ข้าวหน้าปลาทู

ข้าวหน้าปลาทู สไตล์ญี่ปุ่น เมนูอร่อยแปลกใหม่ ไม่จำเจ – A Cuisine

ประโยชน์ที่ได้จากเมนู ข้าวหน้าปลาทู สไตล์ญี่ปุ่น

เมนู ข้าวหน้าปลาทู สไตล์ญี่ปุ่น วัตถุดิบหลักก็คือ “ปลาทู” (Short mackerel) ซึ่งปลาทูเป็นปลาทะเลที่สามารถจับได้เป็นจำนวนมากในประเทศไทย  นอกจากจะมีรสชาติอร่อยแล้ว ปลาทูยังจัดเป็นอาหารที่ทั้งถูกและดี อยู่คู่กับครัวไทยมายาวนาน และนำมาประกอบอาหารได้หลายเมนุูไม่ว่าจะเป็น น้ำพริกปลาทู, ปลาทูต้มเค็ม, ปลาทูทอด, ปลาทูนึ่ง และอีกมากมาย ซึ่งปลาทูนั้นไม่ได้มีดีแค่ความอร่อยเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการมากมายเลยทีเดียวค่ะ

ในปลาทูนั้น จะมีกรดที่เรียกว่า ลิโนเลอิก (linoleic acid) ซึ่งเป็นกรดจำเป็นต่อร่างกายและได้จากการบริโภคเท่านั้น เนื่องจากร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ขึ้นมาเองได้ โดยกรดลิโนเลอิกนี้ มีความสำคัญคือ ช่วยพัฒนาสมองและเสริมสร้างการทำงานของระบบสืบพันธุ์ อีกทั้งยังช่วยให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายได้รับสารอาหารมากขึ้น ร่างกายจึงสามารถนำสารอาหารต่างๆ ไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว และช่วยเผาผลาญกรดไขมันอิ่มตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งกรดลิโนเลอิก ยังทำหน้าที่ลดการสะสมไขมันบริเวณผนังหลอดเลือดซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง ในวัยสูงอายุอีกด้วยค่ะ

ประโยชน์ของปลาทู

  • ปลาทูอุดมไปด้วยโอเมกา 3 และ 6 ที่มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง อีกทั้งยังเป็นส่วนประกอบของเยื่อบุผนังเซลล์ ช่วยลดคอเลสเตอรอล ลดความเสียงทั้งโรคหัวใจและหลอดเลือด นอกจากนี้โอเมกา 3 และ 6 ในปลาทูยังเป็นโครงสร้างที่สำคัญของเนื้อเยื้อบริเวณจอประสาทตา หรือ retina ที่ช่วยในการมองเห็นอีกด้วยค่ะ
  • ในปลาทูมีแคลเซียมและฟอสฟอรัสโดยปริมาณแคลเซียมในปลาทูจะสูงถึง 170 มิลลิกรัมต่อปลาทูสด 100 กรัม นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยฟอสฟอรัสที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยสารอาหารเหล่านี้จะมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟันได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในวัยเด็กและวัยผู้สูงอายุ
  • ปลาทูอุดมไปด้วย EPAและ DHA ซึ่งเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว โดยสารทั้งสองชนิดนี้จะทำหน้าที่ลดการจับตัวของเกล็ดเลือดที่ผิดปกติ อันจะก่อให้เกิดภาวะหลอดเลือดแข็งตัว นอกจากนั้นทั้ง EPAและ DHA ยังมีส่วนช่วยในการลดระดับไขมันชนิดที่ทำให้เกิดลิ่มเลือดหรือหลอดเลือดอุดตันได้
  • ปลาทูมีโปรตีนสูงในปลาทู 1 ตัวจะให้โปรตีนสูงถึง 20 กรัมต่อน้ำหนัก 100 กรัม ซึ่งโปรตีนที่ได้จากปลาทูจะเป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย ร่างกายสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันที

บริโภคปลาทูในปริมาณที่พอดีได้อย่างไร?

โดยปกติแล้วมนุษย์เรามีความต้องการโปรตีนที่แตกต่างกันตามแต่ละช่วงวัย ซึ่งสามารถแยกความต้องการโปรตีนในแต่ละช่วงวัยได้ดังนี้

  • วัยเด็กเล็ก–เด็กโต จะต้องการปริมาณโปรตีนที่ 1-1.1 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
  • วัยผู้ใหญ่ ต้องการปริมาณโปรตีน ประมาณ 8 กรัม
  • หญิงตั้งครรภ์ ต้องการปริมาณโปรตีนถึง 3 กรัม

 

วิธีการเลือกซื้อปลาทู

ในการเลือกซื้อปลาทูนั้น แบ่งเป็นการเลือกซื้อปลาทูนึ่ง และปลาทูสด การเลือกซื้อปลาทูสดก็จะเหมือนกับการเลือกซื้อปลาสดทั่วๆ ไป แต่สำหรับวิธีการเลือกซื้อปลาทูนึ่งมีดังนี้

