กินวิตามิน,โรคเบาหวาน,เบาหวาน

แนะนำวิธีกินวิตามินต้านโรคเบาหวาน สำหรับมือใหม่

วิตามิน B3 ต้านเบาหวาน

วิตามินบี3 หรือไนอะซิน (Niacin) ถูกวงการแพทย์มองข้ามความสำคัญมาเป็นเวลานานหลายสิบปี แต่ปัจจุบันได้รับความสนใจมากขึ้นในการนำมาต่อสู้กับภาวะคอเลสตอรอลในเลือดสูง

ประโยชน์
– ช่วยทำลายพิษหรือท็อกซินจากมลพิษแอลกอฮอล์ และยาเสพติด

– ช่วยให้อาการต่างๆของผู้ป่วยโรคเบาหวานดีขึ้น

– ช่วยในการสร้างอินซูลิน

– ลดคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์(ไขมันในเลือดและไขมันทั่วไป)

วิตามินต้านโรคเบาหวาน,วิตามิน,โรคเบาหวาน,เบาหวาน
ข้าวไม่ขัดสี อุดมไปด้วยวิตามินบี 3 ดีต่อผู้ป่วยเบาหวาน

ปกติร่างกายเราจะสามารถสร้างวิตามินชนิดนี้ขึ้นมาเองได้ แต่หากขาดวิตามินบี1 บี2 และบี6 ก็ไม่สามารถสร้างบี3 ขึ้นมาได้ และเมื่อร่างกายขาดวิตามินตัวนี้ ก็จะทำให้การสร้างฮอร์โมนอินซูลินน้อยลง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้ป่วย
เบาหวานอย่างมหาศาล

จะเห็นได้ว่า วิตามินบี3 มีผลกระทบโดยตรงต่ออาการของโรคเบาหวาน จึงจัดเป็นวิตามินสำคัญที่ผู้ป่วยเบาหวานขาดไม่ได้ โดย นายแพทย์เชลดอน  ซอล  เฮ็นเลอร์  กรรมการที่ปรึกษาของ Board of Medical Advisers ของอังกฤษเห็นควรว่า สามารถกินวิตามินบี3 เสริมได้ตั้งแต่วันละ 100 – 2,000 มิลลิกรัม

การกินวิตามินบี3 ชนิดเม็ดตั้งแต่ 500 มิลลิกรัมขึ้นไป จะรู้สึกร้อนผ่าวที่หน้าและคันตามตัวและหากกินยาปฏิชีวนะอยู่ด้วย อาการร้อนหน้าและคันจะมีมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนไม่มีอันตรายใดๆ รอสักครึ่งชั่วโมงอาการก็จะหายไปเอง หรือให้ลองอาบน้ำเย็นๆก็จะช่วยได้

อย่างไรก็ตาม ข้อควรระวังในการกินวิตามินบี3 คือ วิตามินชนิดนี้มีศัตรูตัวฉกาจ ได้แก่ เหล้า แอลกอฮอล์ ยากันบูดในอาหารทุกชนิด ยาซัลฟา ยานอนหลับ และฮอร์โมนเอสโทรเจน จึงควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเหล่านี้ขณะกินวิตามิน วิตามินบี3 สามารถหาได้จากข้าวทุกชนิดที่ไม่ขัดขาว อาทิ จมูกข้าว รวมถึงรำ ยีสต์ ถั่วลิสง อะโวคาโด มะเดื่อ ลูกพรุน อินทผลัม มันฝรั่ง ใบยอ และเนื้อปลา

วิตามินต้านโรคเบาหวานอื่นๆ อ่านหน้าต่อไป

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.