มิติที่ 2 ยิงธนูบู๊สต์สมอง แก้ออฟฟิศซินโดรม
ช่วงที่ทำงานอยู่ในองค์การนาซา ดร.วรภัทร์หมั่นหาเวลาออกกำลังกายด้วยค่ะ
“การออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญมาก ช่วงที่ทำงานอยู่นาซาชอบตีเทนนิสและกอล์ฟ เมื่อกลับมาประเทศไทยจึงฝึกจัดดอกไม้ ชงชา และล่าสุดคือ ฝึกยิงธนู เพราะการออกกำลังกายช่วยให้สมองได้คลายความเหนื่อยล้าและเคร่งเครียด“เมื่อไม่นานมานี้ได้ศึกษาอย่างจริงจัง พบว่า การออกกำลังกายด้วยการยิงธนูช่วยกระตุ้นให้เลือดไปเลี้ยงสมอง แก้อาการไหล่ติด ลดอาการปวดไหล่ อีกทั้งยังช่วยคลายพังผืดที่กล้ามเนื้อสะบักด้านหลังจากการนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์นาน ๆ เพราะขณะง้างธนู ต้องใช้กล้ามเนื้อบริเวณสะบัก จึงช่วยบริหารร่างกายได้
“การยิงธนูและสามารถยิงธนูด้วยท่าทางที่ถูกต้องจะช่วยแก้ปัญหาออฟฟิศซินโดรมได้ผลดีมาก เพราะลองปฏิบัติมาแล้วครับ ตอนนี้เริ่มนำศาสตร์การยิงธนูไปประยุกต์ใช้ในวิชาธรรมะและวิปัสสนาที่สอนอยู่ด้วย”
นอกจากนี้ ดร.วรภัทร์ยังบอกอีกว่า การยิงธนูยังช่วยแก้การนอนกรนเสียงดัง แก้อาการปวดท้องช่วยให้รู้สึกสดชื่น และปรับบุคลิกภาพให้ดีขึ้น
มิติที่ 3 ปรับทัศนคติปรับใจ ช่วยงานรุ่ง
เมื่อถามถึงเคล็ดลับการทำงานให้ประสบความสำเร็จ ดร.วรภัทร์ตอบเสียงดังฟังชัด
“โลกนี้ไม่มีคำว่าง่าย มีแต่คำว่าฝึกฝนครับ คนขี้เกียจไม่สามารถประสบความสำเร็จได้” พร้อมกล่าวเสริมว่า “คนที่มักง่าย เอาแต่บ่น เอาแต่คร่ำเคร่ง หรือคิดแต่เรื่องลบ ๆ ไม่ยอมพิจารณาตนเอง ไม่ฝึกฝนตนเอง จะไม่มีวันประสบความสำเร็จได้ครับ
“วิธีปรับทัศนคติ ต้องเริ่มต้นจากการปรับจิตใจคือ หายใจเข้าและออกช้า ๆ หรือฝึกนั่งสมาธิ หากเจอสิ่งใดมากระทบใจในที่ทำงาน ต้องนิ่งไว้ และต้องขยันฝึกฝนบ่อย ๆ ถ้านิ่งได้แล้ว จะรู้เองว่าจะจัดการกับปัญหาอย่างไร”
ดร.วรภัทร์ได้ฝากหัวใจสำคัญซึ่งเป็นหลักในการทำงานไว้ว่า ต้องประกอบกิจการงานสุจริต ไม่เบียดเบียนผู้หนึ่งผู้ใด ดำรงตนอยู่ในเบญจศีลเบญจธรรม ทำทุกอย่างให้เป็นศิลปะ ห่างไกลคนพาล ไม่เข้าใกล้คนโกง คบบัณฑิต และอยู่ในสถานที่เหมาะสม เช่น อยากทำงานเก่ง ต้องหาครูเก่ง ๆ หรือช่วงค่ำ ๆ ควรพักผ่อน ไม่ควรไปอยู่สถานอบายมุข เป็นต้น
“ยึดหลักเหล่านี้ไว้ในใจ แค่ไม่กี่ข้อเท่านั้นผสมผสานกับการฝึกตน ฝึกทัศนคติ และทำสมาธิจะช่วยให้ชีวิตการทำงานเจริญรุ่งเรืองขึ้นได้จริง ๆ”
บทความน่าสนใจ
บู๊สต์พลังสมองแบบอัจฉริยะไอน์สไตน์