เมื่อเป็นเช่นนี้คุณโอ๋จึงตัดสินใจเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตและแก้นิสัยการทำงานเดิมๆเสียใหม่ โดยระมัดระวังการทำกิจกรรมที่ต้องใช้หลัง เรียนรู้ท่ายกของอย่างถูกวิธี ที่สำคัญคือ เพิ่มกิจกรรมโยคะเข้ามาในตารางชีวิต
“การเล่นโยคะช่วยได้เยอะมากครับ เพราะเป็นการยืดกล้ามเนื้อเส้นเอ็นต่างๆ เพิ่มความยืดหยุ่นและแข็งแรงให้กับร่างกาย ช่วยคลายปวดเมื่อย และลดภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็งล้าสะสม เมื่อกล้ามเนื้อที่อยู่รอบๆกระดูกแข็งแรง กระดูกก็จะอยู่ถูกที่ถูกทาง แข็งแรงไปด้วยครับ ตอนนี้ถ้าหยุดเล่นจะรู้สึกตึงๆ ไม่คล่องแคล่ว จึงเล่นโยคะมาตลอด
“สุดท้ายผมคิดว่าทุกคนควรรู้ขีดจำกัดของร่างกายตนเองว่าใช้งานได้มากน้อยแค่ไหน ไม่มองข้ามสัญญาณเตือนต่างๆ อย่างผมที่ละเลยอาการเล็กๆน้อยๆจนมารู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ ถึงจะไม่ได้ร้ายแรงอะไร แต่การผ่าตัดและพักฟื้นหนึ่งครั้งก็ทำให้สูญเสียเวลาชีวิตไปไม่น้อยเลยครับ”
และนี่คือประสบการณ์ตรงจากหนุ่มออฟฟิศที่ออกมายืนยันว่า พฤติกรรมการทำงานผิดๆ ส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ไม่น้อย แต่เมื่อรู้ตัวก็แก้ไขอย่างจริงจัง เขาจึงประสบความสำเร็จและกลับมาเป็นหนุ่มแอ๊คทีฟได้อีกครั้ง
คำอธิบาย สภาพกระดูกของคนวัยทำงาน
วัยทำงานคือคนในช่วงอายุระหว่าง 23 – 45 ปี โดยประมาณ โดยสามารถแยกเป็นช่วงก่อนอายุ 30 ปี ซึ่งเรียกว่า เป็นเวลาแห่งการสะสมค่ามวลกระดูกสูงสุด (Peak Bone Mass) และไม่สามารถระบุได้ว่า ค่านี้จะมีตัวเลขสูงสุดอยู่ที่อายุเท่าใด แต่หากอายุเกิน 30 ปีเมื่อใด ก็หมดสิทธิ์ในการเก็บสะสมกระดูกในช่วงอายุนี้จะอยู่ในภาวะสมดุล มีกระบวนการสร้างมวลกระดูก ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ สลายมวลกระดูก แล้วก็สร้างขึ้นมาอีกซ้ำๆอยู่เช่นนี้
โดยการซ่อมและสลายจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการดูแลตนเอง หากปล่อยให้มีการสลายมากกว่าการสร้าง เมื่ออายุเยอะก็มีโอกาสที่จะเกิดภาวะกระดูกเสื่อมได้เร็วขึ้น
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
กระดูกพรุนในผู้สูงวัย ปัญหาใหญ่ที่ไม่ควรละเลย เช็กก่อนสาย เตรียมรับมือก่อนวิกฤต
เคล็ดลับกินลูกเดือย ป้องกันกระดูกพรุน มะเร็ง เบาหวาน
ฟังเสียงจากข้อส่อ โรคกระดูกเสื่อม