ตกทอง ออนไลน์ - สูญเงินเพราะรูปถ่ายบัตร เรื่องที่คุณต้องรู้ !

โลก ออนไลน์ ร้ายกว่าที่คิด

ภัยจากโลก ออนไลน์ ยังคงเป็นประเด็นอยู่เรื่อยๆ ไม่เคยหายไป จากการขโมยล่อลวงเงินในบัญชีผ่านการสนทนาในเฟชบุ๊ค สร้างความเสียหายให้แก่เจ้าของเงินเป็นอย่างมาก เราจึงยก 2 กรณีจากความเสียหายในโลกออนไลน์ มาเตือนคุณผู้อ่าน เพื่อเป็นอุทาหรณ์ก่อนคิดจะเชื่อใจคนในโลกออนไลน์ค่ะ

กรณีแรกเป็นกรณีที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง อย่างกรณี ตกทองในเฟสบุ๊ค คือการหลอกขายทองปลอมผ่านทางเฟสบุ๊ค โดยใช้วิธีการเปิดเฟสบุ๊คเพื่อสร้างกลุ่มประมูลทองคำ ราคาต่ำกว่าในท้องตลาด ในครั้งแรกจะส่งทองจริงให้ลูกค้า เพื่อทำให้ลูกค้าตายใจ กลับมาประมูลทองคำในมูลค่าที่สูงกว่าเดิม หลังจากนั้นจะหายเงียบไปไม่ส่งทองให้อีกเลย

พ.ต.อ.พันธนะ นุชรารถ รองผู้บังคับการปราบปราม กล่าวว่า เตือนประชาชนที่คิดจะซื้อขายทองคำ เพื่อความมั่นใจและไม่เป็นการเสี่ยงต่อการโดนหลอก ควรนำทองคำไปตรวจสอบที่ร้านขายทอง ซึ่งทางที่ดีไม่ควรซื้อทองคำผ่านทางเฟสบุ้ค เพราะเป็นการเสี่ยงที่จะโดนหลอกอย่างมาก

กรณีที่สองเป็นของนายพันธุ์สุธี มีลือกิจ อายุ 28 ปี พ่อค้าร้านประดับยนต์ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถูกกลุ่มคนร้ายที่มาในคราบลูกค้าทำทีสั่งซื้ออุปกรณ์ประดับยนต์ ก่อนขอเลขบัญชี และอ้างถึงการยืนยันตัวตนของทางเจ้าของร้าน โดยการให้ส่ง ภาพหน้าบัตรประชาชน ไป โดยทางเจ้าของร้านปิดเลขบัตรประชาชน 13 หลักไว้ แต่ไม่ได้ปิดแถบ บาร์โค้ดทางด้านซ้ายมือไว้ ทำให้คนร้ายนำข้อมูลเหล่านี้ไป ทำธุรกรรมกับค่ายมือถือ แล้วถอนเงินจากบัญชีเจ้าของไปเป็นจำนวนถึง 986,700 บาท ขณะนี้ทางธนาคารกสิกรไทยได้คืนเงินให้เจ้าของเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

คนจำนวนมากไม่ทราบว่า รหัสบัตรประชาชน 13 หลัก และแถบบาร์โค้ดด้านซ้ายมือ เป็นข้อมูลสำคัญ เพราะคนร้ายสามารถใช้แอปพลิเคชัน สแกนค้นหาเลขประจำตัวประชาชนที่แท้จริงได้ ดังนั้นควรเบลอภาพก่อนส่งไปให้ใคร

สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ได้บอกถึงวิธีการเซ็นชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง ในบัตรประชาชนไว้ดังนี้

การเซ็นชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง จะใช้วิธีขีดเส้นคร่อมบนตัวสำเนาหรือไม่ขีดก็ได้ เนื่องจากการขีดคร่อม บนสำเนาเอกสารนั้นไม่ได้มีกำหนดไว้ในกฎหมาย แต่วิธีนี้อาจเป็นหนึ่งในวิธีป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพ นำสำเนาเอกสารนั้นไปใช้ประโยชน์ได้ หากการขีดคร่อมทำไม่ถูก อาจส่งผลให้สำเนาเอกสารฉบับนั้น ไม่สามารถใช้ได้ตามกฎหมาย หรือกลายเป็นการขีดฆ่าเอกสารทิ้ง
ทุกครั้งหลังการเซ็นชื่อ เขียนข้อความรับรองสำเนาถูกต้องแล้ว จากนั้นให้เขียนว่า เอกสารฉบับนั้นใช้ทำสำหรับเรื่องอะไร เช่น ใช้เฉพาะในการสมัครงานเท่านั้น หรือ ใช้สำหรับติดต่อเรื่อง … เท่านั้น
นอกจากจะเขียนรายละเอียดกำกับแล้ว ควรระบุ วัน เดือน ปี ของวันที่ยื่นเรื่อง ลงบนสำเนาเอกสาร เพื่อจะช่วยกำหนดอายุของการใช้สำเนาเหล่านี้ได้
ต้องเขียนข้อความทั้งหมดนี้ ลงบนสำเนาส่วนที่เป็นบัตรประชนหรือสำเนาทะเบียนบ้าน เพื่อยากต่อการปลอมแปลงเอกสาร แต่ระวังอย่าให้ทับชื่อ – นามสกุล วันเดือนปีเกิด
ต้องเป็นปากกาหมึกดำเท่านั้น เพราะเครื่องถ่ายเอกสารบางชนิด สามารถดึงหมึกสีน้ำเงินออกได้