2. มะเร็งปากมดลูก
เกิดจากเชื้อไวรัสฮิวแมนแพปพิลโลมาหรือเชื้อเอชพีวี คนที่มีโอกาสติดเชื้อ ได้แก่ ผู้หญิงที่มีคู่นอนหลายคน มีเพศสัมพันธ์เมื่ออายุ น้อยกว่า 17 ปี หรือตั้งครรภ์เมื่ออายุน้อยหรือคลอดลูกมากกว่า 4 คน กินยา คุมกำเนิดนาน 5 – 10 ปี เคยเป็นโรคเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ เช่น เริม ซิฟิลิส หนองใน ฯลฯ รวมทั้งไม่เคยตรวจมะเร็งปากมดลูก
วิธีป้องกัน
หลีกเลี่ยงการรับสารก่อมะเร็ง หลีกเลี่ยงการมีคู่นอนหลายคน ไม่ควรมีเพศ- สัมพันธ์เมื่ออายุน้อย งดสูบบุหรี่ ฉีดวัคซีนป้องกัน ตรวจหามะเร็งปากมดลูกทุกปี ซึ่งการตรวจพบตั้งแต่ระยะแรกจะช่วยให้ผลการรักษาเป็นที่น่าพอใจ
3. มะเร็งรังไข่
ข้อมูลจากสมาคมมะเร็งนรีเวชไทยระบุว่า มักพบโรคนี้ใน ผู้หญิงที่มีอายุระหว่าง 50 – 60 ปีหรือหลังหมดประจำเดือน ผู้ที่ชอบกินอาหาร ที่มีไขมันสูง คนโสด ไม่มีลูกหรือมีลูกน้อย ผู้ที่ได้รับยากระตุ้นการตกไข่ มีความเครียด สูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือใช้แป้งที่มีส่วนผสมของ ทัลคัม (Talcum) โรยในที่อับชื้นเป็นประจำก็มีโอกาสเสี่ยงเช่นกัน
การตรวจหามะเร็งรังไข่ในระยะเริ่มแรกค่อนข้างทำได้ยาก เพราะเป็นโรคที่ ไม่แสดงอาการ ผู้ป่วยมักไปพบแพทย์ด้วยอาการปวดท้องหรือท้องโตขึ้น ฯลฯ
วิธีป้องกัน
วิธีป้องกันโรคมะเร็งรังไข่ทำได้เช่นเดียวกับโรคมะเร็งชนิดอื่นๆ คือ หลีกเลี่ยง อาหารที่มีสารก่อมะเร็ง หลีกเลี่ยงการอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีสารเคมีหรือย่าน อุตสาหกรรม ควรตรวจภายในปีละ 1 ครั้งหลังอายุ40 ปี
4. มะเร็งมดลูก
มักเกิดกับผู้หญิงวัย 45 ปีขึ้นไปซึ่งเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน ผู้ที่มีโอกาสเสี่ยงเพิ่มคือคนที่น้ำหนักเกิน เป็นโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง เป็นสาวโสดหรือแต่งงานแล้วไม่มีลูก ประจำเดือนมาตั้งแต่อายุน้อยและหมดหลัง อายุ52 ปี
วิธีป้องกัน
ควรลดความอ้วนถ้าน้ำหนักเกิน ออกกำลังกายเป็นประจำ ไม่ใช้ฮอร์โมนเพศ หญิงเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ เน้นกินอาหารที่มีประโยชน์ รสเค็มน้อย หวานน้อย กินอาหารที่มีไขมันน้อย และไม่เครียด
สาวโสดทั้งหลายรู้แล้วก็อย่ารอช้า เราจะโสด สวย สตรอง ไกลมะเร็งไปด้วยกันค่ะ
บทความน่าสนใจอื่นๆ
3 เรื่องเล่า : โศกนาฏกรรมหลัง มะเร็งเต้านม
แก้ไหล่ติด หลังตัดมะเร็งเต้านม
รักษามะเร็งเต้านม ด้วยแมคโครไบโอติกส์