– อย่างแรกต้องสังเกตด้วยตาก่อนว่า ปลาทูจะต้องอยู่ในสภาพสดใหม่ ไม่มีคราบติดบนตัวปลา ส่วนหัวกับส่วนลำตัวจะต้องไม่หลุดออกจากกัน
– ลองดมกลิ่น ปลาทูนึ่งที่ดีกลิ่นของปลาทูจะต้องเป็นกลิ่นสด ไม่เหม็นหืน หรือว่าเหม็นเปรี้ยวเหม็นเน่า
– ลองใช้มือสัมผัสที่ตัวปลาทู เพื่อดูว่ามีคราบเหนียวติดมือมาหรือไม่ ถ้ามีก็แสดงว่าเป็นปลาทูนึ่งไม่สด
–เลือกเข่งปลา อย่าเลือกเข่งที่อยู่บนหรือล่างเกินไป เพราะเข่งปลาทูที่อยู่ด้านบนๆ หรือส่วนบนสุดเลย มักจะมีแมลงวันมาตอม ส่วนเข่งล่างสุดก็อาจจะมีสิ่งสกปรกหรือฝุ่นละอองต่างๆ ปลิวมาติด และอาจจะอับเกินไป ทำให้ปลาทูส่วนนั้นเสียได้ง่าย

 

อีกหนึ่งวัตถุดิบในเมนู ข้าวหน้าปลาทู สไตล์ญี่ปุ่น ก็คือ”น้ำมันงา” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งส่วนผสมสำคัญในการชูรสชาติ น้ำมันงา (Sesame Oil) คือน้ำมันที่สกัดมาจากเมล็ดงา จะสกัดจากงาดำเพราะให้น้ำมันในปริมาณมาก และมีคุณภาพมากกว่างาชนิดอื่น น้ำมันงามี 2 ชนิด คือ

  1. น้ำมันงาที่สกัดจากเมล็ดงาที่คั่วแล้วสีของน้ำมันงา ก็จะมีลักษณะสีน้ำตาลใส และมีกลิ่นหอม
  2. น้ำมันงาที่สกัดจากเมล็ดงาสดสีของน้ำมันที่ได้จะมีสีเหลืองใสคล้ายกับน้ำมันพืชชนิดอื่น มีสรรพคุณมากกว่าน้ำมันงาที่ได้จากเมล็ดคั่ว แต่ข้อเสียคือไม่มีกลิ่นหอม

เคล็ดลับการใช้น้ำมันงา กับการปรุงอาหาร

  • ผสมน้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะลงในการหุงข้าวตามปกติ จะได้ข้าวสวยที่มีความหอม นุ่ม อร่อย และไม่บูดง่าย
  • ใช้น้ำมันงาหมักเนื้อปลาหรืออาหารทะเลก่อนนำไปปรุงเป็นอาหาร จะช่วยลดความคาวของอาหารได้
  • ใส่น้ำมันงาในอาหารประเภทผัก จะช่วยให้มีความหอมและน่ารับประทานมากขึ้น
  • ใช้เป็นส่วนผสมในน้ำสลัด หรือผสมเป็นน้ำจิ้มสุกี้ ก็ช่วยให้รสชาติอร่อยขึ้นได้

ข้อดีของน้ำมันงา

  • มีกลิ่นหอมน่ารับประทาน
  • ประกอบด้วยกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัวสูง ซึ่งสามารถช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายไม่ให้มากจนเกินไป
  • น้ำมันงานั้นสามารถเก็บไว้ได้นาน ไม่เหม็นหืน
  • น้ำมันงาจะไม่จับตัวเป็นก้อน

ประโยชน์ดี๊ดี ของน้ำมันงา

  • น้ำมันงามีสารป้องกันการหืนธรรมชาติจะสามารถเก็บไว้ได้นาน และนำมาประกอบอาหาร โดยไม่มีกลิ่นเหม็นหืน
  • น้ำมันงา จะประกอบไปด้วยกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัวสูง จึงเหมาะสำหรับผู้บริโภคที่มีภาวะคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ป้องกันโรคในระบบหัวใจ และหลอดเลือดได้เป็นอย่างดี
  • มีกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น กรดลิโนเลอิค และโอเลอิค ที่ช่วยในการเจริญเติบโต และสร้างความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง
  • ในด้านความสวยความงามจะช่วยป้องกันไม่ให้ผิวหนังแห้ง แตก และป้องกันผมแห้งแตกปลาย โดยการใช้นวดตามบริเวณที่ต้องการ

⇒ เคล็ดลับวิธีแล่ปลาให้น่ารับประทาน คลิกเลย!

 

ขอบคุณข้อมูล sukkaphap-d  / pitchaya.net / sukkaphap-d

 

อ่านต่อเมนูที่น่าสนใจ

สูตรข้าวต้ม ปลาทูน่า เมนูเพื่อสุขภาพ ทำง่าย ได้ประโยชน์จากปลาทูน่าเน้นๆ

เบอร์เกอร์ปลาทู กับทาร์ทาร์ซอสตะไคร้ อร่อยแปลกใหม่

เมนูสลัด ปลาย่างน้ำมันงา เมนูอาหารดี๊ดีเพื่อคนรักสุขภาพ

วิธีทำ ยำปลากะพง ทอดกรอบ อร่อย รสแซ่บ

แกงฟักทอง พริกเผาปลาดุกย่าง ใส่น้ำพริกเผาแทนพริกแกง ก็อร่อยไปอีกแบบ

ผัดเผ็ดปลาดุกทอดกรอบ สูตรเด็ด หอมกลิ่นพริกแกง

 

#AmarinCuisine #Recipes

👉 ฝากติดตาม Instagram Health&Cuisine ใหม่ได้ที่ @ amarincuisine Follow มาเยอะๆ นะคะ 

อยากกิน..อยากฟิน..อยากทำ.. อย่าลืมติดตาม #Amarincuisine นะจ๊ะ

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.