสลี่ ตามด้วยดอกมะลิเคลือบน้ำตาล แล้วเทนมพร้อมรับประทาน

อ้างอิงข้อมูลจาก

  • www.khaokhitchakut.chanthaburi.doae.go.th
  • www.kapook.com

 

 

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.