ดอกคำฝอย
เป็นสมุนไพรที่ช่วยขับเลือด ชนิดที่นำมาจากทิเบต เรียกว่าจ้างหงฮวา ชนิดนี้ออกฤทธิ์รุนแรง เมื่อนำมาชงเป็นชาจะใช้เพียง 2 ก้านก็ออกสีแดงเข้ม แต่ห้ามใช้ในคนท้องเด็ดขาดแม้เพียงสูดดมก็อาจทำให้แท้งได้ เพราะมีฤทธิ์ขับเลือด ส่วนการใช้ดอกคำฝอยในบ้านเราชงชาจะใช้อัตราส่วนดอกคำฝอย1 ช้อนชาต่อน้ำร้อน 1 แก้ว หรือประมาณ 400 ซีซี
กุหลาบ
ก็เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ในการขับเลือดและช่วยคลายเครียดด้วยวิธีชงเป็นชาคือ ใช้ดอกกุหลาบ 5 – 7 ดอกต่อน้ำร้อน 400 ซีซี เทคนิคในการดื่มน้ำชากุหลาบคือ ควรใส่ดอกกุหลาบในแก้วใสเพื่อให้มองเห็นสีสันสวยงาม ก่อนดื่มให้สูดกลิ่นก่อนแล้วค่อยดื่มน้ำชา จะช่วยลดความเครียดได้
ส่วนผู้ที่มีภาวะเย็นสามารถจิบน้ำขิงได้โดยใช้ขิงประมาณ 1-2 แง่ง ต้มกับน้ำ 1 ลิตรใส่น้ำตาลทรายแดงเล็กน้อย ดื่มแก้อาการขี้หนาว ลดอาการคลื่นไส้อาเจียนได้
ช่วงประจำเดือนมา 3 – 7 วัน ผู้มีภาวะเลือดคั่ง ให้ตรวจสอบว่าประจำเดือนมามากหรือไม่ ถ้ามามากแล้วไม่ควรดื่มชาเพิ่มเติม เพราะสมุนไพรจะยิ่งขับประจำเดือนให้ออกมามากขึ้น แต่ถ้ารู้สึกว่าประจำเดือนมาน้อยก็สามารถดื่มชาสมุนไพรเพื่อขับประจำเดือนไม่ให้คั่งค้างอยู่ภายในได้ ส่วนผู้ที่มีภาวะชี่เลือดน้อย ถ้ารู้สึกว่าประจำเดือนมามาก หรือใครที่มีอาการปวดศีรษะ มึนงง ควรบำรุงเลือด สมุนไพรที่ช่วยบำรุงเลือดได้ เช่น พุทราจีน โดยใช้พุทราจีนลูกเล็กไม่เกิน 10 ลูก ลูกใหญ่ไม่เกิน 7 ลูก ต้มกับน้ำ 1 ลิตร อาจเติมน้ำตาลทรายแดงเล็กน้อย และสามารถดื่มน้ำขิงเพื่อบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือนได้
ช่วงหมดประจำเดือนไปแล้ว 7 วันทั้งผู้ที่มีภาวะเลือดคั่งและภาวะชี่เลือดน้อยที่ต้องการบำรุงเลือด ควรใช้สมุนไพรที่มีฤทธิ์ในการบำรุงชี่คือลูกเดือยอุ่นร่างกายส่วนกระเพาะอาหารคือขิง บำรุงเลือดอย่างพุทราจีนดังที่ได้กล่าวไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีอาหารบำรุงเลือด เช่น ถั่วแดง ขิงโดยเราสามารถนำพุทราจีน ถั่วแดง ขิงมาต้มรวมกันในอัตราส่วน พุทราจีนลูกเล็ก7 ลูก ถั่วแดง 1-2 ถ้วย ขิง 1-2 แง่ง น้ำตาล-ทรายแดง 1 ช้อนโต๊ะ โดยต้มดื่มทั้งน้ำทั้งเนื้อสำหรับผู้มีลูกยากก็สามารถใช้สมุนไพรและอาหารสูตรนี้บวกถั่วดำ งาดำ บำรุงไตเพื่อปรับฮอร์โมนก็จะช่วยให้มีลูกได้ง่ายขึ้น
