ตัวอย่างตารางดูแลตัวเองประจำวันของพี่อ้อย
05.30 น. ตื่นนอน ดื่มน้ำอาร์ซี (RC) เข้าห้องน้ำ ทำดีท๊อกซ์ รำกระบอง 15 นาที
เข้าห้องพระสวดมนต์ทำสมาธิ (เท่าที่มีเวลา)
ลงมาเปิดร้าน (ร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง) ทำอาหาร เริ่มต้นด้วยสลัด ให้คนในครอบครัว
ทานมื้อเช้า เริ่มด้วยสลัดราดโยเกิร์ตรสธรรมชาติ (สำหรับสามีจะเป็นสูตรโยเกิร์ตรสธรรมชาติ ผสมน้ำมันมะกอก น้ำผึ้ง) แล้วก็จะตามด้วยข้าวกล้องกับผัดผัก เช่น ผัดบวบ ผัดผักบุ้ง เป็นต้น สำหรับผักสลัด จะใช้ผักออร์แกนิค
หลังจากนั้นจะทำงานที่บ้าน
12.00 ทำอาหารให้ครอบครัว แล้วก็ไปทำงานต่างๆ ต่อ
17.00 เดินออกกำลังกาย 20 นาทีด้วยความเร็วธรรมดา เสร็จแล้วกลับมาทานข้าวเย็น
18.00 ทานข้าวเย็น เริ่มด้วยสลัด ทานข้าวกล้องเล็กน้อยครึ่งถึงหนึ่งทัพพี บางวันก็กับผัดแตง ผัดคื่นช่ายใส่ปลาใส่ขิง พักใหญ่ ค่อยไปอาบน้ำ
20.00 เข้าห้องพระ นั่งสมาธิ
21.30 เข้านอน แต่ช่วงที่เลี้ยงหลาน อาจจะดึกหน่อย เข้านอน 22.30 น.
ชีวจิต
คนชอบเข้าใจผิดว่าชีวจิตสำหรับคนป่วย สำหรับคนเป็นมะเร็งเท่านั้น พี่อ้อยบอกเลยว่าไม่ใช่ ชีวจิตเป็นการดูแลสุขภาพทั้งด้านร่างกายและจิตใจ อย่างที่คำว่า ชีวจิต รวมเอา “ชีว” ซึ่งหมายถึง “กาย” เข้ากับจิต ที่หมายถึง “ใจ” ซึ่งสองส่วนนี้มีผลต่อกัน แยกจากกันไม่ได้
แนวทางชีวจิตเหมาะสำหรับคนทุกคนที่รักสุขภาพ อยากให้สุขภาพแข็งแรง ท่านอาจารย์สาทิสบอกว่าการบำรุงสุขภาพแบบชีวจิตคือการดูแลภูมิชีวิต ( Immune System) ให้แข็งแรง จะไม่เจ็บไข้ได้ป่วยง่าย และต้องกิน นอน ทำงาน พักผ่อน ออกกำลังกาย ในปริมาณที่พอเหมาะ เราก็ดูแลตัวเองในแนวทางนี้มาตลอด
ถ้าคุณอยากแข็งแรง ดูดี รู้สึกเป็นหนุ่มเป็นสาว ถึงอายุมากขึ้นแล้วก็ยังแข็งแรงกระฉับกระเฉง คุณควรจะหันมาดูแลตัวเองในวิถีชีวจิต จะมีครบทุกอย่าง
สืบสานปณิธานชีวจิต
ทุกวันนี้นอกจากนำชีวจิตมาใช้เป็นหลักในการดูแลสุขภาพตัวเองและคนในครอบครัวแล้ว พี่ยังเผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับชีวจิตตามแนวทางที่ได้รับจากท่านอาจารย์สาทิส อินทรกำแหง พี่อ้อยเป็นประธานชมรมชีวจิตจังหวัดขอนแก่น รับเชิญไปพูดผ่านสื่อวิทยุท้องถิ่นไ นำรำกระบอง และเป็นวิทยากรรับเชิญในหลักสูตร “โครงการดูแลสุขภาพกายและใจให้ได้ด้วยตนเอง เทศบาลนครขอนแก่น” ซึ่งจัดที่วารีวัลเล่ย์รีสอร์ท ขอนแก่น จุดประสงค์เพื่อพัฒนาด้านสุขภาพให้กับบุคลากร เพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คอร์สสุขภาพที่จัด จัดในลักษณะ LEARNING BY DOING คือ เรียนรู้จากการลงมือทำ ระยะเวลาคือ 3 วัน 2 คืน ระยะเวลานี้กำลังดี เพราะถ้าสั้นกว่านี้อาจจะสั้นไป แต่ถ้ายาวกว่านี้ก็จะนานเกินไป ทำไม่ไหว (หัวเราะ)
ในคอร์สก็จะมีตั้งแต่การนำสวดมนต์ทำสมาธิ การดื่มน้ำอาร์ซี การรำกระบอง การสอนทำอาหารชีวจิต ทานข้าวร่วมกัน เทเบิลทอล์ค (การผลัดกันขึ้นเล่าความในใจที่อยากจะบอกแก่ผู้ร่วมคอร์ส จุดประสงค์คือเพื่อทำความรู้จัก สร้างความไว้วางใจ และให้กำลังใจแก่กันและกัน) รวมไปถึงแนะนำวิธีทำดีท๊อกซ์
สตาฟในทีมที่พี่อ้อยเลือกมาทำงาน จะเลือกจากคนที่มีประสบการณ์เจ็บป่วย เพื่อให้เขาได้เรียนรู้วิธีการดูแลตัวเองไปด้วย การมาทำงานด้วยกัน ใกล้ชิดกัน ทำให้เรามีความสุข ยิ่งได้พบปะกับผู้ที่มาเข้าคอร์ส แล้วนำกลับไปปฏิบัติจนหายจากโรคภัยไข้เจ็บ หรือมีสุขภาพที่ดีขึ้น ยิ่งทำให้เรามีความสุข พี่รู้สึกดีต่อทุกคนที่เข้ามา
พี่อ้อยอยากเห็นแนวทางชีวจิตดำรงอยู่ต่อไปอย่างยั่งยืนแม้ว่าวันนี้ท่านอาจารย์สาทิสจะไม่อยู่กับพวกเราแล้ว เพราะสำหรับพี่อ้อยแล้ว ศาสตร์ในการดูแลตัวเองแบบนี้ คือของจริง ซึ่งทำได้ง่ายที่สุดแล้ว
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
3 ประสบการณ์สุขภาพ ออกกำลังกายสู้ภูมิแพ้สำเร็จ
รับมือหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ฉบับคนทำงาน
ความดันโลหิตสูงเพราะดื่มกาแฟสด (มีคำแนะนำ)
เมื่อคุณแม่เป็นความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ (มีคำแนะนำ)
