สมุนไพรไทย กลางบ้านรักษาฝี
เราใช้สมุนไพรไทยกลางบ้านในการการรักษาฝีมาแต่โบราณซึ่งมีอยู่มากมายหลายขนาน สามารถนำไปใช้ได้อย่างปลอดภัย และไม่ยุ่งยาก มีหลายสูตรให้เลือกใช้ตามความสะดวก
- ขมิ้นชัน ในขมิ้นมีน้ำมันหอมระเหยประมาณร้อยละ 2-6 มีสารหลายชนิด คือ Turmerone, Zingiberene, Borneol และสารสีเหลืองส้ม คือ Curcumin ประมาณร้อยละ 1.8-5.4 มีสรรพคุณฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ช่วยลดการอักเสบได้ดี และช่วยสมานแผล
วิธีใช้ : นำเหง้าสดยาวประมาณ 2 นิ้ว ฝนกับน้ำต้มสุกทาบริเวณที่เป็น หรือจะใช้ผงขมิ้นโรยก็ได้ - ใบบัวบก สารออกฤทธิ์ในใบบัวบก คือ Madecassic acid, Asiatic acid, Asiaticoside, Madecassoside มีฤทธิ์สมานแผล ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดหนอง ฆ่าเชื้อรา ลดการอักเสบ
วิธีใช้ : นำบัวบกทั้งต้นสด 1 กำมือ ล้างให้สะอาดตำให้ละเอียด คั้นเอาน้ำนำมาชโลมบริเวณที่เป็น จะใช้กากพอกด้วยก็ได้ ทำวันละ 3 ครั้งจนหาย - ฟ้าทะลายโจร สมุนไพรนี้มีสารสำคัญ ได้แก่ สารกลุ่ม Lactone คือ Andrographolide, Deoxandrographolide, Neoandrographolide ช่วยลดการอักเสบของฝี นอกจากนั้นแล้วยังสามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดหนองได้
วิธีใช้ : เตรียมง่ายๆ โดยตำใบฟ้าทะลายโจรพอกฝีหรือคั้นน้ำจากใบทาบริเวณฝี - เปลือกมังคุด เปลือกผลมังคุดมีสารแทนนิน 8.75%-10.5% จากการทดลองพบว่า
เปลือกมังคุดมีฤทธิ์สมานแผล และฆ่าเชื้อแบคทีเรีย อันเป็นสาเหตุของการเกิดหนอง และลดการอักเสบ
วิธีใช้ : ใช้เปลือกผลแห้ง ย่างไฟให้เกรียม ฝนกับน้ำปูนใส ใช้พอกฝี - ว่านหางจระเข้ วุ้นของใบว่านหางจระเข้นี้มีสารเคมี เช่น Aloe-emodin, Aloesin, Aloin และสารประเภท Glycoprotein มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ช่วยสมานแผลได้
วิธีใช้ : นำใบว่านมาปอกเปลือก ล้างยางออกด้วยน้ำต้มสุกหรือน้ำด่างทับทิม ขูดเอาวุ้นมาพอก วันละ 3 ครั้ง ข้อควรระวัง ควรทดสอบการแพ้ก่อนนำไปใช้ โดยลองทาวุ้นบริเวณท้องแขนก่อน ถ้าไม่เกิดอาการแพ้ เช่น คัน หรือเป็นผื่นแดง แสดงว่าสามารถใช้ได้ - ชุมเห็ดเทศ มีสารสำคัญคือ แอนทราควิโนน เช่น สาร Aloe-modin, Chrysophanol, Emodin, Sennoside และยังมีสารพวก Flavonoids, Terpenoids รายงานการวิจัยพบว่าสารสกัดใบสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อ Trichophyton mentagrophytes และมีฤทธิ์ต้านเชื้อราได้
วิธีใช้ : นำใบและก้านสด 1 กำมือ ต้มกับน้ำ เคี่ยวให้เหลือ 1 ใน 3 ใช้ล้างฝี วันละ 2 ครั้ง เช้า เย็น - ว่านมหากาฬ ช่วยถอนพิษ บรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อน ทำให้เย็น รักษาพิษอักเสบ
วิธีใช้ : นำใบสดมาโขลกผสมกับเหล้าขาว ใช้พอกฝี หรือ นำส่วนหัวว่านมาตำพอกฝีหรือฝนกับน้ำปูนใสทาบริเวณที่เป็นฝี วันละ 3-4 ครั้ง - เทียนบ้าน ใบเทียนบ้านมีส่วนประกอบของ 2- methoxy-1, 4 naphthaquinone ซึ่งมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อราได้ และสารสกัดจากใบของเทียนบ้านยังมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อจำพวก dermatophytes ที่เป็นสาเหตุของโรคผิวหนังได้ด้วย
วิธีใช้ : ใช้ใบสดและดอกสด 1 กำมือ ตำพอกฝี หรือคั้นเอาน้ำทาบริเวณที่เป็นฝี วันละ 3 ครั้ง - เมล็ดต้อยติ่ง สรรพคุณช่วยดูดหนอง บรรเทาอาการปวด ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
วิธีใช้ : หยดน้ำลงในเมล็ดต้อยติ่ง เมื่อเมล็ดจะพองออกแผ่ติดกัน นำมาพอกหัวฝีสุกการรักษาฝีเพื่อให้ได้ผลดียิ่งขึ้นนั้น
อาหารการกินเมื่อเป็นฝี
การปฏิบัติตัวเมื่อเป็นฝีนอกจากสูตรสำเร็จ คือ กินอาหารให้ครบ 5หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ และรักษาความสะอาดของร่างกายแล้ว ยังมีสูตรพิเศษซึ่งทำได้ง่ายๆ เพื่อเพิ่มภูมิต้านทานของร่างกายให้แข็งแรงขึ้น ช่วยให้ฝีหายไว
- ควรดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว
- ดื่มน้ำผสมน้ำมะนาวคั้นสด 1 ลูก ตอนตื่นนอนและก่อนเข้านอน
- งดอาหารที่ก่อให้เกิดความเครียด (stressor food) โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำตาลขัดขาวและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลล์ อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- งดบริโภคผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมวัว และอาหารที่ผ่านการแปรรูป
- รับประทานกระเทียมมากๆ ในอาหารแต่ละมื้อ เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
- รับประทานผลไม้จำพวกเบอร์รี่ (ทั้งสดและแช่เย็น) ดื่มชาที่ชงจากใบเบอร์รี่
เป็นฝีแล้วควรใส่ใจสังเกต หาสาเหตุที่แท้จริง และดูแลรักษาตัวเองอย่างดี เท่านี้ก็จะช่วยจัดการกับปัญหาสุขภาพที่อาจตามมาได้ทันท่วงที
ข้อมูลเรื่อง “9 สมุนไพรไทย ปราบฝี” จากนิตยสารชีวจิต ฉบับที่ ..
Pages: 1 2