เชื่อหรือไม่! คนเราสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิแม้อายุมาก

เชื่อหรือไม่! คนเราสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิแม้อายุมาก

ประเทศไทยของเรายังถือเอาอายุ 60 ปีขึ้นไปเป็นวัยสูงอายุเหมือนเดิม ทั้งๆ ที่ปัจจุบันอายุขัยของคนไทยเราสูงขึ้นกว่าเมื่อ 50 ก่อนถึง 20 ปี คือเพศชายเป็น 68 ปี เพศหญิง 72 ปี ที่เป็นเช่นนี้ เพราะคนไทยมีความรู้และยอมรับในการดูแลรักษาสุขภาพอย่างสมัยใหม่มากขึ้น รวมถึงวิทยาการทางการแพทย์แผนปัจจุบันก็ดีขึ้นด้วย

มีรายงานว่า ปัจจุบันคนเราสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพจนถึงอายุ 80 ปี จำนวนผู้สูงอายุมีมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะนี้พลเมืองโลกมีผู้สูงอายุอยู่ร้อยละ 10 หรือราวหกร้อยล้านคน แต่อีก 40  ปีข้างหน้า จะมีจำนวนถึงร้อยละ 25 ทีเดียว สิ่งนี้เองกระตุ้นให้หลายๆ วงการ เช่น วงการพัฒนาแรงงาน พัฒนาชุมชน และการส่งเสริมสุขภาพ ให้ความสำคัญกับผู้คนในวัยนี้เป็นอย่างมาก

เราอยากให้คุณผู้อ่านได้ตระหนักถึงคุณค่าของผู้ที่อยู่ในวัยนี้ว่ายังทำอะไรๆ ได้อีกมาก เช่น

1.สามารถทำประโยชน์ให้กับครอบครัวและสังคม ทั้งยังเป็นคลังสมองได้เป็นอย่างดี

2.มีอารมณ์หนักแน่นมั่นคง สามารถรักษาอารมณ์ให้สงบอยู่เสมอ ไม่ใจน้อย วู่วาม ไม่โกรธง่าย จึงถือเป็นเสาหลักของครอบครัวได้

3.การมีงานอดิเรกทำตามความถนัด นอกจากทำให้เพลิดเพลิน ไม่รู้สึกเหงาแล้วยังสามารถทำรายได้อีกด้วย

4.ได้ติดต่อกับญาติสนิทมิตรสหาย ไปมาหาสู่ ไม่เก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน พูดคุยกัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ทำให้มีความทันสมัย รอบรู้สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมได้อย่างถูกต้อง

5.หมั่นดูแลสุขภาพตนเอง ไม่ปล่อยให้เจ็บป่วยอยู่นานโดยไม่เล่าให้ลูกหลานฟัง หรือปรึกษาหารือกับแพทย์ เพื่อไม่ให้โรคเป็นมากจนต้องเป็นภาระหนักกับลูกหลาน และการรักษาเสียแต่เนิ่นๆ ยังสามารถช่วยประหยัดงบประมาณของชาติด้วย

สมัยนี้ผู้สูงอายุส่วนมากแล้วจะมองดูกระฉับกระเฉงอ่อนกว่าวัย มีความคิดอ่านทันสมัย สามารถทำงานอาชีพเดิมได้ อย่างเช่นเป็นครู แพทย์ ทนายความ เป็นต้น

คุณผู้อ่านเชื่อหรือไม่ ว่าหลังจากมีอายุครบ 60 ปีแล้ว คนเราจะเข้าใจถึงจิตใจและคำพูดของผู้อื่นได้มากขึ้น สามารถแนะนำสิ่งที่เป็นประโยชน์ได้ดีขึ้น สามารถไปทำอะไรๆ ได้อีกมากมาย และเชื่อว่าผู้สูงอายุของงไทยสามารถทำงานให้เป็นประโยชน์แก่ครอบครัวได้แบบนี้เช่นกัน

ท่านผู้สูงอายุลองนั่งเงียบๆ สำรวจตัวเองว่ามีอารมณ์อย่างไร อ่อนไหวหรือไม่ ใครพูดอะไรไม่ถูกหู โดยเฉพาะสามีหรือภรรยา ลูกน้อง จะแสดงความไม่พอใจทันที ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ พร้อมกับแสดงออกด้วยสีหน้า ท่าทาง คำพูด และการกระทำ ถ้ามีอาการเช่นนี้คงไม่มีใครอยากใกล้ชิด หรืออยากคุยด้วย

พยายามควบคุมอารมณ์ให้ดี รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา เข้าใจจิตใจมนุษย์ คิดอย่างมีเหตุผล มองคนในแง่ดี และให้อภัยผู้อื่นได้ ท่านก็จะได้รับการกล่าวถึงในแง่ดี มีผู้คนอยากมาพูดคุยใกล้ชิดด้วย ท่านจะเป็นผู้ที่มีความสุข มีผู้มองเห็นคุณค่าของท่าน อะไรจะทำให้เกิดสุขในยามนี้ได้เหมือนกับการมีผู้คนมาใส่ใจ โดยเฉพาะลูกๆ หลานๆ มาห้อมล้อมหน้าหลัง

