วิธีลดน้ำหนัก สำหรับคนอ้วน ทำตามง่าย เห็นผลจริง

วิธีลดน้ำหนัก สำหรับคนอ้วน ที่คุณจะร้องว๊าว

วิธีลดน้ำหนัก สำหรับคนอ้วน ต้องทำอย่างไร รีบวิ่งไปฟิตเนสเลยดีไหม เรามีคำตอบดีๆ มาบอก แต่คุณต้องทำตาม!

ก่อนเข้าสู่วิธีลดอ้วน มาดูสถิติโรคอ้วนกันค่ะ ตัวเลขที่น่ากลัวของโรคอ้วนที่เราต้องหันกลับมาตระหนักกันให้มากขึ้นมีดังนี้ค่ะ จากรายงานขององค์การอนามัยโลก ในปี 2008 (พ.ศ. 2551) ประชากรมากกว่า 1.4 พันล้านคน (ตั้งแต่อายุ 20ปี และผู้สูงอายุ) มีภาวะน้ำหนักเกิน (Overweight) โดยเฉพาะผู้ชายมีจํานวนมากกว่า 200 ล้านคน และผู้หญิงประมาณ 300 ล้านคน ที่เป็นโรคอ้วน (Obesity) แบ่งออกเป็น 35 เปอร์เซ็นต์ มีน้ำหนักเกิน และ 11 เปอร์เซ็นต์เป็นโรคอ้วน

ปี 2012 (พ.ศ.2555) เด็กที่อายุน้อยกว่า 5 ขวบ มากกว่า 40 ล้านคน กําลังประสบปัญหาโรคอ้วนและภาวะน้ำหนักเกิน ขณะที่ รายงานการสํารวจสุขภาพประชาชนไทยทั่วประเทศ (พ.ศ. 2552) ของสํานักงานสํารวจสุขภาพประชาชนไทย(สสท.) พบคนไทยอายุ 15 ปี ขึ้นไปมากกว่า 1 ใน 3 มีภาวะ น้ำหนักเกิน และ 1 ใน 10 เป็น โรคอ้วน และจากรายงานขององค์การอนามัยโลกในปี 2013 พบว่า คนไทยอ้วนมากเป็นอันดับ 2 ของ 10 ประเทศอาเซียน ซึ่งชายไทยอ้วนมากเป็นอันดับ 4 ขณะที่หญิงไทยอ้วนมากเป็นอันดับ 2

6 เทคนิคก่อนลดอ้วน

หากมีคนทักว่า “อ้วนมาก” นาทีนี้หลายคนคงรีบจ้ำพรวดไปออกกําลังกาย แต่ช้าก่อนค่ะ การออกกําลังกายโดยไม่มีการเตรียมตัว นอกจากทําให้น้ำหนักไม่ลดแล้ว ยังอาจเป็นอันตรายด้วย คุณกาญจนา พันธรักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกําลังกายและครูโยคะ แนะนําวิธีเตรียมตัวและเทคนิคน่ารู้ในการออก

กําลังกายสําหรับผู้มีน้ำหนักเกินดังนี้

1. เช็กปัญหาสุขภาพของตนเองก่อนว่ามีโรคประจําตัว หรืออาการผิดปกติอะไรบ้าง โดยเฉพาะบริเวณข้อต่อต่างๆ ของร่างกาย

2. เลือกประเภทการออกกําลังกายที่เหมาะสมกับสุขภาพ และเราสามารถทําได้ เช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ โยคะ รํากระบอง เต้นรํา ฯลฯ

3. เลือกเสื้อผ้าและชุดให้เหมาะสมกับประเภทการออกกําลังกาย เพื่อความปลอดภัยระหว่างออกกําลังกาย และควรเป็นชุดที่สวมใส่สบายและสร้างความมั่นใจด้วย

4. เลือกสถานที่ออกกําลังกายซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญ หรือครูผู้ฝึกที่สามารถให้คําแนะนําที่ถูกต้องเพื่อให้การลดน้ำหนักเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

5. ตั้งเป้าหมายในการออกกําลังไว้อย่างค่อยเป็น ค่อยไป แต่ต้องทําอย่างสม่ำเสมอ เช่น ในสัปดาห์แรกควรเดินบนลู่วิ่งอย่างน้อยวันละ 5-10 นาที สลับกับการออกกําลังกายชนิดอื่นๆ เช่น การวิ่ง ขี่จักรยาน (Cross-training) อีกวันละ 10 นาที เพื่อให้ร่างกายปรับตัวจึงค่อยเพิ่มเวลาในสัปดาห์ต่อมา แต่ต้องทําทุกวัน

6. เมื่อกล้ามเนื้อยืดหยุ่นและระบบหัวใจทํางานดีขึ้นแล้ว จากนั้นให้ออกกําลังกายหนักได้อย่างเต็มที่ ซึ่งจะช่วยให้การเผาผลาญไขมันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ลดอ้วนด้วยการกิน

นอกจากออกกำลังกายแล้ว มาสู้โรคอ้วนด้วยอาหารชีวจิต สูตร 2 อาหารชีวจิตคือ การกินอาหารที่เป็นมิตรกับร่างกายและให้คุณประโยชน์ครบถ้วน หนังสือชีวิตเริ่มต้นเมื่อ 70 โดย อาจารย์สาทิส อินทรกําแหงสํานักพิมพ์อมรินทร์สุขภาพ ระบุว่า อาหารชีวจิต สูตร 2 นี้เป็นสูตรที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุม

น้ําหนัก ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดและโรคหัวใจ

ซึ่งใน 1 มื้อควรมีอาหารดังนี้ อาหารประเภทแป้งซึ่งไม่ขัดขาว 30 เปอร์เซ็นต์ เช่น ข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีตจากข้าวสาลี ผัก 35 เปอร์เซ็นต์ เช่น ผักดิบผักสุกอย่างละครึ่ง จะทําเป็นสลัดผักสดหรือผักนึ่งจิ้มน้ำพริกก็ได้ ถั่วต่างๆ 25 เปอร์เซ็นต์ จัดอยู่ในประเภทโปรตีน เช่น ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ถั่วดํา หรือเต้าหู้ โปรตีนเกษตรก็ได้

นอกจากนี้ ยังสามารถกินโปรตีนจากเนื้อสัตว์ได้เป็นครั้งคราว คือ ปลาและอาหารทะเล สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ของกินเล่น 10 เปอร์เซ็นต์ เช่น น้ำซุป น้ำแกง เช่น แกงเลียง แกงจืด ซุปมิโซะผสมสาหร่ายทะเล เมล็ดพืชกินเล่น เช่น ถั่วคั่ว เมล็ดฟักทอง เมล็ดแตงโม และผลไม้สดที่มีรส ไม่หวาน เช่น ฝรั่ง พุทรา มะม่วงดิบ มะละกอ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีอาหารที่อาจารย์สาทิสแนะนําว่าควรงด ดังต่อไปนี้