กินลูกเกด ฟันไม่ผุ
ในอดีตเชื่อว่าลูกเกดเหมือนกับขนมขบเคี้ยวรสหวานชนิดอื่น ซึ่งเป็นสาเหตุของฟันผุ เพราะมีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบแถมยังเหนียวหนึบติดฟัน
แต่การศึกษาล่าสุดโดย Journal of Food Science กลับพบว่า กินลูกเกดอย่างเดียวไม่ทำให้ฟันผุ เพราะมีคุณสมบัติ 3 ประการ คือ ไม่เพิ่มความเป็นกรดในช่องปาก จึงไม่ทำลายเคลือบฟัน ไม่ติดฟันนานเหมือนอาหารชนิดอื่น มีหลายการศึกษายืนยันว่า ลูกเกดมีความเหนียว หรือระยะเวลาติดฟันไม่นานถึงขนาดทำให้ฟันผุ เหมือนขนมหวานชนิดอื่นและอาจมีส่วนช่วยขจัดน้ำตาลที่ก่อให้เกิดฟันผุ (Cariogenic Sugars) ซึ่งเคลือบบนผิวฟันได้ และประการสุดท้ายอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระช่วยต้านแบคทีเรียสเตร็ปโตค็อกคัสมิวแทนส์ (Streptococcus Mutans) ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของฟันผุ
ลูกเกดมีสรรพคุณช่วยป้องกันฟันผุ ซึ่งเหมาะสำหรับเป็นขนมขบเคี้ยวสำหรับเด็ก ๆ แต่หากใคร กำลังลดน้ำหนัก ก่อนกินควรคำนึงถึงปริมาณและพลังงานที่เหมาะสมร่วมด้วย เพราะลูกเกด 2 ช้อนโต๊ะ ให้พลังงานเทียบเท่าข้าว 1 ทัพพีเลยทีเดียว
แอ๊ปเปิ้ล แครอต ขัดฟันขาว
เคยนึกเล่น ๆ ว่า คงดีไม่น้อยหากมีอาหารที่กินแล้วช่วยทำความสะอาดฟันไปพร้อม ๆ กัน ไม่น่าเชื่อว่าอาหารชนิดนี้มีอยู่จริง แถมใกล้ตัวจนคาดไม่ถึง
แอ๊ปเปิ้ล แครอต และผักชีฝรั่ง มีคุณสมบัติช่วยทำความสะอาดฟัน ทำหน้าที่คล้ายแปรงสีฟันขนาดเล็ก ช่วยขัดฟันขณะเคี้ยว ดร.เจฟฟ์ โกลูบ – อีแวนส์ (Jeff Golub - Evans) จากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก (New York University) อธิบายเพิ่มเติมว่ากรดอ่อนจากธรรมชาติ เนื้อสัมผัสหยาบ และใยอาหาร คือลักษณะพิเศษที่สามารถทำความสะอาดฟันและช่วยขัดฟันให้ขาวขึ้นได้ โดยเฉพาะคราบเหลืองบนผิวฟันที่เกิดจากการดื่มกาแฟเป็นประจำ
พร้อมแนะนำให้กินแอ๊ปเปิ้ลวันละ 1 ผล หรือผักอีก 2 ชนิดเป็นมื้อว่างหรือหลังมื้ออาหาร จากนั้นกลั้วปากด้วยน้ำสะอาด เพียงเท่านี้ก็ช่วยชะล้างน้ำตาลและคราบอาหารออกจากผิวฟันได้
British Veterinary Journal รายงานประโยชน์ของการกินแอ๊ปเปิ้ลหลังมื้ออาหารว่า กรดอ่อนๆ ในแอ๊ปเปิ้ลมีผลช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำลายและเพิ่มสภาวะความเป็นด่างภายในช่องปาก ทั้งมีรายงานจาก British Dental Journal สนับสนุนให้ตบท้ายมื้ออาหารด้วยแอ๊ปเปิ้ลเช่นกัน เพราะมีคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลต่ำ จึงไม่เพิ่มความเป็นกรดในช่องปากและช่วยลดความเสี่ยงฟันผุได้