งานอดิเรกก็ทำตามที่ตนเองถนัด และเพื่อใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ ไม่ให้ว่างจนเกินไป แต่ต้องไม่เครียด จะสามารถสร้างความเพลิดเพลินและความสุขให้กับชีวิต แม้ผู้ที่ไม่มีความรู้เรื่องใดมาก่อน แต่ถ้าสนใจไปเข้าฝึกอบรม หัดทำ ก็จะสามารถทำได้ ยกตัวอย่างเช่น งานศิลปหัตถกรรม วาดรูป เล่นดนตรี เป็นต้น  หลายคนอาจเพิ่งมารู้ว่าตัวเองมีพรสวรรค์ในด้านนี้ เพราะเรียนรู้ไว ทำได้ดี มิหนำซ้ำยังนำผลงานออกแสดงและจำหน่ายได้เงินอีก ใช้เวลาให้ผ่านไปโดยไม่เหงา ทั้งยังได้รับคำชมเชยจากคนใกล้ชิดเกิดความภูมิใจในตนเอง

ท่านผู้สูงอายุสามารถไปไหนมาไหนพูดคุยกับใครได้เหมือนเดิม อย่าเก็บตัวเองอยู่แต่ในบ้าน ท่านไปงานสังสรรค์ร่วมประชุม เยี่ยมญาติมิตร พูดคุยหยอกล้อกันได้ หากใครต้องการความช่วยเหลือที่ท่านพอช่วยได้ ก็ไม่ควรปฏิเสธ ทำแล้วท่านจะรู้สึกสุขใจ

แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เสนอแนะให้ทำก็คือ การให้คนอื่นยืมเงินจำนวนมากๆ เพราะผู้สูงอายุมีความจำเป็นที่จะต้องนำเงินก้อนนี้มาไว้ใช้จ่ายของตนเอง ถ้าสงสาร อยากให้ใครบ้าง ก็ทำได้ตามกำลังทรัพย์ที่มี โดยที่ท่านไม่ต้องเดือดร้อน

คำพูดที่ว่าอายุเป็นเพียงตัวเลขนั้นเป็นความจริง ท่านผู้สูงอายุยังสามารถเรียนรู้ ติดตามข่าวสารที่เกิดขึ้นทั้งในเมืองไทยและทั่วโลกได้เสมอ ควรทำตัวให้ทันสมัย ไม่ติดอยู่ในกรอบของวัฒนธรรมมากจนเกินไป รู้จักปรับตัวทั้งในเรื่องการแต่งกาย การเข้าสังคม การสังสรรค์กับบุคคลอื่น

ท่านผู้สูงอายุที่แม้จะมีอายุกว่า 80 ปีแล้ว ก็ยังสามารถทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อสังงคมได้เหมือนเดิม ยังไปสอน บรรยาย อภิปราย ให้เป็นที่พออกพอใจ ของผู้ฟังอยู่เสมอ ด้วยท่าทางกระฉับกระเฉง และแต่งกายทันสมัยเสียด้วย นี่แหละถึงเป็นตัวอย่างของผู้สูงอายุที่มีคุณค่าต่อสังคม

อโรคยา ปรมาลาภา ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ ทุกคนจึงต้องให้ความสำคัญกับสุขภาพของตนเอง หมั่นดูแลร่างกายให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ ผู้สูงอายุหลายท่านยังคงแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย เมื่อไม่สบายเล็กน้อยก็ไม่ทิ้งไว้นาน รีบไปรักษา ตรวจร่างกายประจำปีสม่ำเสมอ รักสุขภาพด้วยการกินอาหารถูกสุขลักษณะครบ 5 หมู่ที่ย่อยง่าย จะทำให้ท้องไม่ผูก ออกกำลังกายสม่ำเสมอเหมาะสมตามวัยเข้านอนเป็นเวลา หลับให้ได้คืนละ 6 ชั่วโมง และงีบตอนบ่ายอีกเล็กน้อย ปฏิบัติตนตามคำแนะนำของแพทย์

หากทำได้เช่นนี้ ยืนยันได้ว่าท่านจะมีร่างกายแข็งแรง จิตใจเข้มแข็ง ไม่ทำให้ลูกหลานต้องเป็นกังวลกับท่านเลย และไม่ว่าท่านจะมีอายุตามตัวเลขมากเท่าใด ท่านก็ยังสามารถทำตนเองให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่นได้เสมอ หากท่านได้ปฏิบัติตนตามหลักการดำเนินชีวิตในวัยสูงอายุอันมีคุณค่า 5 ประการที่เราได้บอกไปข้างต้นนั่นเอง

ที่มา: นิตยสาร ชีวจิต ฉบับที่ 91

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ 

เปิดตำราดูแลผู้สูงวัย ไม่ให้เกิดภาวะโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ

ตามไปดูเคล็ดลับเสริมหัวใจแข็งแรง แม้ว่าจะสูงวัย!

ก่อนสู่สังคมสูงวัย…ถ้าจะให้ดี ควรวางแผนก่อนเกษียณจะดีที่สุด!

 

 

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.