เกลือ, โซเดียม, ไต, ลดเค็ม, สมุนไพรเสริมรสเค็ม

ลดเค็ม ช่วย ไต ด้วยสมุนไพรไทย

ลดเค็ม ช่วย ไต ด้วยสมุนไพรไทย

คุณรู้ไหมว่า การกินอาหารที่มีเกลือ (โซเดียม) สูงจะเพิ่มการรั่วของโปรตีนในปัสสาวะและยังมีผลเสียต่อ ไต โดยตรง นอกจากนี้ความเค็มยังทำให้หัวใจทำงานหนัก ก่อให้เกิดภาวะหัวใจวายและความดันโลหิตสูง ซึ่งเสี่ยงต่อการเป็นโรคอัมพฤกษ์อัมพาต!

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์สุรศักดิ์ กันตชูเวสศิริประธานเครือข่ายลดบริโภคเค็ม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) อธิบายถึงประโยชน์เมื่อลดการกินเค็มว่า

“เราควรลดความเค็มทีละน้อย เพื่อให้ร่างกายคุ้นชินกับรสชาติที่จืดลง ซึ่งการลดโซเดียมให้ต่ำกว่า 2,000 มิลลิกรัมต่อวันช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจอย่างน้อย10 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งยังป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคความดันโลหิตสูงได้ดียิ่งขึ้น”

โอ๊ย…อันตรายมากมายขนาดนี้ ชีวจิต ขอชวนผู้อ่านมาปรุงรสชาติอาหารให้มีรสเค็มในแบบที่ไม่ต้องจัดเต็มกะปิน้ำปลา

 

สมุนไพรเสริมรสเค็ม

ก่อนจะเติมน้ำปลาและผงปรุงรสอย่างมันมือ ลองเปลี่ยนเป็นเตรียมกระเทียม ตะไคร้ ใบมะกรูด และพริกให้มากขึ้นอีกนิด เพราะสมุนไพรไทยรอบรั้วบ้านจะช่วยให้คุณลดโซเดียมได้

คุณชุษณา เมฆโหรา นักวิจัยสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กล่าวว่า

“ปฏิสัมพันธ์ระหว่างรสชาติและกลิ่นรสสามารถนำมาใช้ในการปรับลดโซเดียมในอาหารได้ค่ะ ความสัมพันธ์นี้เป็นปัจจัยที่มีผลต่อกระบวนการรับรสของมนุษย์ เช่น รสเปรี้ยวช่วยเสริมรสเค็ม รสเค็มช่วยเสริมรสหวาน ซึ่งจากการทดสอบคุณสมบัติของสมุนไพรไทยต่อการปรับลดโซเดียมในอาหารแสดงให้เห็นว่า การเพิ่มสัดส่วนสมุนไพรให้สูงขึ้นร้อยละ 25 - 50 ทำให้เราลดปริมาณโซเดียมจากเครื่องปรุงรสได้ถึงร้อยละ 25 โดยไม่ส่งผลต่อรสชาติโดยรวมของอาหาร”

และนี่คือบรรดา สมุนไพรไทยที่เป็นเคล็ดลับเพื่อปรับลดโซเดียม

สมุนไพร, ลดโซเดียม, ไต, กระเทียม, ตะไคร้, พริก
ปรุงอาหารด้วยสมุนไพรเสริมรสเค็ม แทนการใช้กะปิ น้ำปลา ช่วยลดโซเดียม

พริก 

ความเผ็ดร้อนของพริกสามารถเสริมรสเค็มและเพิ่มกลิ่นหอมให้อาหารได้

กระเทียม 

กลิ่นของกระเทียมจะเพิ่มความกลมกล่อมและการรับรสเค็มในอาหารแต่ละจาน

ตะไคร้ และ ใบมะกรูด 

สมุนไพรสองชนิดนี้เมื่อจับคู่กันจะช่วยเติมความหอมและดึงรสเค็มให้เด่นขึ้น

 

 

<< อ่านต่อหน้าที่ 2 >>

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.