เป็นมะเร็ง

แม้ เป็นมะเร็ง ก็สามารถ ถึงฝั่งฝันได้

เป็นมะเร็ง โดยไม่รู้ตัว

เป็นมะเร็ง สำหรับใครหลายคนที่ได้ยินคำนี้ อาจจะรู้สึกห่อเหี่ยว ด้วยคิดว่าหมดสิ้นหนทางที่จะอยู่รอด ทว่าสำหรับเธอแล้ว จะไม่ยอมให้เจ้าโรคร้ายนี้มาเบียดบังความสุขในชีวิตประจำวันของเธออย่างเด็ดขาด

ค่ำวันนี้ฝน-ปณิธี ป้อมทองคำ สาวน้อยวัย 14 มีความสุขมาก ด้วยเพราะสมาชิกทุกคนในบ้านต่างอยู่กันพร้อมหน้า แต่แล้วความสุขที่กำลังค่อยๆก่อตัวขึ้นกลับต้องสะดุดลง เพราะบทสนทนาหลังมื้อค่ำ

“ฝน…นั่นก้อนอะไรนูนๆน่ะ เจ็บหรือเปล่า” อาสาวเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก เมื่อสายตาบังเอิญเหลือบไปเห็นก้อนเนื้อปูดนูนขึ้นที่บริเวณต้นคอของหลานสาว

“เปล่านี่คะ ฝนไม่เห็นรู้สึกเจ็บอะไรเลย”ปากบอกเหมือนไม่กังวล หากมือกลับป่ายเปะปะคลำหาสิ่งที่ถูกทักมือไม้สั่น

“แต่อาว่าฝนควรจะไปหาหมอนะ เผื่อเป็นอะไรจะได้หาทางรักษาได้ทัน แต่ถ้าไม่เป็นอะไรเราจะได้สบายใจยังไงล่ะ” อาสาวพยายามพูดกระตุ้นเตือน ด้วยหวังให้เธอรีบไปตรวจเช็คให้แน่ใจ และเธอก็ทำตาม

“หมอขอแนะนำให้หนูเข้ารับการผ่าตัดทันทีเลยนะ ปล่อยเอาไว้จะอันตราย เพราะก้อนเนื้อที่บริเวณคอของหนูคือมะเร็งไทรอยด์” คุณหมอกล่าว

 

คลิกเพื่ออ่านต่อหน้าถัดไป

เป็นมะเร็ง…ไม่รู้ตัว

ด้วยความที่เป็นเด็กรักเรียน ซึ่งมีผลการเรียนอยู่ในระดับที่ดีมาโดยตลอด ดังนั้นเธอจึงมุ่งมั่นเรื่องเรีนยจนบางครั้งทำให้ละเลยเรื่องสุขภาพของตัวเองไปบ้าง

“มีหน้าที่เรียนอย่างเดียว ไม่มีเรื่องอื่นๆให้ต้องกังวล มาเริ่มรู้ตัวว่ามีก้อนที่คอก็ตอนเรียนอยู่ชั้นม.3 แล้ว แต่ไม่ได้กังวล เพราะไม่รู้สึกเจ็บอะไรเลย และไม่คิดว่าจะมีผลกระทบกับชีวิตประจำวันของตัวเอง อีกอย่างตอนนั้นเรายังเด็กมาก ไม่รู้ว่าสิ่งที่เป็นนั้นอันตรายมากน้อยแค่ไหน จึงยังคงใช้ชีวิตตามปกติเหมือนที่เคยเป็นมา

ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีความรู้สึกประหวั่นพรั่นพรึงกับความผิดปกติที่เกิดขึ้น หากทันทีที่คุณหมอระบุว่า ก้อนที่ตรวจเจอบริเวณลำคอของเธอนั้นไม่ใช่ก้อนเนื้อธรรมดา ทว่ามันคือมะเร็งไทรอยด์ ความงุนงงระคนสับสนก็ก่อตัวขึ้นแทนที่ ด้วยไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจกับเรื่องร้ายนี้แม้แต่น้อย

“แวบแรกรู้สึกว่าทำไมต้องเป็นเราด้วย เพราะแทบไม่ได้ทำตัวเสี่ยงต่อโรคนี้เลย ทั้งเรื่องอาหารการกิน ซึ่งเป็นอาหารทางเหนือ แม้ไม่ได้เป็นอาหารสุขภาพเสียทีเดียว แต่เราก็กินเหมือนคนอื่นทั่วไป แถมยังอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีมาก ทั้งคนรอบข้างและบรรยากาศรอบตัว อย่างที่รู้กันว่าบรรยากาศแถวเมืองเหนือนั้นเอื้อต่อการมีสุขภาพที่ดี”

“ถ้าจะเครียดก็คงเป็นเรื่องเรียนมากกว่า”

จากนั้นคุณหมอก็สั่งเข้ารับการผ่าตัดทันที และอยู่รักษาตัวที่โรงพยาบาลหนึ่งเดือนเต็ม ก่อนอนุญาตให้กลับไปพักฟื้นที่บ้านได้

