3 ขั้นตอนก่อนเข้าครัว
ศูนย์โภชนาการอาหารและสุขภาพ (The Center for Nutrition, Diet and Health) มหาวิทยาลัยแห่งเขตปกครองพิเศษโคลัมเบีย (University of the District of Columbia) ประเทศสหรัฐอเมริกา แนะวิธีซื้อและเตรียมปวยเล้งก่อนปรุงอาหารตามขั้นตอนนี้
เลือกซื้อ ควรเลือกลำต้นสีเขียวอ่อน มีใบใหญ่สีเขียวเข้ม ไม่ควรเลือกใบหนาสีเหลือง เพราะเป็นผักที่ใกล้เสียแล้ว
เก็บรักษา หากไม่ทำอาหารทันที ควรล้างทำความสะอาด แล้วเก็บในถุงพลาสติกหรือกล่องใส่อาหารแช่ในตู้เย็นช่องเก็บผัก สามารถเก็บได้นาน 3 – 4 วัน
เมื่อพร้อมแสดงฝีมือ ก็เลือกสัก 1 เมนู ปวยเล้งสามารถกินเป็นผักสดกับน้ำพริก หั่นใส่สลัด หรือ ทำแกงเลียง แกงส้ม ต้มจืด สุกี้ ผัดไฟแดงก็อร่อย ได้ประโยชน์และบำรุงสมองในคราวเดียว
ผู้ป่วยโรคนิ่วควรหลีกเลี่ยง
ปวยเล้ง มีประโยชน์ แต่ก็อาจก่อโทษหากกินมากเกินไป โดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคนิ่วสาเหตุหนึ่งของโรคนิ่วเกิดจากร่างกายดูดซึมและขับสารออกซาเลตผิดปกติ เมื่อสารนี้สะสมจนถึงจุดอิ่มตัวจะทำให้เกิดผลึกก้อนนิ่วได้
ปวยเล้ง มีกรดออกซาลิก (Oxalic acid) สูงข้อมูลจากกลุ่มวิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาการ กองโภชนาการ พบว่า ปวยเล้งมีกรดออกซาลิก 970 มิลลิกรัมต่อน้ำหนัก 100 กรัม ในขณะที่ผักคะน้าและผักกาดหอมมีประมาณ 7.5 มิลลิกรัมต่อน้ำหนัก 100 กรัมเท่านั้น
แม้สามารถกินกรดออกซาลิกจากอาหารได้วันละ 22,000 มิลลิกรัมหรือ 22 กรัม (สำหรับคนที่มีน้ำหนักตัว 60 กิโลกรัม) โดยไม่เกิดโรค แต่เพื่อลดความเสี่ยงผู้ที่มีประวัติเป็นโรคนิ่วหรือเป็นโรคนิ่วอยู่ขณะนี้ ก็ควรหลีกเลี่ยง
รู้จักปวยเล้ง แถมวิธีกินอย่างฉลาด ไม่ว่าวัยไหนก็สมองใส ความจำแจ๋วได้ค่ะ
จาก คอลัมน์มื้อสุขภาพ นิตยสารชีวจิต 345
บทความน่าสนใจอื่นๆ
4 วิธีดูแลผู้ป่วย ภาวะสมองเสื่อม
5 ท่าบริหาร เพิ่มความจำ ป้องกันสมองเสื่อม
สมองเสื่อม … ความชราที่สามารถชะลอได้