ทำอย่างไรเมื่อผิวไม่ชุ่มชื้น
ในผู้ที่มีผิวแห้งขาดน้ำ มักเกิดจากต่อมไขมัน (Sebaceous Glands) ทำงานผิดปกติ โดยผลิตน้ำมันหรือสารเคลือบผิวออกมาไม่เพียงพอ อาจมาจากการขาดวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น มีโรคหรือความผิดปกติของผิวหนัง โรคเกี่ยวกับระบบเผาผลาญไขมัน การกินยาบางชนิดที่ทำให้ต่อมไขมันทำงานลดลง จึงจำเป็น
ต้องบริโภคอาหารที่มีกรดไขมันจำเป็นวิตามินและแร่ธาตุที่เพียงพอ และใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวช่วย
วิตามินที่สำคัญคือ วิตามินอี เพราะช่วยเสริมสร้างการทำงานของต่อมไขมันได้ดีที่สุด ซึ่งสามารถบริโภคได้จากอาหารพบมากในถั่ว ผักใบเขียว และธัญพืชนอกจากนี้ยังมีวิตามินบี 5 วิตามินบี 6 สังกะสี และซีลีเนียม ซึ่งเป็นโคเอนไซม์ที่ช่วยให้ต่อมไขมันทำงานเป็นปกติ จึงควรบริโภคอาหารให้หลากหลาย เพื่อให้ได้สารอาหารครบถ้วน
เช่นเดียวกันกับผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ซึ่งต้องมีคุณสมบัติคล้ายต่อมไขมัน หรือสามารถทดแทนต่อมไขมันดังกล่าวได้ เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีกรดไขมัน (Fatty Acid) เซราไมด์ (Ceramide) และสควาเลน (Squalane) ที่กล่าวไปเมื่อตอนที่แล้ว รวมถึงการใช้วิตามินและแร่ธาตุเป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์นั้นๆ ให้ร่างกายได้รับผ่านการดูดซึมทางผิวหนังด้วย
ปกป้องผิวจากสภาพอากาศ
แม้ในบ้านเราจะมีอากาศร้อน ไม่หนาวเย็นเหมือนต่างประเทศ แต่อากาศร้อนก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น เนื่องจากเมื่ออากาศร้อน ร่างกายต้องระบายความร้อนผ่านเหงื่อ ถ้าเราไม่สวมเสื้อผ้าคลุมผิวไว้ความชื้นที่ร่างกายขับออกมาก็จะระเหยออกไปอย่างรวดเร็ว ยิ่งทำให้ร่างกาย
ต้องขับเหงื่อออกมาอีก อีกทั้งรังสียูวีที่สามารถทำร้ายผิวได้สารพัด ยิ่งกระตุ้นให้ผิวสูญเสียน้ำมากขึ้น
ดังนั้นเราจึงควรสวมเสื้อผ้าเพื่อปกป้องผิวและรักษาความชุ่มชื้นไว้ เพราะนอกจากจะช่วยไม่ให้เหงื่อระเหยไวแล้ว ยังช่วยป้องกันรังสียูวีได้ด้วย และถ้าหากทามอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของสารกันแดด จะยิ่งช่วยให้ผิวรับมือกับอากาศร้อนได้ดียิ่งขึ้น
ที่สำคัญ หากสูญเสียน้ำจากร่างกายไปมาก อย่าลืมดื่มน้ำทดแทนให้เพียงพอด้วย
จาก คอลัมน์ BEAUTY REMEDIES นิตยสารชีวจิต ฉบับ 441 – 442
บทความน่าสนใจอื่นๆ
เทคนิค ทำความสะอาดผิวหน้า เพื่อผิวกระจ่างใส แบบสาวญี่ปุ่น
