พอพูดถึง ตากแดด หลายคนเบ้หน้าหนี เพราะเป็นที่รู้กันถึงอานุภาพความร้อนแรงของแดดเมืองไทย และแม้ว่าแดดเมืองไทยจะจัดจ้านขนาดไหน แต่คนไทยก็มีอัตราการขาดวิตามินดีสูงมาก ซึ่งส่งผลต่อความแข็งแรงของกระดูก รวมถึงเรื่องของภูมิคุ้มกัน ด้วย วันนนี้แอดเลยจะชวนทุกคนไปตากแดด แบบปลอดภัยกัน
ประโยชน์ของแดด
แดด เป็นของดีกับสุขภาพ ที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แถมมีให้เราตลอดด้วยนะคะ อยากรู้ว่าช่วยอะไรได้บ้าง มาดูกัน
ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม
วิตามินดีทำงานควบคู่กับวิตามินเคในการดูดซึมแคลเซียมจากอาหารเข้าสู่ร่างกาย ดังนั้นต่อให้คุณจะกินอาหารที่มีแคลเซียมครบถ้วน แต่ถ้าไม่มีวิตามินดีมาช่วย ร่างกายก็ไม่สามารถดูดซึมแคลเซียมได้เต็มที่
ลดโอกาสป่วยในเด็กเล็กและเด็กวัยเรียน
มีงานวิจัยระบุว่า เด็กเล็กและเด็กวัยเรียนที่มีโอกาสได้ออกไปวิ่งเล่นกลางแจ้งเป็นประจำทุกวัน มีอัตราเจ็บป่วยด้วยโรคที่พบบ่อยในโรงเรียน เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ท้องเสีย ภูมิแพ้ และนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลน้อยกว่าเด็กที่ไม่ค่อยได้ทำกิจกรรมกลางแจ้ง
ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด
เนื่องจากวิตามินดีกระตุ้นให้ผิวหนังปล่อยไนตริกออกไซด์ซึ่งช่วยลดความดันโลหิต ลดความเสี่ยงภาวะหัวใจวายและหลอดในสมองแตกได้
ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง
มีงานวิจัยหลายฉบับชี้ว่า ภาวะขาดวิตามินดีมีผลต่อโรคมะเร็งในทางกลับกันถ้าร่างกายได้รับวิตามินดีเพียงพอจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งได้
เตรียมตัวรับแดด
แม้แสงแดดจะดีกับสุขภาพ แต่การออกไปรับแสงแดดของเมืองไทยก็ต้องมีการเตรียมตัวนะคะ
ทาครีมกันแดด
ต้องทาครีมกันแดดที่บริเวณใบหน้าและลำคอ ก่อนออกแดดประมาณ 30 นาที เนื่องจากเป็นคอและใบหน้าเป็นผิวส่วนที่บอบบาง นอกจากนี้ควรสวมแว่นตากันแดดกรองแสง UV ได้ร้อยละ 95 และกรองแสงสว่างได้ร้อยละ 60 – 70
เปิดเผยผิวเฉพาะส่วนจำเป็น
โดยบริเวณที่เปิดล่งรับแสงแดดได้ปลอดภัยคือแขน และขา
ระยะเวลา
ใช้เวลาสั้นๆในช่วงเช้า เพียงวันละ 10 – 15 นาทีก็เพียงพอต่อการสร้างวิตามินดีใต้ผิวหนังได้แล้ว
ตากแดดไม่ได้ กินวิตามินดียังไงดี
วัยที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีความเสี่ยงในการขาดวิตามินดีมากขึ้นด้วย เนื่องจากเมื่อถึงวัย 50 ปี ความสามารถของร่างกายในการสร้างวิตามินดีจะลดลง ถ้าหากเป็นผู้สูงอายุที่ทำกิจกรรมกลางแจ้งน้อย เช่น กลุ่มผู้ป่วยเรื้อรังและผู้ป่วยติดเตียง พบปัญหาขาดวิตามินดีมากขึ้นตามไปด้วย
สำหรับกลุ่มที่ขาดวิตามิน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ จะมีการตรวจวิตามินในเลือด ซึ่งควรปรึกษาแพทย์ประจำตัว และหากต้องเสริมวิตามิน ควรจะเสริมเป็นคู่ ได้แก่ วิตามินดี 5,000 IU ควบคู่กับวิตามินเค 100 – 250 มิลลิกรัมเป็นประจำทุกวัน
