เรียนรู้การอยู่กับโรคชรา อยู่อย่างมีคุณค่าและมีความสุขในบั้นปลายชีวิต!

ขี้หงุดหงิด เพราะแวดล้อมไปด้วยคนหนุ่มคนสาว ต่างกับตัวเองที่แก่ชราแล้ว แต่ในความเป็นจริงแม้คุณจะแก่ลง แต่สิ่งที่ถือเป็นโชคดีของความสูงวัยก็คือ คุณจะได้รับความยอมรับนับถือ หรือความเกรงใจมากขึ้น

รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า เพราะบางรายก็คิดว่าความแก่ทำให้ไม่สามารถทำอะไรได้ ทั้งที่คุณยังพอมีเรี่ยวแรงทำประโยชน์เพื่อตนเอง และคนอื่นได้อีก ซึ่งคุณอาจจะเลือกทำสิ่งดีๆ ที่ตัวเองสามารถทำได้ตามกำลังความสามารถก็จะช่วยให้คุณรู้สึกว่าตัวเองกลับมามีค่าอีกครั้ง

มีอาการซึมเศร้า เพราะไม่มีกิจกรรมทำ ซึ่งคุณก็ควรจะหางานทำ หรือมีงานอดิเรกที่สนใจเพื่อคลายความรู้สึกแย่ๆ นี้ บางทีก็รู้สึกอ้างว้างโดดเดี่ยว เพราะขณะที่อยู่บ้านคนเดียวก็คิดว่าลูกหลานไม่รัก ไม่มาเอาใจ ขณะที่ลูกหลานก็ต้องออกไปทำงาน หรือมีชีวิตของเขาเองบ้าง ไม่ต่างจากสมัยที่คุณยังหนุ่มสาว

ปากร้าย ชอบด่าว่า เพราะเห็นอะไรก็ไม่พอใจไปหมด ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าไม่ชอบใจสิ่งต่างๆ ที่ต่างจากยุคสมัยตน ทั้งๆ ที่โลกก็จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้เกิดการพัฒนา การเปิดใจรับ หรือไม่เอามาเป็นอารมณ์ต่างหากที่จะช่วยให้มีความสุขได้ ทั้งยังอาจมีอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ เพราะรู้สึกไม่แน่นอน ดังนั้นคุณก็ควรจะทำตัวเองให้รู้สึกมั่นคงด้วยการเห็นคุณค่าของตัวเอง รักตัวเองให้มากขึ้น

เก็บตัว ไม่กล้าออกจากบ้าน ซึ่งการที่คุณทำเช่นนี้มีแต่จะทำให้หดหู่ การออกไปสังสรรค์กับเพื่อนรุ่นเดียวกัน หรือคนที่เด็กกว่าก็จะช่วยให้คุณกลับมากระชุ่มกระชวยอีกครั้ง

ในทางกลับกันเพราะความชรานี่เองที่อาจทำให้ผู้สูงวัยบางคนมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตใจที่ดีขึ้น เช่น

อยู่ติดบ้านมากขึ้น ชอบศึกษาหาความรู้ สาระต่างๆ เช่นการฟังข่าว มากกว่าจะดูเรื่องบันเทิงเริงใจเหมือนก่อน เข้าหาธรรมะ ฟังเทศน์ฟังธรรมมากขึ้น ใจเย็น ไม่ค่อยโมโหรุนแรงเหมือนตอนหนุ่มสาว มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งต่างๆ ได้ดี เพราะไม่มีเรื่องให้ต้องคิดต้องทำมากนัก รวมถึงทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีกับลูกหลานมากขึ้นด้วย

มีหลักการง่ายๆ ในการหันมาดูแลใส่ใจตัวเองเมื่อสูงอายุขึ้น เน้นการควบคุมเรื่องการกินอาหารเป็นพิเศษ โดยกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และเป็นอาหารที่เหมาะกับโรคที่เป็นอยู่ ทั้งยังเหมาะกับผู้สูงวัยด้วย อย่าลืมเรื่องการควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่ไม่เป็นอันตราย