 

คลิกเพื่ออ่านต่อหน้าถัดไป

เพราะมีเป้าหมายชีวิตจึงฮึดสู้

“หลังจากมีเวลาไตร่ตรองถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ก็คิดได้ว่าทุกคนล้วนมีกรรมเป็นของตัวเอง อย่างเราเองก็มีกรรม เมื่อชาติที่แล้วเราอาจจะเคยไปทำอะไรใครไว้ แล้วเขากลับมาเอาคืนในชาตินี้ก็ได้ ทางที่ดีคือพยายามรักษาตัวเองให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ คือให้ตระหนักรู้อยู่ตลอดเวลาว่ามันอยู่กับเรา เพื่อความไม่ประมาทในการดำเนินชีวิต แต่พยายามไม่หมกมุ่นจนลิดรอนกำลังใจของเรา เพราะลำพังที่เป็นโรคนี้ก็ถือว่าเป็นกรรมอย่างหนึ่งแล้ว ดังนั้นจึงพยายามบอกตัวเองว่าจะไม่ยอมให้เจ้าโรคร้ายนี้มาเป็นตัวฉุดรั้งชีวิตเราให้ตกต่ำเด็ดขาด”

“ที่สำคัญตอนที่เข้าโรงพยาบาลได้รับกำลังใจที่ดีมากๆ ทั้งพ่อแม่ อา ญาติ และเพื่อนๆ ซึ่งกำลังใจมีส่วนสำคัญที่ทำให้เราไม่เฝ้าหมกมุ่นกับเรื่องที่เกิดขึ้นเท่าไร เลยบอกตัวเองว่าในช่วงชีวิตนี้มีอะไรให้ทำอีกตั้งเยอะแยะ พยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดดีกว่า โดยเฉพาะเรื่องเรียน ถ้าเรามัวแต่คิดมาก แล้วเราจะได้ทำในสิ่งที่ต้องการหรือ ดังนั้นจึงตั้งเป้าหมายชีวิตและบอกตัวเองว่าต้องทำให้ได้”

เด็กดื้อยอมสยบให้ชีวจิต

“หลังออกจากโรงพยาบาลแล้วยังไม่รู้จักชีวจิต แต่ก็ดูแลตัวเองให้ดีที่สุดตามที่คุณหมอบอก ส่วนคุณแม่ก็อ่านหนังสือแล้วนำมาดูแล เพราะท่านอ่านหนังสือเยอะ จนกระทั่งไปเจอหนังสือชีวจิต ท่านก็พยายามศึกษาเรื่องราวต่างๆที่เกี่ยวกับชีวจิตเพื่อมาดูแล เพราะอยากให้หายขาด โดยเฉพาะเรื่องอาหาร จะปรับอาหารที่บ้านให้เป็นอาหารสุขภาพมากขึ้น

“ปกติคุณแม่จะรู้ดีว่าเราดื้อมากๆ ไม่ยอมเชื่ออะไรง่ายๆ ท่านก็พยายามทำทุกวิธี โน้มน้าวสารพัด ทั้งแนะนำให้ทำตาม ทั้งทำให้ดู คือจะทดลองทำให้ดูก่อนทุกอย่าง เช่น การทำดีท็อกซ์ท่านบอกว่าทำแล้วดีนะ โล่ง เบา สบายตัว และโดยเฉพาะเรื่องอาหาร ท่านจะบอกว่ามีอาหารชีวจิตนะ ต้องกินอย่างนั้นอย่างนี้นะ ซึ่งก็ค่อยๆปรับตัวไปทีละนิด”

“ตอนนี้เป็นชีวจิตร้อยเปอร์เซ็นต์ ทำดีท็อกซ์ตอนเช้า ต้มน้ำอาร์.ซี.ไปดื่มที่ทำงานด้วย (ตอนนี้เธอได้เป็นสถาปนิกตามที่ใฝ่ฝัน) ทำน้ำเอนไซม์เอง มีเวลาก็พยายามออกกำลังกาย โดยเฉพาะเรื่องอาหาร จะเน้นเมนูที่เป็นผักมากขึ้น”

“ส่วนผลพลอยได้จากการใช้ชีวิตแบบชีวจิตคือหน้าใสขึ้น ไม่ค่อยมีสิวเหมือนเมื่อก่อน รู้สึกเนื้อตัวสะอาดขึ้น หรืออย่างเมื่อก่อนเป็นหวัดบ่อยมาก จามเป็นประจำ แต่ตอนนี้ไม่ค่อยเป็น ที่สำคัญเคยเป็นภูมิแพ้ ถึงหน้าหนาวทีไรผื่นจะขึ้นบริเวณคอทุกที ปีนี้ก็หนาวนะ แต่ไม่มีอาการ ภูมิแพ้หายไปเลย เชื่อแล้วค่ะว่า ชีวจิตช่วยได้เยอะจริงๆ”

ข้อมูลเรื่อง “แม้เป็นมะเร็ง ก็สามารถ ถึงฝั่งฝันได้” จากนิตยสารชีวจิต

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.