อาหารบำรุงสมอง, บำรุงสมอง, น้ำมันปลา, วิตามินบี

ฟันธง! สุดยอดอาหารสมอง วิตามินบีรวม VS น้ำมันปลา อะไรดีกว่า

บำรุง สมอง ด้วยอะไรดีกว่ากัน

หลายคนคงรู้จักวิตามินบีรวมกับน้ำมันปลาเป็นอย่างดีว่ามีคุณสมบัติช่วย บำรุง สมอง แต่ก็มีหลายคนยังสงสัย ว่าแล้วถ้าต้องเลือก 1 อย่าง ควรกินอะไรถึงจะให้ประสิทธิผลที่เยี่ยมที่สุด เหมือนคำถามจากทางบ้านข้างล่างนี้

“อยากทราบว่า ระหว่างวิตามิน บีรวมกับน้ำมันปลาที่ขายกันตามท้องตลาด มีประโยชน์ต่อสมองต่างกันไหม และ ชนิดไหนมีประโยชน์กว่ากัน”

ผู้เขียนเลยไม่รอช้า รีบบึ่งไปพบคุณหมอสมาน (นายแพทย์สมาน ตั้งอรุณศิลป์) ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทและศัลยศาสตร์ ที่ ชีวจิตโฮมคลินิก แล้วพูดคุยสอบถามถึงประเด็นอาหาร บำรุงสมอง ดังกล่าว เพื่อจะตัดสินให้ได้ว่า อาหารอะไร กินแล้วฉลาด ความจำดี มีประโยชน์ต่อสมองที่สุด

น้ำมันปลามีดีอย่างไร

น้ำมันปลา, บำรุงสมอง, อาหารบำรุงสมอง, อาหารสมอง, สมอง
น้ำมันปลา ช่วยเสริมสร้างโครงสร้างสมองให้สมบูรณ์

น้ำมันปลา (Fish Oil) ซึ่งยังมีหลายคนเข้าใจผิดอยู่มาก ว่าหมายถึงน้ำมันตับปลา จึงขอให้ข้อมูลให้เข้าใจตรงกันเลยว่า

น้ำมันปลานั้นเป็นน้ำมันที่สกัดได้จากส่วนหัวของปลาทะเล เช่น ปลาทู ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีนครับ ส่วนน้ำมันตับปลา นั้นสกัดมาจากตับปลาตามชื่อ ก่อนจะอธิบายถึงคุณค่าของน้ำมันปลาต่อสมอง เรามาดูโครงสร้างสมองของมนุษย์กันก่อน

สมองของคนเรา (รวมถึง ไขสันหลังและเส้นประสาท) นั้นมีไขมันเป็นส่วนประกอบ จึงมีคำเรียกติดปากว่ามันสมอง ดังนั้นการรับไขมันเข้าไป จะเป็นการช่วยบำรุงโครงสร้างของสมองนั่นเอง ซึ่งการบริโภคไขมันมีเคล็ดลับหลายอย่างเพื่อให้ได้ประโยชน์แก่ร่างกายมากที่สุด

ในขณะเดียวกันก็ต้องส่งผลเสียต่อร่างกายน้อยที่สุด  น้ำมันปลาจึงเป็นทางเลือกของการบริโภคไขมัน เพราะ จัดเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (ชนิดโอเมก้า – 3) ที่มีคุณสมบัติไม่ตกตะกอนในระบบไหลเวียนโลหิต จึงไม่ทำให้ เส้นเลือดตีบตันเหมือนไขมันอิ่มตัว

ประโยชน์ของน้ำมันปลา คือ ช่วยบำรุงโครงสร้างสมอง เหมาะสำหรับเด็กอายุไม่เกิน 10 ปี เพราะเป็นช่วงที่สมอง ยังมีการเจริญเติบโตเรื่อยๆ

 

วิตามินบีรวมที่ขาดไม่ได้

วิตามินบีรวม, บำรุงระบบประสาท, บำรุงสมอง, อาหารบำรุงสมอง, สมอง
วิตามินบีรวม ช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของสมองและระบบประสาท

วิตามินบีรวม (B-Complex) นั้นประกอบไปด้วยวิตามิน บี10 ชนิด ได้แก่ บี1 บี2 บี3 บี4 บี5 บี6 บี9 บี12 บี15 และบี17 โดยตัวที่มีการพูดถึงมากที่สุด ได้แก่ วิตามินบี1 บี6 และบี12 มีประโยชน์ช่วยบำรุงเซลล์ประสาทให้แข็งแรง แก้เหน็บชา ช่วยเปลี่ยนกรดแอมิโนทริปโตเฟนให้กลายเป็นสารเซโรโทนินที่จะช่วยให้สงบ มีสมาธิ และยังเป็นโคเอนไซม์(Coenzyme) ช่วยในการทำงานของสมองและระบบประสาท

วิตามินบีเหล่านี้พบมากในธัญพืช นม ถั่วต่างๆ หากต้องการกินเพื่อบำรุงสมองเป็นหลัก ควรกินแยกชนิดเพียง บี1 บี6 และบี12 เพราะจะได้ปริมาณที่เข้มข้นกว่าการกินวิตามินบีชนิดรวมใน 1 เม็ด ซึ่งจะถูกหารเฉลี่ยกับวิตามินบีตัวอื่นๆ  ส่วนเรื่องของผลเสียหรือผลข้างเคียง วิตามินบีสามารถกินเยอะหรือเกินกว่าที่ร่างกายต้องการได้ เพราะละลายในน้ำ ร่างกายสามารถขับออกทางปัสสาวะ แต่ทางที่ดีควรกินแต่พอดีจะประหยัดสตางค์กว่า หรือสามารถเลือก กินจากอาหารตามที่กล่าวไปก็ได้เช่นกัน

 

แล้วอะไรดีกว่ากัน?

เด็กวัยเรียน, บำรุงสมอง, อาหารบำรุงสมอง, สมอง
ในเด็กวัยเรียนอายุต่ากว่า 10 ปี ควรบำรุงสมองด้วยการกินน้ำมันปลา

หากพิจารณาตามข้อเด่นข้อด้อยของสารอาหารทั้งสองชนิดจะพบว่า

เด็กอายุไม่เกิน 10 ปี = น้ำมันปลาดีกว่า เพราะช่วยเสริมสร้างโครงสร้างสมองให้สมบูรณ์

วัยหลังจากนั้น = วิตามินบีรวมจะดีกว่า เพราะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองและระบบประสาท

สรุปแล้วไม่สามารถตัดสินได้ว่าระหว่างสารอาหาร ทั้งสองชนิดนี้อย่างไหนดีกว่ากัน ขึ้นอยู่กับผู้กินเป็นหลัก หากยังเป็นเด็ก อายุไม่เกิน 10 ปี น้ำมันปลาจะช่วยเสริมสร้างโครงสร้างสมองให้สมบูรณ์ เมื่ออายุมากเข้าวิตามินบีรวมหรือบี1 บี6 บี12 จะช่วยในเรื่องประสิทธิภาพการทำงานของสมองและระบบประสาท

หากต้องการกินอาหาร บำรุง สมอง แนะนำให้เลือกกินให้เหมาะสมกับวัยและสภาพร่างกาย อย่าลืมกินอาหารอื่นๆที่มีประโยชน์ถูกหลักโภชนาการด้วย


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

อโรมาเทอราปี บู๊สต์ สมอง เพิ่มฉลาด สุขภาพเยี่ยม

เทคนิคกิน อาหารบำรุงสมอง ฉลาดทันใจใน 7 วัน

รวมเคล็ดลับกิน แซลมอน เอาใจสมอง

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.