วัยนี้ควรงดเว้นเรื่องบุหรี่ และแอลกอฮอล์เพื่อสุขภาพที่ดีได้แล้ว อีกทั้งควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอ แม้ไม่ง่วงก็ควรงีบหลับบ้าง ออกกำลังกายแบบเบาๆ ตามกำลัง ประมาณสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละประมาณ 30 นาที และไม่ควรโหมงานหนักเหมือนสมัยหนุ่มสาว เนื่องจากผู้สูงวัยมักจะมีโรคแทรกซ้อนได้เสมอ หากดูแลตัวเองไม่ดี ดังนั้น ควรหมั่นสังเกตความผิดปกติของงตัวเองเสมอ หากสงสัยให้รีบปรึกษาแพททย์ อย่าปล่อยไว้นานจนสายเกินแก้

ดูแลจิตใจให้เป็นสุข ใช้ชีวิตอย่างสงบไม่วุ่นวายก็จะช่วยให้คุณมีจิตใจที่ดี มีร่างกายที่แข็งแรง ที่สำคัญต้องไม่กลัวหมอ ไปรับการตรวจร่างกายเป็นประจำทุกปีหรือทุก 6 เดือนก็ยิ่งดี อย่าเน้นการกินยาให้เน้นที่การดูแลตัวเอง ซึ่งเป็นวิธีการป้องกันมากกว่าการหาทางแก้

ขับถ่ายเป็นประจำทุกวัน หากมีอาการขับถ่ายได้ยากทั้งหนักและเบา ควรรีบหาทางแก้ไข อย่าปล่อยไว้นานเพราะเมื่อขับถ่ายได้ไม่ดีก็จะทำให้เกิดสารพิษตกค้างในร่างกายมาก ส่งผลให้ระบบต่างๆ ทำงานได้ไม่เต็มที่ อยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ออกไปรับแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าหรือเย็นบ้าง

ผู้สูงวัยที่มีโรคหรือมีอาการเจ็บป่วยจะต้องดูแลตัวเองอย่างใกล้ชิด เพราะเมื่อความชรามาเยือน อาการก็มักจะรุนแรงกว่าในวัยหนุ่มสาว เนื่องจากร่างกายเสื่อมลง หรือมีภูมิต้านทานน้อยลง

สุดท้ายนี้เราต้องไม่ลืมว่าความชรานั้นเป็นเรื่องที่ย่อมต้องเกิดกับทุกคน ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว ดังนั้นคุณไม่ต้องกลัวว่ามันจะเกิดขึ้น และเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนี้เองที่เราต้องหาทางรับมือกับความชราให้ได้ เมื่อนั้นความทุกข์ก็ย่อมจะไม่เกิดเพราะมีแต่ความเข้าอกเข้าใจ และบางทีอาจใช้ความชรานี้เป็นประโยชน์

เพราะความที่คุณสูงวัยมากขึ้น ก็ย่อมจะทำให้เกิดการยอมรับนับถือจากคนอื่น และยังทำให้ ณ ขณะนี้ คุณรู้สึกเพียงพอกับชีวิตแล้ว นับจากนี้ไปคุณจึงอยู่อย่างมีความสุขตามอัตภาพ ไม่เร่งร้อนวุ่นวายเหมือนเมื่อครั้งยังหนุ่มสาวอีก

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ 

เมื่อเวลาผ่านไประบบต่างๆ ย่อมเสื่อมลงตามกาลเวลา!

แชร์เทคนิค “แก่” แบบมีคุณภาพ ด้วยการทำให้สุขภาพกาย ใจ และเงิน ดี!

ความมสุขที่แท้จริงของผู้สูงวัย คือการยอมรับและทำใจกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น!!

 

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.