เป็นประจำเดือน ปวดท้อง แก้ได้
โดยปกติแล้วอาการปวดท้องขณะมีประจำเดือนสามารถพบได้ในผู้หญิง ประมาณ 70เปอร์เซ็นต์ ซึ่งส่วนใหญ่จะปวดไม่มากและสามารถทำงานได้ตามปกติ
นอกจากมีอาการปวดที่รุนแรง คือ คือมีอาการปวดที่ตรงข้ามกับอาการปวดท้องน้อยแบบธรรมชาติ เช่น ตอนสาว ๆ ไม่ปวดแต่กลับเพิ่งมาปวดตอนอายุมากขึ้น เป็นทีละหลาย ๆ วัน และปวดมากขึ้นทุกเดือน ๆ จนทำงานไม่ได้ต้องลางาน หรือมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น อาจจะมีประจำเดือนไหลมากขึ้นผิดปกติ มี ไข้สูง มีหนองไหลออกมาทางช่องคลอด
ซึ่งแสดงว่าอาจจะมีโรคอื่นซ่อนอยู่ข้างใน ได้แก่ โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ในบางกรณีที่เป็นมากอาจพบ มีถุงน้ำที่รังไข่ (โรคช็อกโกแลตซีสต์) โรคเนื้องอกของกล้าม เนื้อมดลูกโรคติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน อาการอย่างหลังนี้ต้องระวัง อาจจะต้องพบแพทย์แผนปัจจุบัน
นอกจากการออกกำลังกายแล้ว หากปวดท้องประจำเดือน เราสามารถนวดกดจุดคลายปวดได้ด้วยตัวเองและดูแลร่างกายให้อบอุ่น ดังนี้ค่ะ
1. การนวด การนวดเป็นการกดจุดตามร่างกาย โดยเฉพาะจุดที่บริเวณด้านหลัง 3 จุด ซึ่งจะสามารถช่วยรักษาอาการปวดประจำเดือนได้ แต่จำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยแพทย์แผนไทยเท่านั้น
2. การประคบ การใช้ถุงน้ำร้อน หรือลูกประคบ จะช่วยบรรเทาอาการปวดท้องน้อยขณะมีประจำเดือนได้ เพราะช่วยลดการบีบตัวของมดลูก ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย
3. ยาประสะไพล รักษาอาการปวดประจำเดือน ประจำเดือนมาไม่ปกติ และขับน้ำคาวปลา วิธีกิน กินครั้งละ 500-1000 มิลลิกรัม ก่อนอาหารเช้า กลางวัน เย็น เป็นระยะเวลา 3-5 วัน กรณีปวดประจำเดือนเป็นประจำ ให้กินก่อนมีประจำเดือน 2 – 3 วัน ไปจนถึงวันแรกและวันที่สองที่มีประจำเดือน แต่ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ และผู้หญิงที่มีระดูมากกว่าปกติ
4. อยู่ในที่อุ่นๆ หรือจิบชาอุ่นๆ เมื่อมีอาการปวดพยายามหลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่เย็น หรือหนาวจนเกินไป โดยต้องพยายามทำตัวให้อุ่นๆอยู่เสมอ เช่น การจิบชาขิง
เพียงเท่านี้ สาวๆก็จะผ่านช่วงวันนั้นของเดือนไปได้อย่างสบายๆ
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
นวดมดลูก ช่วยให้มดลูกแข็งแรงด้วยวิธีธรรมชาติ แก้ปวดประจำเดือน
แก้ ปวดประจำเดือน ด้วย “ชาขิง”