โภชนาการของคุณแม่ลูกอ่อนที่ต้องทำงาน
คุณแม่ทำงานที่มีลูกอ่อนควรกินอาหารให้ร่างกายได้รับพลังงานเพิ่มขึ้นจากเดิม 500 กิโลแคลอรี เช่น ก่อนตั้งครรภ์ได้รับพลังงาน 2,000 กิโลแคลอรี เมื่อเป็นคุณแม่ลูกอ่อนที่ต้องให้นมควรได้รับพลังงาน 2,500 กิโลแคลอรี นอกจากนี้ควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และดื่มน้ำวันละ 2 ลิตรร่วมด้วย
มีเมนูที่ช่วยบำรุงน้ำนมและเพิ่มพลังงานสำหรับคุณแม่ทำงานที่มีลูกอ่อนมาแนะนำ คือ เมนูผัดกะเพราฟักทอง ที่นอกจากเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกายแล้ว ยังช่วยกระตุ้นน้ำนมอีกด้วย
ผัดกะเพราฟักทอง
ส่วนผสม
ฟักทองปอกเปลือกหั่นชิ้นพอคำ 1 ถ้วย
ใบกะเพรา 1 ถ้วย
กุ้งแกะเปลือกดึงเส้นดำกลางหลังออก 5 ตัว
พริกขี้หนู 5 เม็ด
กระเทียม 1 หัวเล็ก
รากผักชี 2 ราก
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลไม่ขัดสี 1 ช้อนชา
น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
ตำพริกขี้หนู กระเทียม และรากผักชีรวมกัน พักไว้ จากนั้นตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพอร้อน ใส่เครื่องที่ตำรวมกันลงไปผัดจนมีกลิ่นหอม ใส่ฟักทองลงผัด ตามด้วยกุ้ง เติมน้ำเล็กน้อย ผัดจนฟักทองสุก ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ใส่ใบกะเพราผัดต่อสักครู่ ตักขึ้น เสิร์ฟพร้อมข้าวกล้องร้อนๆ
ทำไมเกิดเป็นผู้หญิงจึงต้อง อึด ถึก ทน
แพทย์หญิงชัญ วลี ศรีสุโข สูตินรีแพทย์โรงพยาบาลประจำจังหวัดพิจิตร อธิบายถึงสุขภาพผู้หญิงและบทบาทหน้าที่ที่ต่างไปจากอดีตว่า
“เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจ ผู้หญิงไทยจึงจำเป็นต้องออกไปหารายได้ ซึ่งสามารถจำแนกสถานะของผู้หญิงไทยได้3 สถานะ คือ แม่ เมีย และคนหารายได้ ต้องให้คำนิยามผู้หญิงไทยว่า มือก็ไกวดาบก็แกว่ง เท้า (ตีน) ก็ไกวเปล
“มีงานวิจัยยืนยันชัดเจนว่า การที่ผู้หญิงทำงานหลายบทบาท ส่งผลให้ผู้หญิงมีความเครียดมากกว่าผู้ชาย ผู้หญิงทำงานจึงมีภาวะซึมเศร้ามากกว่าผู้ชายแต่อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงในการฆ่าตัวตายของผู้หญิงนั้นมีน้อยกว่าผู้ชาย”
นอกจากนี้คุณหมอชัญวลียังอธิบายเหตุผลที่ผู้หญิงนั้นอายุยืนและมีความอดทนมากกว่าผู้ชายว่า
“ผู้หญิงมีอายุยืนกว่าผู้ชาย เนื่องจากผู้หญิงมีโครโมโซมเอกซ์(X) ซึ่งเป็นโครโมโซมที่แข็งแรงกว่าโครโมโซมวาย (Y) ซึ่งเป็นโครโมโซมของผู้ชาย เห็นได้จากโครโมโซมเอกซ์ของอสุจิจะทนต่อความร้อน เย็นสารพิษได้ดีกว่าโครโมโซมวาย ฉะนั้นผู้หญิงจึงมีความอดทนตั้งแต่ระดับพันธุกรรม รวมถึงผู้หญิงไม่มีพฤติกรรมโลดโผนเหมือนผู้ชายที่กินเหล้า สูบบุหรี่จึงมีอายุยืนยาวกว่า
“ถึงแม้จะมีความอดทนเป็นเนื้อแท้ แต่การรับบทบาทที่หลากหลายทั้ง 3 สถานะ หรืออาจเรียกว่าแบกโลกไว้เกินครึ่งนี้ ผู้หญิงจึงจำเป็นต้องบาลานซ์ (Balance) หรือสร้างความสมดุลต่อบทบาททั้ง 3 ด้านนี้ให้ดี การบาลานซ์ไม่ได้หมายความว่าต้องให้เวลาที่เท่ากัน แต่หมายถึงต้องบริหารบทบาททั้ง 3 สถานะนี้ให้สมดุลเพื่อไม่ให้ผู้หญิงเกิดความเหนื่อยทั้งกายและใจดังนั้นจำเป็นต้องเพิ่มสถานะที่ 4 คือสถานะในการดูแลตัวเองลงไปด้วย”
เพราะผู้หญิงอย่างเราคือเสาหลักอีกต้นของครอบครัว ไม่ว่าจะรับบทบาทใด ทุกหน้าที่ล้วนมีความสำคัญ ขอให้ภูมิใจและไม่ลืมดูแลตัวเองด้วยการเลือกกินอาหารสุขภาพ เพียงเท่านี้จะงานนอกบ้านหรือในบ้านก็รับมือได้สบายค่ะ
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ประสบการณ์สุขภาพ : เมื่อคุณแม่เป็นความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ (มีคำแนะนำ)
เชียงใหม่ พบผู้ติด เชื้อไวรัสซิกา รายใหม่ เตือน! หญิงตั้งครรภ์ ตรวจหาเชื้อด่วน
ยอดคนติด เชื้อไวรัสซิกา พุ่งสูง หนึ่งในนั้นมีหญิงตั้งครรภ์ร่วมด้วย